วารินอึ้งไป ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เธอจะเลิกหรือไม่เลิกกับวิวัฒน์ เธอก็ไม่ยอมเป็นแฟนเขาหรอก ผู้ชายบ้าอำนาจ เอาแต่ใจ เจ้าชู้แบบนี้ ใครมันอยากได้มาเป็นแฟนกัน ที่สำคัญเธอเกลียดผู้ชายอย่างเขาที่สุด
“พี่ไม่อยากเถียงกับหนูน้ำแล้ว เราหาไปอะไรกินกันเถอะ พี่หิวจะแย่แล้ว”
“ก็ดีค่ะ น้ำก็หิวแล้วเหมือนกัน ที่สำคัญง่วงแล้วด้วย”
“โอเค! เราก็ไปกันเถอะครับ”
ชายหนุ่มตัดบทเมื่อเห็นท่าทางอ่อนล้าและสีหน้าเคร่งเครียดของวาริน แต่เชื่อเถอะว่าคืนนี้หญิงสาวไม่ได้นอนหรอก เพราะเขามีโปรแกรมที่จะทำกับเธออีกเยอะแยะ แต่ก่อนอื่นต้องหาอะไรทานเสียก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที
หลังจากนั้นอัคคีก็พาวารินเดินเที่ยวตลาดโต้รุ่ง ตลาดแหล่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของหัวหินและดังไปทั่วโลก ภายในตลาดก็จะมีของกินหรือของที่ระลึกวางขายเรียงรายไปตลอดถนน อาหารมีอยู่หลากหลายทำให้วารินถึงกับลืมความเศร้าไปทันที
“มีอาหารน่าอร่อยทั้งนั้นเลยคะพี่คีย์”
“มันก็แน่อยู่แล้วครับหนูน้ำ ตลาดแห่งนี้ขึ้นลือชานักในเรื่องของความอร่อยของรสชาติ มีอาหารง่ายๆ อร่อยๆ มากมายหลายเจ้าให้นักท่องเที่ยวเดินซื้อเลือกชิมไปตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็น ผัดไทย หอยทอด กระเพาะปลา หมูสะเต๊ะ ซีฟู๊ด อาหารหวานก็มี โรตี ไอศกรีม ขนมไทย ผลไม้ นอกจากนี้ยังมีขายเสื้อผ้า กระเป๋า นิตยสาร ซีดีหนัง งานหัตกรรม ภาพวาด โคมไฟ ตลาดโต้รุ่งแห่งนี้ถือเป็นสีสันยามราตรีของหัวหินเลยนะ”
“น้ำรู้แล้วค่ะไม่ต้องอธิบายเสียละเอียดหรอกค่ะพี่คีย์”
“พี่นึกว่าหนูน้ำไม่รู้ไง ก็เลยเล่าให้ฟัง ว่าแต่อยากกินอะไรต่อดีล่ะ หอยทอดก็อร่อย กระเพาะปลาก็อร่อยเอ้...หรือว่าจะกินหมูสะเต๊ะ”
อัคคีถามในขณะที่สายตามองไปยังร้านขายหอยทอดกับกระเพาะ สองเท้าตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปหยุดที่หน้าร้าน ก่อนจะหันมามองคาตัวเล็กที่ยืนมองหอยทอดในกระทะด้วยสายตาพราวระยับ แค่ดูสายตากลมโตคู่นั้นยามมองเจ้าของกินหาทานบนกระทะ เขาก็รู้แล้วว่าสาวน้อยคนนี้ทานเก่งใช่ย่อย เพราะตลอดทางทีผ่านมาเขายังไม่เห็นหญิงสาวหยุดปากเลย ทั้งมือของเขาและของเธอเต็มไปด้วยของกินอร่อยจนเต็มมือไปหมด
“เอาหมูสะเต๊ะ แล้วก็หอยทอด”
“สองอย่างเลยเหรอหนูน้ำ”
“ค่ะพี่คีย์ สองอย่างเลย”
คนตัวเล็กตอบแบบไม่ต้องคิด สายตาจ้องมองหอยทอดและหมูสะเต๊ะที่แม่ค้ากำลังทำอยู่ด้วยสายตาพราวระยับ ของอร่อยๆ แบบนี้ใครมันจะไม่อยากกินกัน วารินยิ้มหวานยามนึกว่าอาหารแสนอร่อยเหล่านี้อยู่ในปากของเธอ แค่คิดน้ำลายก็สอแล้ว
สายตาคู่คมจ้องมองสีหน้ามีความสุขของคนตัวเล็กก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูระคนขบขัน โชคดีที่เขารู้มาก่อนว่าหญิงสาวเป็นพวกประเภทชอบเสาะหาอาหารอร่อยๆ มาทานอยู่เสมอ เพราะแบบนี้นี่ไงถึงได้เป็นเพื่อนรักกับน้องสาวของเขาได้ เพราะชลธิดาก็มีนิสัยไม่ต่างจากสาวน้อยคนนี้เลย
“โอเคครับ ซื้อทั้งสองอย่างเลยก็แล้วกัน”
อัคคีพยักหน้าตอบคนตัวเล็ก จากนั้นก็หันไปสนใจแม่ค้าขายหอยทอดกับแม่ค้าขายหมูสะเต๊ะทันทีเช่นกัน ไม่นานแม่ค้าทั้งสองก็ยื่นถุงใส่หอยทอดกับหมูสะเต๊ะมาให้พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นที่บรรดาแม่ค้าส่งมาให้ ทำให้เขาต้องยิ้มตอบเสียไม่ได้ รอยยิ้มและอัธยาศัยที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้ามีให้นักท่องเที่ยว ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดโต้รุ่งหัวหินแห่งนี้เลยทีเดียว
///////////
