บทที่ 7 อาชลเปลี่ยนไป
แพขนตาบางกระพริบสองสามครั้งเพื่อปรับแสงก่อนจะลืมตาขึ้นกรรณณารามองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ข้างเตียงก่อนจะเอามือขยี้ตา
หกโมงเช้า
เธอตื่นสายกว่าปกติสามสิบนาทีเป็นไปได้ไง หญิงสาวคิดก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆตั้งอยู่บริเวณสะโพก หญิงสาวหันลงไปมองและต้องตกใจ
แขน แขนของอาชล นี่เขากอดเธอเหรอ เมื่อไหร่เนี่ยหญิงสาวคิดอย่างตกใจและยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อรู้สึกถึงแรงกอดรัดที่มากขึ้นจนแผ่นหลังของเธอแนบชิดกับอกกว้างแสนสมบูรณ์แบบ ลมหายใจร้อนๆรินรดต้นคอจนกรรณณาราทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้เธอเข้าใกล้มนุษย์เพศชายใกล้ๆแบบเนื้อแนบเนื้อแบบนี้ครั้งแรกแถมเขายังไม่ใส่เสื้ออีกต่างหาก จมูกของชนะชลขยับเข้าใกล้ใบหน้าของหญิงสาวก่อนจะซุกเข้ากับต้นคอคล้ายกับละเมอ กรรณณาราตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะจิต หัวใจเต้นรัวอย่างไม่รู้สาเหตุ
เอาไงดี คิดสิกระแตจะนอนให้กอดแบบนี้เหรอ ฝันไปเถอะ กรรณณาราถามตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปแกะและยกแขนแกร่งออกจากสะโพกแต่ยิ่งแกะก็ยิ่งรัด นี่ตกลงว่าหลับจริงหรือเปล่าเนี่ย หญิงสาวพยายามแกะอีกครั้งและอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงยอมหยุดนิ่งแต่พอหยุดแรงกอดรัดก่อคลายออก
ให้มันได้แบบนี้สิ ไอ้เราพยายามเกือบตายยิ่งรัดพอหยุดกลับคลายออกเฉยเลยกรรณณาราคิดก่อนจะลงมือแกะแขนแกร่งออกจากสะโพกและครั้งนี้ก็สำเร็จ เธอค่อยๆขยับลุกออกจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวจะทำให้อีกคนตื่นไม่ใช่กลัวรบกวนนะแต่ทำตัวไม่ถูกคิดๆแล้วพวงแก้มก็พาลร้อนผ่าวแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว กรรณณารารีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดเดินเข้าห้องน้ำไป
"หึๆ เธอตามอาไม่ทันหรอกกระแตน้อย" คนที่คิดว่ายังหลับอยู่ลืมตาขึ้นมาก่อนจะเอ่ยขึ้น ความจริงเขารู้สึกตัวตั้งแต่เธอยังไม่ตื่นแต่แกล้งหลับต่ออยู่นานจนเธอตื่นขึ้นมา เขากอดเธอไว้ตั้งแต่เมื่อคืนและยอมรับกับตัวเองเลยว่าเขารู้สึกอุ่นใจสบายใจที่มีเธอในอ้อมกอดอุ่นกว่าใครๆที่เคยกอดอุ่นกว่าใครบางคนที่ทำให้เขาปิดตายความรู้สึกเสียด้วย
