บทที่6 ต้องมนต์โคแก่

3138 คำ
บทที่6 ต้องมนต์โคแก่ สายตาคมจ้องมองใบหน้าของตัวเองในกระจกด้วยใบหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะนึกไปถึงอีกคนที่เธอเพิ่งตบหน้าเขาไป ใครๆก็บอกว่าพ่อเลี้ยงชนะชลสุภาพ น่าเกรงขาม แถมสาวๆของเขายังบอกว่าเขาไม่ล่วงเกินผู้หญิงอายุต่ำกว่า30 แต่นี่มันอะไร คนแก่ฉวยโอกาสชัดๆ เธอเสียจูบแรกและจูบที่สองในเวลาไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ แถมยังรู้สึกดีอย่างประหลาดจนอยากจะด่าตัวเอง "อาชลไม่เจ้าชู้ แต่ก็เป็นชายชาติเสือ แถมมีเสน่ห์ที่ใครเข้าใกล้ยังต้องมนตรา ถ้าไม่อยากเสียตัวและหัวใจให้ไปล่ะก็อย่าเข้าใกล้เชียว เพราะเดี๋ยวจะต้องมนต์พ่อเลี้ยงชนะชลเอาได้" คำพูดของชัชรินทร์ที่เอ่ยบอกสาวๆร่วมคณะเมื่อสองปีก่อนดังขึ้นในหัวปานเตือนสติว่าขืนยังเข้าใกล้บุคคลอันตรายคนนี้เธอจะต้องมนต์ ตกหลุมเสน่หาที่เขาไม่ได้ตั้งใจขุดแต่มีคนตกลงไปเป็นสิบเป็นแน่ "โอ๊ย เขาแค่อารณ์พาไปเข้าใจมั้ยยัยกระแต อย่าไปต้องมนต์โคแก่เชียว ไอ้บ้าชัชแกรู้มั้ยเนี้ยว่าหาเหาใส่หัวเพื่อน" เมื่อหาที่ลงไม่ได้คนเดียวที่จะโยนความผิดทั้งหมดไปให้ก็ไม่พ้นชัชรินทร์ "แม่เลี้ยงค่ะ แม่นายให้มาเชิญไปที่บ้านโน่นค่ะ" วรรณณาน้องสาวของแวววลีเอ่ยบอกนายหญิงที่นั่งมองกระจกอยู่ในห้องนั่งเล่น วรรณณาและจันทร์เพ็ญพี่สาวของจันทร์ฟองทำงานอยู่ที่บ้านอีกหลังซึ่งมีพ่อเลี้ยงชัยชลและแม่เลี้ยงชนิสาอาศัยอยู่ส่วนแวววลีและจันทร์ฟองอยู่ดูแลบ้านใหญ่หลังนี้ "ค่ะพี่วรรณ พี่วรรณพอจะทราบไหมว่าคุณแม่เรียกแตทำไม" กรรณณาราเอ่ยถามขณะกำลังก้าวเดินออกจากห้องนั่งเล่น วรรณณาได้แต่ส่ายหน้าเบาๆก่อนที่ทั้งสองเดินออกไป "คุณแม่มีอะไรรึเปล่าคะ?" กรรณณาราเอ่ยถามทันทีที่มาถึงบ้านของพ่อแม่สามี พ่อเลี้ยงชัยชลและแม่เลี้ยงชนิสานั่งอยู่ในสวนดอกไม้โดยมีคุณชนะโชจน์ ลูกชายคนกลางและคุณวาลิณีลูกสะใภ้ของทั้งสองนั่งอยู่พร้อมด้วยชาลิณีและชาลิตลูกสาวและลูกชายนั่งอยู่ที่ชิงช้า ทั้งสองอายุน้อยกว่ากรรณณาราสองและสามปี "สวัสดีค่ะอาโชจน์ อาลิณี " กรรณณาราเอ่ยทักทายผู้มีศักดิ์เป็นพี่สามีและพี่สะใภ้สามีอย่างสนิทสนมก่อนจะยิ้มหวานให้ ชนะโชจน์และครอบครัวเปิดโรงแรมและรีสอร์ตอยู่ที่แม่ฮ่องสอนทำให้กรรณณาราสนิทกับทั้งคู่มากกว่าชนะชลและชนิดาและชนิกาพี่สาวคนกลางและคนเล็กที่ได้สามีอยู่กรุงเทพมหานาคร "ยังจะเรียกอาอยู่อีก เรียกพี่ได้มั้ยฮึฮึ" ชนะโชจน์เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง ในบรรดาพี่น้องชนะโชจน์จะดูขี้เล่นและอ่อนโยนที่สุด พ่อเลี้ยงชนะชัยผู้เป็นพี่คนโตออกแนวดุดันน่าเกรงขาม นายหัวชนะเชษฐ์พี่ชายคนรองที่อาศัยอยู่ที่เกาะรังนกที่ภูเก็ตจะออกแนวเงียบขรึมและดุดัน