หลังจากทั้งสองไปเดินเที่ยวตลาดโต้รุ่งและหาอะไรทานเรียบร้อย อัคคีก็พาวารินตรงไปยังร้านเจ้าประจำของเขา ร้านอาหารกึ่งผับซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักตากอากาศของครอบครัวเขานัก เสียงเพลงไพเราะเสนาะหูพร้อมด้วยบรรยากาศแสนโรแมนติกยามค่ำคืน เชิญชวนให้บรรดานักท่องเที่ยวต่างมุ่งหน้าตรงเข้ามาในร้านอย่างไม่ขาดสาย
วารินกวาดสายตามองไปรอบๆ ร้านด้วยความทึ่งจัด แม้เธอกับชลธิดาจะมาเที่ยวหัวหินบ่อย แต่ร้านที่อัคคีพามาในค่ำคืนนี้ เธอยังไม่เคยมาเลยสักครั้ง อย่ามาแต่เข้าร้านนี่เลยแม้แต่คิดก็ยังไม่เคย บรรดานักท่องเที่ยวเต็มร้านไปหมด ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างนั่งจับคู่กันอยู่ตามมุมของร้านอาหารกึ่งผับแห่งนี้
“คนเยอะจังเลยค่ะพี่คีย์”
“ปกติที่นี่ก็เยอะแบบนี้แหละครับ”
“น้ำมาเที่ยวหัวหินกับชลออกบ่อย แต่ไม่เคยเข้ามานั่งในร้านนี่เลย”
น้ำเสียงหวานบอกคนข้างกาย ดวงตาคู่กลมโตมองบรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งเอาไว้อย่างทันสมัยที่ผสมระหว่างวัฒนธรรมแบบไทยและแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว นึกอยากเห็นเจ้าของร้านเหลือเกินว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงมีไอเดียที่บรรเจิดเช่นนี้
มือหนาดันร่างเล็กให้เดินเข้าไปในร้าน สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ เพื่อมองหาเจ้าของร้าน ก่อนจะยิ้มติดมุมปากเมื่อเห็นเพื่อนสนิทที่เดินยิ้มตรงมาหาเขา คิดแล้วก็อดเสียดายอยู่เหมือนกันที่เจ้าของร่างสูงกำยำที่ปรี่ตรงเข้ามาหาเขานั่นเป็นประเภทชายรักชาย เรียกได้ว่าเสียทรัพยากรหนุ่มหล่อหน้าตาดีไปอีกหนึ่งคน
หากสาวๆ รู้เรื่องนี้เข้าคงเสียใจและร้องไห้กันระงม ที่ทายาทหนุ่มเจ้าของรีสอร์ตและร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังของหัวหินนิยมพวกเดียวกัน ที่เขารู้ความลับสุดยอดของชายหนุ่มคนนี้นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับแห่งนี้นั่นเอง
“ลมอะไรหอบมาวะไอ้คีย์”
“ลมบ้าหมูวะไอ้ศักดิ์”
สิ้นเสียงตอบของอัคคี วารินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มร่างสูงกำยำ หน้าตาหล่อเหลาที่เดินยิ้มมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ในใจรู้สึกฉุนกึกที่แท้เจ้าของร้านก็เป็นเพื่อนของเขานี่เอง มิน่าถึงบอกมาว่าเที่ยวที่นี่บ่อย คนเสเพล เหลาะแหละ ถ้ารู้ว่าเป็นร้านของเขา เธอจะไม่ชมเด็ดขาดว่าเขาแต่งร้านได้สวยมาก
“สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มนี่ใครกันเหรอไอ้คีย์ ไปหลอกเด็กที่ไหนมาว่ะเนี่ย”
เจ้าของร่างสูง กำยำถาม ตาก้มลงมามองร่างเล็กตรงหน้าเพื่อนสนิทอย่างสงสัย อัคคีไปฉุดเด็กที่ไหนมาอีก คราวก่อนก็ว่าน่ารักแล้วนะ แต่ไม่ตัวเล็กเท่าสาวน้อยคนนี้ อายุถึงยี่สิบหรือยัง อดิศักดิ์มองพิจารณาสาวน้อยตรงหน้าอย่างละเอียดยิบ แล้วก็ต้องหัวเราะเมื่อเห็นดวงตากลมโตถลึงใส่อย่างองำ ไม่ว่ามองมุมไหนเขาก็คิดว่าผู้หญิงที่เพื่อนสนิทพามาอายุน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ
“ไม่เด็กแล้วไอ้ศักดิ์ หนูน้ำอายุยี่สิบหกแล้ว”
“หนูน้ำเหรอ?”
สรรพนามที่เพื่อนสนิทใช้เรียกสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มทำให้ อดิศักดิ์ต้องขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ถ้าจำไม่ผิดผู้หญิงที่อัคคีเรียกว่าว่า ‘หนูน้ำ’ คนนี้เป็นเพื่อนรักของ ‘หนูชล’ ไม่ใช่เหรอ แล้วที่สำคัญสาวน้อยคนนี้ก็คือผู้หญิงที่เพื่อนสนิทเขาแอบหลงรักมานานหลายปีด้วย
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...