"นั่นอะไรหอมจัง" เสียงที่ถามขึ้นขณะที่กรรณณารากำลังแต่งหน้าไม่ได้ทำให้เธอใจเต้นแปลกๆตัวแข็งทื่อโดยอัตโนมัติได้เท่ากับใบหน้าราวเทพบุตรที่เกยไหลขวาลมหายใจรินรดใบหูเธอตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นกับอาชลผู้ที่เคยนิ่งเงียบกัน
"ว่าไงฮึ ที่ถืออยู่นั่นอะไรหอมเชียว เหมือนกับกลิ่นที่ผมเลย" ชนะชลเอ่ยถาม
นี่เขากำลังทำอะไรเนี่ยฉวยโอกาสเด็กอยู่ใช่มั้ย?ชายหนุ่มคิดอย่างขบขันตัวเอง
"ถะ ถอยออกไปเลยนะ คิดจะฉวยโอกาสใช่มั้ย" กรรณณาราเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก ชนะชลเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะขโมยหอมแก้มสาวฟอดใหญ่ก่อนจะยิ้มให้คนที่ถอยออกก่อนจะหันมามองอย่างเอาเรื่อง
"ไม่เห็นจะผิดตรงไหนไม่ต้องมองแบบนั้นเลย เราแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้วเด็กน้อย สามีภรรยาจะกอดจะหอมกันไม่แปลกหรอกกระแตน้อย" ชนะชลบอกอย่างหน้าตาเฉย มันก็จริงอย่างเขาว่าแต่เธอกับเขามันคู่สามีภรรยาปกติที่ไหนกันเล่าข้ออ้างในการฉวยโอกาสชัดๆ
"เราเป็นเหมือนคนอื่นที่ไหนกันเล่าไอ้คนฉวยโอกาส ไหนบอกไม่ชอบยุ่งกับเด็กไง จะทำตัวเป็นโคแก่ไง๊ แล้วอีกอย่างไม่ใช่กระแตน้อย" กรรณณาราเอ่ยออกอย่างขึงโกรธพร้อมกับใบหน้าแดงซ่านอย่างขัดเขินเธอเคยถูกใครที่ไม่ใช่พี่กับพ่อหอมแก้มซะเมื่อไหร่
"ทีแรกก็ว่าไม่อยากยุ่งหรอก แต่คิด ๆไปเด็กมันปากก็หวาน ก้นก็นุ่ม ผิวก็หอม เป็นโคแก่ก็ยอม หึหึหึ เข้าใจไหมกระแตน้อย" ชนะชลเอ่ยบอก ทีแรกกะจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปแกล้งนิ่งให้เด็กไม่ระแวง แต่พอนึกไปถึงคำพูดของบิดาเมื่อวานแล้วมันทนไม่ได้ เขาต้องรีบจู่โจมและกินเด็กให้ได้ก่อนหลานชายตัวดีจะพาเมียมาเปิดตัวให้ได้โดนว่าไร้น้ำยา เด็กอยู่ใกล้มือยังกินไม่ได้
"กรี๊ด ลามก ทะลึ่ง โรคจิต นี่เพื่อนหลานนะ เพื่อนหลาน" กรรณณาราเอ่ยบอกใช้นิ้วชี้หน้าตัวเองไปด้วย
"คำว่าเพื่อนหลานมันจบลงตั้งแต่อาจูบเธอแล้วนังหนูเอ้ย อาของเพื่อนกับเพื่อนของหลานที่ไหนจูบกันเล่า" ชนะชลเอ่ยออกมาก่อนจะเดินมาใกล้ๆก้มลงตรงหน้าหญิงสาวแล้วพูด
"สามีไปทำงานก่อนนะคุณภรรยา จุ๊บ" นอกจากพูดแล้วเขายังจุ๊บจมูกเธอก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้อีกคนยื่นแข็งทื่ออย่างตกตะลึง