คุณนายชนิดาและคุณนายชนิกาน้องสาวฝาแฝดจะนิ่งเงียบและเจ้าระเบียบส่วนชนะชลผู้เป็นน้องเล็กนั้นค่อนข้างซ่อนเคี้ยวเล็บมีทั้งความเงียบขรึมดุดันน่าเกรงขามและขี้เล่นเล็กๆอยู่ในตัวแต่ความขี้เล่นของน้องชายเลือนหายไปจากเหตุการณ์ฝังใจเมื่อสิบปีก่อนเขาได้แต่หวังว่าสักวันจะมีใครสักคนทำให้มันกลับมาและอาจจะเป็นเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นได้ "ก็มันติดปากนิ เค้าเรียกของเค้าแบบนี้มานานแสนนาน จากอาโชจน์เป็นพี่โชจน์มันปรับตัวไม่ทัน " กรรณณาราแกล้งเอ่ยก่อนจะนั่งลงข้างๆคุณวาลิณี คุณวาลิณีกางแขนโอบกอดกรรณณาราอย่างเอ็นดู "อุตส่าห์มาจากแม่ฮ่องสอนเพื่อฟังกระแตเรียกพี่เลยนะ ไม่เรียกให้ชื่นใจสักนิดเหรอ" คุณวาลิณีเอ่ยแกล้ง กรรณณาราหัวเราะออกมาก่อนจะซุกหน้าเข้าที่อกของหญิงวัยกลางคนอย่างออดอ้อน "แหม่ๆ อย่าน้อยใจซิค่ะอาลิณี ไม่สิ ต้องเรียกว่าพี่ลิณีคนสวย" กรรณณาราทำเสียงอ่อนเสียงหวานจนทุกคนพากันเอ็นดู "ถ้าอ้อนนายชลแบบนี้บ้างคงดียัยตัวแสบ" ชนะโชจน์เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริงก่อนจะยกมือขึ้นลูกปอยผมกรรณณาราอย่างเอ็นดู "อาแตคะ ลิตากำลังจะสอบอาแตติวให้หน่อยสิ" ชาลิตาเอ่ยบอกหลังจากกรรณณาราพูดคุยกับพ่อแม่ของตนจนพอใจแล้ว "อาเหรอ ยัยลิตาเป็นกิ้งก่าเหรอพี่ก็พอมั้ง" กรรณณาราเอ่ยพร้อมกับมองคนที่เรียกเธอว่าอาทั้งที่อายุห่างกันแค่สองปี "คิกๆ อาน่ะแหละไม่ผิดหรอก คุณอาสะใภ้" ชาลิตาหัวเราะก่อนจะเอ่ยบอกและหัวเราะอีกครั้ง "ใช่ครับ อาสะใภ้ จะให้เรียกพี่แตเหมือนเดิมเดี๋ยวเขาจะหาว่าเราสองคนไร้มารยาท ฮะฮะฮ่า" ชาลิตเอ่ยเสริมก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้นจากทุกคนบนโต๊ะ เสียงหัวเราะเฮฮาลอยเข้าในโสตประสาทของกลุ่มคนที่เพิ่งเดินมาใหญ่ นายเหมืองชนะเชษฐ์เดินนำมากับปาริตาภรรยาที่อายุห่างกัน12ปีและชันษาลูกชายวัย7ขวบ ตามด้วยคุณนายชนิดาและชยางกูรและชาริมาลูกชายและลูกสาวฝาแฝดวัย18ปี คุณนายชนิกาเดินตามหลังมาพร้อมกับคุณกวินสามีและกรรณิการ์ลูกสาววัย19ปี และหลังสุดคือคนที่พี่ๆไปเซอไพรซ์ถึงสำนักงานอย่างชนะชลที่เดินมากับพ่อเลี้ยงชนะชัยแม่เลี้ยงวารินทร์และชญารินทร์ลูกสาวคนโตวัย24ปี "หัวเราะกันลั่นสวนเลยนะครับทุกคน" ชนะเชษฐ์เอ่ยทักขึ้น กรรณณารามองไปที่กลุ่มคนมาใหม่ก่อนจะทำหน้างง นี่มันวันอะไรมากันเต็มบ้านเลย "นี่มันวันรวมญาติรึไงเนี่ยมากันเต็มหมดเลย" กรรณณาราเอ่ยออกมาเหมือนจะพูดคนเดียวเสียมากกว่า "วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของพ่อกับแม่จ๊ะหนูกระแต