ปฐมบท
ฟ้ามืดสลัวเกี้ยว ถูกหามเข้าไปยัง ตำหนักรกร้างไร้ซึ่งสรรพเสียงอิงฮวา (ดอกซากุระ) ก้าวขาลงจากเกี้ยว แหงนหน้ามองป้ายหน้าตำหนัก
ตำหนักโม่โฉว (ปราศจากความเศร้า) รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นตรงหน้าชื่อตำหนักกับชื่ออ๋องโม่โฉว เป็นชื่อเดียวกัน หันมองคนหามเกี้ยวที่ต่างพากันลากเกี้ยววิ่งจากไปไม่หันหลัง นี่มันอะไรกัน ตำหนักใหญ่โตแต่ไร้ซึ่งแสงไฟและสรรพเสียง ขันทีหนุ่มน้อย ออกมายืนตรงหน้า ประสานมือก้มหน้าก้มตาไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบตามองอิงฮวา
“เชิญ พระชายา”น้ำเสียงราบเรียบประดุจน้ำนิ่ง อิงฮวายิ้มบางๆ แต่กลับสูญเปล่ามือขันทีผู้นั้นหันหลังกลับเข้าไปข้างในทันที ห้าวขาตามเข้าไปบ้าง ก้าวผ่านประตูเข้าไปพบลานโล่งกว้างมี บอนไซหลายกระถางตั้งอยู่ จนต้องเดินหลบเลี่ยง เขาว่าคนนิยมบอนไซมักจะเป็นคนเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง บอนไซแต่ละต้นถูกเลาะเล็มกิ่งจนสวยงามเป็นรูปเป็นทรง หากไม่ใจเย็นจะทำสิ่งเหล่านี้ได้หรือ
“เข้ามา”เสียงเรียบเฉยทว่าปลายเสียงดุดัน จนน่ากลัว
“พระชายาเชิญด้านใน”ขันทีหนุ่มน้อย ผายมือเชิญอิงฮวาก้าวขาผลักบานประตูเข้าไปช้าๆ เสียงบานประตูดังออดแอด ร่างเล็กแทรกกายเข้าไปด้านในที่มืดมิดปราศจากแสงไฟ ร่างเล็กถูกรวบทันควัน ริมฝีปากถูกกดปิดทันทีแทบจะไม่ทันได้หายใจ ทั้งดึงทั้งลากอิงฮวาไปที่แท่นนอน โยนร่างบางลงบนแท่นนอนโถมร่างใหญ่เข้าใส่ทันที