"กินยาลืมเขย่าขวดรึไงเนี่ย" กรรณณาราได้แต่เอ่ยอย่างละเมอ กรี๊ดนี่ฉันอยู่ในความฝันใช่มั้ย นาคินในนิยายยังไม่ทำขนาดนี้กับน้ำตาลเลย อ่อยแรงชะมัด อย่าไปหลงเชียวไอ้กระแต
"อารมณ์ดีจังนาย ลืมกินยาเหรอครับ" หมอกเอ่ยทักเจ้านายที่เดินยิ้มแฉ่งเข้ามาในไร่กาแฟเพราะทำงานกันมานานรู้จักกันมาก็ตั้งแต่ชนะชลยังเป็นแค่เด็กทารกทำให้หมอกกล้าที่จะเล่นหัวลามปามกับผู้เป็นนาย
"ฉันไม่ได้บ้า แล้วนี่เป็นยังไงบ้างต้นกาแฟมีปัญหามั้ย" ชนะชลทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงต้นกาแฟ
"ไม่มีปัญหาครับ จริงสินี่ก็ใกล้วันงานเลี้ยงประจำปีของไร่แล้วนะครับปีนี้จะจัดรึเปล่าครับนาย" หมอกเอ่ยถาม ในทุก ๆปีจะต้องมีงานเลี้ยงที่คนงานทั้งไร่และฟาร์มเหมือนฝันหยุดงานและมาสังสรรค์ ดื่มกินกันเป็นนโยบายของพ่อเลี้ยงชัยชลที่มีเมตตาคืนกำไลให้คนงานได้คลายเหนื่อย แต่ปีที่แล้วคนงานมีเรื่องกันจนชนะชลยกเลิกงานกลางคันและไล่กลุ่มที่มีเรื่องกันออก เขาเลยอยากรู้ว่าปีนี้จะมีงานเลี้ยงหรือไม่
"มีสิ จัดสามวันไปเลย ฉันจะถือโอกาสเปิดตัวแตด้วย มะปรางจะได้เลิกพูดพล่อยๆ" ชนะชลบอกก่อนจะหันหน้าไปมองเนินเขาสูงด้านหน้า หมอกได้แต่ยืนมองอย่างตกใจ จากกระแต หรือแค่ แต อีกไม่นานไร่เราต้องครึกครื้นแน่
"ยิ้มทำไม ไปทำงานสิ" ชนะชลตีหน้าขรึมเมื่อลูกน้องยิ้มหน้าระรื่น
โรงอาหาร ในไร่แสนรัก
12.00น.
กรรณณาราพร้อมด้วยคมเข้มและวสาเดินเข้ามาในโรงอาหารของไร่ด้วยความหิว โดยเฉพาะกรรณณาราที่เอาแต่แย่งหน้าที่คนงานมาทำเพื่อให้ลืมเรื่องที่เจอมาเมื่อเช้าจนเหนื่อยไปหมดแต่ยังไม่วายคิดถึงเรื่องนั้นอยู่
"ทานอะไรดีคะนายหญิง มีแกงหน่อไม้ ผัดเปรี้ยวหวาน แกงเขียวหวาน ไข่พะโล้แล้วก็น้ำพริกปลาทู " จำปาแม่ครัวใหญ่ของไร่เอ่ยถามอย่างคุ้นเคย พร้อมทั้งนึกชมที่หญิงสาวไม่ถือตัวสักนิดทั้งนั่งทานข้าวในโรงอาหารหรือบางวันยังไปล้อมวงทานข้าวกับคนงานในฟาร์มเหมือนฝัน
"แกงเขียวหวาน กับแกงหน่อไม้ค่ะ พี่สา พี่เข้ม เอาอะไรอีกมั้ย" กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะหันมาถามผู้ติดตามทั้งสอง
"ไข่พะโล้ แล้วกันค่ะนายหญิง" รสาเอ่ยบอกส่วนเข้มแค่พยักหน้าเห็นด้วย จำปาจัดแจงตักแกงและข้าวให้ทั้งสามก่อนจะเหลือบไปเห็นเจ้านายและหมอกเดินมาพอดี
"อ้าว วันนี้นายกินข้าวที่นี่เหรอคะ" จำปาเอ่ยถามผู้เป็นนายขณะที่ตักแกงเขียวหวานใส่ถ้วย กรรณณาราจ้องถ้วยแกงเขียวหวานอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่เธอจะได้แกงเขียวหวานถ้วยนั้นสักที
"ใช่ แล้วก็มาแจ้งข่าวให้ทุกคนรู้ด้วย ทุกคนหันมาฟังทางนี้" ชนะชลเอ่ยบอกจำปาก่อนจะเอ่ยบอกคนงานที่ทานอาหารกันอยู่เสียงดัง กรรณณาราที่ยืนรอข้าวอยู่เริ่มจะหงุดหงิดเมื่อจำปาหยุดฟังผู้เป็นนายแล้วไม่ตักแกงเขียวหวานใส่ถ้วยให้เธอต่อสักที คนมันหิวนะจะมาประกาศอะไรตอนนี้
ชนะชลได้แต่มองแล้วขบขันในใจอย่างเอ็นดู เด็กน้อยจริง ๆ
"อย่างที่รู้กันว่าวันศุกร์หน้าตรงกับวันงานเลี้ยงประจำปี หลายคนคงคิดว่าปีนี้คงไม่มีแต่ไม่ต้องรีบเสียใจเพราะปีนี้ฉันจะจัดสามวันเพื่อชดเชยที่ปีที่แล้วทุกคนต้องหมดสนุกกัน ในงานนอกจากกิน ดื่ม สนุกสนานแล้วฉันอยากให้มีจัดการแสดงเพื่อสร้างความครื้นเครงด้วยมีงบให้ชุดล่ะ1หมื่น และจะให้จัดโหวตด้วยใครที่ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดจะได้เงินรางวัล1แสนบาท ใครสนใจก็สมัครกับหมอกเลย" ชนะชลเอ่ยบอกพร้อมกับยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงเฮของคนงาน
"ดื่มได้มั้ยนาย" เสียงคนงานคนนึงตะโกนถาม
ชนะชลจึงตอบออกมาทันที "งดเครื่องดื่มมึนเมาทุกอย่าง งดการพนันด้วย ฉันไม่อยากให้เหมือนปีก่อน บอกคนที่ไม่ได้อยู่ในนี้ด้วย อีกข้องานเลี้ยงครั้งนี้ถ้ามีใครทะเลาะวิวาทฉันจะเอาหนักกว่าปีก่อน"
"มีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละใครสงสัยถามเจ้าหมอกหรือมาถามฉันก็ได้กินข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวคนโมโหหิวจะเหวี่ยงเอา" ชนะชลเอ่ยบอกลูกน้องก่อนจะแซวคนโมโหหิวที่ยืนรอแกงเขียวหวานอยู่ข้างๆ ฮิ้ว เสียงเป่าปากของคนงานยิ่งทำให้กรรณณาราเก้อเขิน
"นายจะรับอะไรดีคะ" จำปาถามออกมาทั้งที่มือยังค้างอยู่ที่จวักตักแกงเขียวหวาน
"แหม่ป้า ถามไม่ดูหน้าเมียฉันเลย ตักให้นายหญิงก่อนเถอะ เดี๋ยวเธอจะพาลโกรธฉันไปใหญ่" ชนะชลเอ่ยบอกมิวายแซวคนยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเขินที่ถูกเรียกเต็มปากว่าเมียหรือเจ้าหล่อนกำลังโมโหหิวกันแน่ ช่างน่าเอ็นดู
"อุ๊ยตายแล้ว! ขอโทษค่ะนายหญิง ป้าลืมไปเลย ขอโทษจริง ๆ" จำปาเอ่ยบอกเมื่อหันมองเมียเจ้านายแล้วนึกขึ้นได้ว่ายังตักแกงให้ไม่เสร็จ
"ไม่เป็นไรค่ะป้า ป้าจำปาไม่ผิด ผิดที่เจ้านายป้าต่างหาก" กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะรับถ้วยแกงแกงเขียงหวานและแกงหน่อไม่ใส่ถาดเดินออกไปก่อนจะวีนใส่คนเป็นเจ้านายจำปา
"นั่นไงป้า ฉันว่าแล้ว มีเมียเด็กนี่ก็เอาใจยากนะป้า" ชนะชลเอ่ยเสียงดังอย่างขำๆก่อนจะสั่งอาหารสองสามอย่าง จำปาให้ผู้เป็นนายไปนั่งรอเดี๋ยวเธอจะเอาไปให้เอง ชนะชลกับหมอกจึงเดินไปที่นั่งลงตรงข้ามกับกรรณณาราที่นั่งตักข้าวเจ้าปากเคี้ยวตุบตุบอย่างอร่อยโดยไม่สนใจใคร คมเข้มและวสามองหน้าหมอกราวกับปรึกษาว่าควรอยู่ตรงนี้มั้ยก่อนที่ทั้งสามจะล่าถอยออกจากโต๊ะอย่างเงียบกริบ
"อร่อยมั้ยกระแต่น้อย" เสียงที่เอ่ยถามทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาทานอย่างเอร็ดอร่อยเงยขึ้นมองอย่างตกใจก่อนจะหันมองข้างๆที่วสากับคมเข้มเคยนั่ง ไปกันตอนไหนเนี่ย
"ว่าไงอร่อยมั้ย กินจนไม่สนใจรอบข้างเลยคุณเมีย" ชนะชลเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มแพรวพรายให้ ยิ้มที่ทำให้สาวๆใจละลายมานักต่อนักสมัยยังเป็นนายทหาร ยิ้มที่หายไปเกือบสิบปี
'เธอโดนอ่อยอยู่ใช่มั้ยเนี่ย อีตาอาชลมาแปลก แค่เมื่อเช้าก็ใจจะละลายแล้วนะ ถ้าไม่คิดจะรักอย่ามาทำให้หลงได้มั้ย'กรรณณาราได้แต่เอื้องเอ่ยตัดพ้อในใจ เธอกลัวหัวใจตัวเองหวั่นไหวกับอีตาคนนี้เสียจริง ๆ แต่สำหรับเธอไม่คิดจะหลงหรอกถ้าอีกฝ่ายไม่คิดจะรัก
'อย่ามาหลอกแอ้มเสียให้ยาก ชิ'กรรณณาราคิดก่อนจะลงมือทานของตรงหน้าต่อ ชนะชลทำหน้าที่ผู้มองที่ดีจนหญิงสาวต้องเหลือบมองอยู่บ่อยครั้ง
'เอาแต่มองอยู่ได้ โอ๊ยอยากจะบ้า' เธอยังคงพูดในใจกับตัวเองจนจำปาเดินถือถาดกับข้าวของชายหนุ่มมาให้
"นี่ค่ะนาย" จำปาเอ่ยก่อนจะเดินออกมาชื่นชมความเหมาะสมของทั้งคู่ไกลๆ
"กินด้วยกันมั้ยกระแตน้อย" ชนะชลเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กแสบมองกับข้าวของเขาตาละห้อย โธ่เด็กหนอเด็ก
"ชิ กินยาลืมเขย่าขวดรึไงอาชล" กรรณณาราเอ่ยถามแต่แทนที่จะตอบคนถูกถามกลับตักผัดเปรี้ยวหวานมาคลุกข้าวตักใส่ปากแทน พ่อคุณช่างกวนประสาทในความรู้สึกของกรรณณารา
"ถามก็ไม่ตอบ เป็น บะ ฮือ" ประโยคที่เอ่ยยังไม่ทันจบถูกกลืนลงคอไปทันทีที่ข้าวคลุกผัดเปรี้ยวหวานถูกป้อนเข้าปากแทบเคี้ยวไม่ทัน
"กินเยอะๆกระแตน้อยจะได้โตเป็นกระแตใหญ่ไวๆ" ชนะชลเอ่ยอย่างอยากยั่วโมโหก่อนจะตักใส่ปากตัวเองบ้าง
"อาชล!" กรรณณาราเอ่ยตวาดเสียงเข้มแต่หาได้สร้างความเกรงกลัวให้แก่เจ้าของชื่อแม้แต่น้อย
"กินก่อนน๊าอย่าเพิ่งบ่น ไว้บ่นทีหลังแล้วกัน สามีหิวมากถ้าไม่รีบกินตอนนี้สาบานเลยว่าสามีจะกินคุณภรรยาแทน ยิ่งอยากกินหญ้าอ่อนอยู่ด้วย" ชายหนุ่มเกือบใหญ่เอ่ยบอกก่อนจะตักนั่นตักนี่ให้กรรณณารา หญิงสาวที่คิดจะต่อว่ารีบกลืนคำพูดลงคอไปด้วยกลัวไอ้คำขู่ทีเล่นทีจริงของเขา 'มีเมียเด็กกระชุ่มกระชวยดีแท้นี่ขนาดยังไม่ได้กินนะ ถ้าได้กินเนี่ยจะขนาดไหน'
สำนักงาน
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วแทนที่กรรณณาราจะได้ไปดูวิธีทำงานในโรงคัดแยกใบชากลับต้องตามชนะชลมาที่สำนักงานแทน โดยเขาบอกว่าต้องการให้เธอช่วยเกี่ยวกับบัญชีของไร่แทนหมอกที่ต้องเกณฑ์คนงานไปช่วยเตรียมงานเลี้ยงประจำปีที่จะเกิดขึ้นในอีก5วันข้างหน้า และแทนที่จะให้เธอนั่งตรวจบัญชีที่โต๊ะทำงานของหมอกชนะชลกลับให้เธอเข้าไปทำงานในห้องทำงานของเขาแถมไม่ใช่แค่ในห้องทำงาน ชนะชลยังบังคับให้เธอนั่งตรวจบัญชีบนตักเขาอีกต่างหาก
"นะ นี่อาชล" กรรณณาราเรียกคนที่เสียสละตักให้เธอนั่งด้วยความเต็มใจ จริง ๆเธอกะจะนั่งตรวจไปเงียบๆนะถ้าไม่ติดที่เจ้าของตักแกร่งทำหื่นฉวยโอกาสหาเศษหาเลยกับเนื้อตัวเธอนี่สิ ทั้งจับ ทั้งลูบ ทั้งดม จะให้นั่งเงียบอยู่คงไม่ได้ อีตาอาชลของเธอกลายร่างเป็นมนุษย์โคแก่หวังเคี้ยวหญ้าอ่อนเต็มตัวแล้ว
"ว่าไง? มีอะไรผิดปกติเหรอ" ชนะชลเอ่ยถามแต่จมูกโด่งยังวนเวียนอยู่ใกล้กกหู ไม่รู้ว่าเขาหื่นหรือคิดจะแกล้งเธอกันแน่ ให้ตายเถอะไม่เคยหื่นขนาดนี้มาก่อน ยัยกระแตอยู่เหนือการควบคุมจริง ๆ
"เอาจมูกออกไปหน่อย ถ้ายังแกล้งกันอยู่ เค้าจะไปทำงานข้างนอกแล้วนะ" กรรณณาราว่าก่อนจะทำท่าขยับลุกแต่กลับถูกชนะชลรวบเข้าหาตัวพร้อมกับกอดไว้แน่น
"ทำงานต่อไปสิคุณเมียไม่ต้องสนใจสามี สปิริตนะมีมั้ย ไหนว่าเก่งไงแค่โดนกวนแค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ" ชนะชลแกล้งเอ่ยเพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบให้ดูถูกความสามารถหรือท้าทาย
"คนอย่างกระแตไม่หวั่นกับเรื่องแค่นี้หรอก ฮึย" หญิงสาวเอ่ยก่อนจะหันไปสนใจตัวเลขในบัญชี และอาจจะมีใจเต้นบ้าง หน้าเห่อร้อนบ้างจากการถูกหอมถูกดมแต่ก็มุ่งความสนใจไปที่งานมากกว่า ชนะชลนึกทึ่งในความสามารถของหญิงสาวความเอ็นดูเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจ และอาจไม่เคยเป็นกับใครมากเท่านี้
"อาชล" เสียงเรียกดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเงียบไปนานเกือบสองชั่วโมง คนที่หาเศษหาเลยกับร่างบางบนตักจนหนำใจทำเสียงครางตอบในลำคอแทนการพูด
"เค้าหิว" กรรณณาราเอ่ยบอกอย่างเก้อเขิน แต่ทำไงได้ล่ะคนมันหิวนิ
"จะกินขนมหรือกินสามีดีหล่ะ" ชนะชลเอ่ยก่อนจะโทรศัพท์หาแม่บ้านในสำนักงาน คนถูกหยอดนั่งทำหน้าไม่ถูกไปพักใหญ่
"อัมพาช่วยออกไปซื้อของกินเล่นสักสามสี่อย่างที่ตลาดให้หน่อย ผลไม้ด้วย ใช่...มาเอาเงินที่ฉัน โอเคถ้าไม่พอก็บอกเขาว่าฉันจะไปจ่าย" ชนะชลเอ่ยสั่งก่อนจะวางสายมองคนที่ทำตาปริบๆอยู่บนตัก
"กินก็เยอะ แต่ไม่เห็นจะอ้วนเลยกระแตน้อยผอมยังกะไม้เสียบลูกชิ้น"
" มันหนักหัวตัวเหรอ ยุ่งอะไรด้วย " กรรณณาราสวนกลับอย่างมีน้ำโหนิดๆ ชนะชลยื่นหน้าไปห้อมแก้มสาวก่อนจะเอ่ยบอก"ก็ไม่หนักหัวสามีหรอก แถมยังเบาเกินอุ้มเข้าห้องสบายเลย"
"โอ๊ย เลิกฉวยโอกาสสักทีได้มั้ย ช้ำหมดแล้ว" กรรณณาราแกล้งโวยวายกลบเกลื่อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างของแม่บ้านวัย29จะเดินเข้ามา
"อุ๊ย ขอโทษค่ะนาย นี่ค่ะของที่สั่ง อัมพาไปดูที่ตลาดมีทองม้วน ลูกชิ้นปิ้ง แล้วก็ยำวุ้นเส้นกับยำมะม่วงค่ะ ส่วนผลไม้ได้ส้มเขียวหวานมาค่ะจากไร่ของนายหญิงเสียด้วย" อัมพาเอ่ยบอกก่อนจะวางถาดของกินและผลไม้ลง
"ขอบใจมากอัมพา เอ้านี่เงินค่าของที่ซื้อมาไม่ต้องทอนถือเป็นค่าเหนื่อย ไปทำงานต่อเถอะ" ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะยื่นธนบัตรให้ไป อัมพารับไปแล้วเดินออกจากห้องไป ด้านคนบนตักเจ้าของไร่ได้แต่นั่งหน้าแดงอายสายตาของแม่บ้านสาวก่อนหน้านี้
"กินด้วย ป้อนหน่อยสิ" ชนะชลเอ่ยเสียงอ้อนๆ ทำตัวน่ารักขนาดนี้หญิงสาวไม่หลงเจ้าหล่อนคงความรู้สึกตายด้านแล้ว กรรณณาราได้แต่แกล้งฮึมฮัมเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายก่อนจะหยิบไม้ลูกชิ้นขึ้นมาจ่อที่ปากอย่างฮึดฮัด ชนะชลกลับยิ้มออกมาทำไมยัยกระแตต้องน่ารักขนาดนี้ว่ะ เดี๋ยวก็รักซะนี่