ทุกคนเลยมารวมกันอย่างรู้งานยกเว้นบางคนที่ทำงานจนหลงๆลืมๆเกือบทุกปี" แม่เลี้ยงชนิสาเอ่ยบอกพร้อมทั้งแขวะลูกชายคนเล็กเบาๆที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่กลับทำแต่งานจนลืม "โธ่แม่ครับ ผมก็มาร่วมทุกปีนิ" ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปหามารดา "ยะ พ่อคนมาทุกปี นี่พี่ๆไปตามมาจากไร่ใช่มั้ย แล้วนั้นหน้าไปโดนอะไรมา" แม่เลี้ยงชนิสาเอ่ยอย่างหมั่นไส้ก่อนจะถามออกมาเมื่อเห็นรอยแดงๆบนซีกหน้าด้านขวา คนทำได้แต่ตีหน้าปกติ "ซุ่มซ่ามไปชนกระจกนะครับ กระจกมันเลยตบเอา" ชนะชลเอ่ยบอก ก่อนแอบหันไปมองกระจกที่ตบเขา "อาชลเนี่ยไม่ไหวเล้ย โตจนป่านนี่แล้วไม่ระวังอีก อาแตช่วยดูๆด้วยนะครับอาชลแก่แล้ว" ชาลิตเอ่ยขึ้นทั้งที่ไม่เชื่อสักนิดเป็นรอยนิ้วห้านิ้วขนาดนั้นจะเป็นกระจกได้ยังไง เมียตบสิไม่ว่า "แหม่หลานชายผมนี่น่ารักน่าถีบลงเนินหลังบ้านซะจริง" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยก่อนจะนั่งลงข้างๆกรรณณาราเพราะพี่ๆและหลานๆยึดที่นั่งฝั่งมารดากันหมด ด้านกรรณณาราถึงกับใจเต้นระรัวเมื่อไหล่บางถูกร่างของชายหนุ่มเสียดสีตอนนั่งลง "โอ๊ยน่ารักอ่ะยอมรับ แต่หน้าถีบรับไม่ได้" ชาลิตเอ่ยบอกพร้อมทำหน้ายียวนจนผู้เป็นอาหมั่นไส้ 'ไอ้โชตัวดียียวนที่หนึ่ง ดีนะไอ้ชัชไม่อยู่ไม่งั้นประสาทกินแน่' "ป่านนี้อีพี่ชัชเนี่ยหาเมียแก่เจอรึยังไม่รู้นะคะ" ชาลิตาเอ่ยออกมาเมื่อเห็นน้องชายกวนประสาทอาสุดที่รักแล้วพาลนึกถึงอีกคนที่ทุกครั้งจะต้องร่วมมือกันยียวนใส่ชนะชลขึ้นมา "นั่นสิคะ ใครๆก็ชอบเด็กๆสาวๆทั้งนั้นแต่พี่ชัชประหลาดดันอยากได้เมียแก่ ดูอย่างลุงเชษฐ์สิมีเมียเด็กกว่าตั้ง12ปียังดูหนุ่มแน่นเหมือนเป็นพี่เราเลยทั้งที่อายุอานามก็44เข้าไปแล้ว" กรรณิการ์เอ่ยออกมาบ้างพร้อมยกตัวอย่างชนะเชษฐ์ที่ยังคงหนุ่มแน่นพอๆกับชนะชล "นั่นสิพูดถึงเมียเด็ก เดี๋ยวนี้ใครบางคนจะหาหาว่าพี่เป็นโคแก่ไม่ได้แล้วนะเว้ย จริงมั้ยน้องรัก" ชนะเชษฐ์เอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปถามใครบางคนที่ว่า เขาจำได้ตอนที่พาปาริตามาแนะนำให้ทุกคนรู้จักไอ้น้องชายคนเล็กมันหาว่าเขาเป็นโคแก่เคี้ยวหญ้าอ่อนดูวันนี้สิมันมีเมีย(ทางนิตินัย)อายุห่างกันมากกว่าเขากับปาลิตาอีก "โธ่พี่เชษฐ์อยากเก็บมาคิดให้รกสมองสิ แล้วนี่ชมพู่ไม่มาด้วยเหรอครับ" ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปถามถึงชมัยพรหลานสาววัย7ขวบ "อยู่กับตายายน่ะ ไม่สบาย ช่วงนี้เชียงใหม่หนาวกลัวเป็นหนักกว่าเดิม ถามหาแต่หลานไม่คิดจะมีเองเลยรึไง " ชนะเชษฐ์เอ่ยตอบก่อนจะเอ่ยถามอย่างขำขัน คนถูกถามทำหน้าไม่ถูก 'เด็กยังไม่ได้กิน จะไปเสกเด็กเข้าท้องได้ไงวะ' ไลน์ ! เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันยอดฮิตดังขึ้นทำให้กรรณณาราที่ทำหน้าไม่ถูกพอๆกับชนะชลสะดุ้งโหยงก่อนจะหยิบขึ้นเปิดดู นายชัช : ไฮ อาสะใภ้ ฝากอวยพรปู่กับย่าให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงด้วย รักท่านเสมอ "ไอ้เพื่อนทรยศ ยังมีหน้าฝากนู่นฝากนี่อีก" กรรณณาราเอ่ยขึ้นหลังจากอ่านข้อความของเพื่อนทรยศเสร็จ หญิงสาวพิมพ์ข้อความกลับหาเพื่อนรักทรยศทันที กระแต : แกอยู่กับเตใช่มั้ย ไอ้เพื่อนทรยศหายไปเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยนะ นายชัช : ใครทรยศ ไม่มี๊ เพื่อนแค่หวังดีกับเพื่อนกับอา กระแต: ไอ้เพื่อนบ้า ไอ้นิสัยไม่ดี ขอให้แกไม่ได้พี่ไผ่หวานสมใจ นายชัช : โทษทีได้แล้วว่ะ 555 หญ้าแก่อร่อยมากกกก "ไอ้ชัชบ้า ไอ้เพื่อนนิสัยเสีย หมดกันพี่ไผ่หวาน " กรรณณาราเอ่ยอย่างลืมตัวจนคนอื่น ๆหันมามอง ชนะชลก้มลงมองข้อความสนทนาของทั้งสองก่อนจะสะดุ้งเล็กๆกับคำว่าได้แล้ว กับหญ้าแก่อร่อยมาก ไอ้หลานบ้านี่มันหาหลานสะใภ้แก่กว่า(มัน)ให้เขาจริง ๆเหรอวะเนี่ย "อะไรกันกระแต แล้วไผ่หวานนี้ใคร นั่นคุยกับตาชัชใช่มั้ย" แม่เลี้ยงวารินทร์เอ่ยถามน้องสะใภ้หน้าตางุนงง "ลูกสะใภ้ป้ารินทร์ไงคะ ไอ้ชัชมันไปปล้ำพี่เขาแน่ ๆ มันบอกว่าพี่ไผ่หวานเป็นเมียมันแล้ว" กรรณณาราเอ่ยอย่างหงุดหงิด เธอชื่นชมไผ่หวานมาก และรู้จักชัชรินทร์ดีว่าชายหนุ่มค่อนข้างคาสโนว่า ไผ่หวานไม่น่าตกเป็นเมียคนแบบนั้นเลย ด้านคนที่ฟังถึงกับงงไปอีก "พี่ไผ่หวานเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงานที่ไร่ไพรพนาค่ะ ครั้งก่อนไปเที่ยวกันไอ้ชัชมันมองพี่เขาตาเยิ้มเลย พี่ไผ่หวานอายุ25 ได้ยินว่าเพิ่งตกงาน ไอ้ชัชมันวางแผนไว้แต่แรกว่าจะหนีงานแต่งแล้วไปที่นั่นเพื่อจีบพี่เขา แต่ไปๆมาๆมันบอกว่าได้แล้วแบบนี้มันต้องปล้ำพี่เขาแน่ ๆ" กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะหอบแฮ่กๆเพราะหายใจไม่ทัน "ไอ้ชัชนี่มัน มันน่านัก" พ่อเลี้ยงชนะชัยเอ่ยขึ้นหลังจากฟังน้องสะใภ้คราวลูกเอ่ยบอก "ผมว่าปล่อยมันไปก่อนเถอะครับ ผมเคยได้ยินพ่อเลี้ยงติณบอกว่าลูกสาวหัวหน้าคนงานโหดมากหนุ่มๆไม่กล้าจีบ ท่านยังเคยแนะนำให้รู้จักเลย โหดๆแบบนั้นเอาไอ้ชัชอยู่แน่" ชนะโชจน์เอ่ยบอกพี่ชายเขารู้จักกันติณภพเจ้าของไร่ไพรพนาที่เป็นพ่อของเตชินเพื่อนอีกคนของชัชวินทร์และกรรณณารา "นั้นสินะ ปล่อยมันไปก่อนก็ได้ ไปกินข้าวกันดีกว่า จะได้แยกกันไปพัก เฮ้อ ไอ้ชัชมันหายไปเกือบสองอาทิตย์ได้เมียแก่สมใจ แต่อามันนี่สิของสวยๆงามๆอยู่ข้างตัวไม่เห็นจะทำอะไรได้ ไร้น้ำยา" พ่อเลี้ยงชัยชลปรามาศชนะชลอย่างอ้อมๆก่อนจะถูกภรรยาเข็ญเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร นี่สรุปเขาผิดใช่มั้ย ให้มันได้แบบนี้สิ ไอ้หลานเวรนั้นก็อีกไวไฟชะมัด 22.00น. "ไอ้ชลไลน์มาอีกรึเปล่า" ชนะชลเอ่ยถามเมื่อกลับมาที่ห้อง แต่ดูกรรณณาราจะไม่ได้ตอบหญิงสาวสอดส่องหาอาวุธป้องกันตัว เพราะเธอไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว แถมไม่ไว้ใจตัวเองกลัวจะต้องมนต์เสน่ห์อันมากมายของเขาด้วยแถมเธอยังเคยชื่นชมเขาอีก แค่ชื่นชมนะไม่ได้หลงใหลคลั่งไคล้ "กลัวเหรอเด็กน้อย หึหึหึ ไม่ต้องกลัวไป อาไม่กินเด็ก" ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ'ซะที่ไหนวะ อยากกินอยู่หรอก แต่ต้องให้ไม่ระแวงซะก่อน หึหึหึ' "เชื่อได้เปล่าวะ?" หญิงสาวถามตัวเองก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้า หาชุดที่มิดชิดที่สุด 20นาทีต่อมา ร่างสูงเปลือยอกเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสดชื่นท่อนล่างมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันไว้อย่างหมิ่นเหม่ท่อนบนเปลือยเปล่ามีหยาดน้ำเกาะพราวเต็มอก สายตาคมสวยที่แกล้งนั่งอ่านหนังสืออยู่แอบมอง โอ้ยใจจะละลาย กล้ามแน่นมาก หนึ่งสองสามสีห้าหก....โอ๊ยเริดอ่ะ "มองตรง ๆก็ได้นะเด็กทะลึ่ง ไม่ต้องแอบ" เสียงเอ่ยบอกดังขึ้นอย่างขำขันก่อนจะยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา หญิงสาววางหนังสือลงอย่างเขินอายก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป กรี๊ด ยัยแต ไม่น่าอ่านนิยายตอนนั้นเลย' หญิงสาวได้แต่บ่นในใจ ก่อนหน้านี้เธอกำลังอ่านนิยายเรื่องที่กำลังติดจนวางไม่ลงและมันเป็นฉากที่พระเอกถอดเสื้อออกมาเพราะร้อน ผู้เขียนบรรยายเกี่ยวกับความสง่างามล่ำบึก มาดแมนของพระเอกจนหญิงสาวหลงไหลพระเอกนิยายขึ้นมาและเป็นจังหวะที่ชนะชลเดินออกมาพอดี แวบแรกต้องยอมรับว่าสามีทางนิตินัยของเธอช่างเหมาะกับการเป็นพระเอกนิยายจริง ๆ "เลิกฝันเลย แค่กล้ามท้องแน่นๆ ซิกแพคล่ำบึกอย่าคิดว่าคนอย่างกระแตจะต้องมนต์ความหล่อ " กรรณณาราเอ่ยก่อนที่จะจัดการถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ "ตายแล้ว ลืมชุด " หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างนึกขึ้นได้มันน่าอายชะมัด เดินออกไปเอาก็ไม่ได้ เสื้อคลุมก็ไม่มี 'เอาไงดีว่ะ' "อาชล อาชลมาหน้าห้องน้ำหน่อย" กรรณณาราแง้มประตูห้องน้ำก่อนจะโพล่งออกมาแค่ใบหน้าเอ่ยขอร้องอย่างอับอายแต่เขาคงเป็นตัวช่วยสุดท้าย ถ้าเลือกเดินออกไปเอาทั้งอย่างนี้ชนะชลก็เห็นหมดนะสิ เลือกขอความช่วยเหลือนี่แหล่ะดีสุด "มีอะไรรึเปล่า" ชนะชลที่สวมแค่กางเกงขายาวแต่ไม่สวมเสื้อเดินมาหน้าห้องน้ำก่อนจะเอ่ยถาม 'ยังจะอ่อยอีก' กรรณณาราได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้นี่ไม่ใช่เวลาจะมาหลงไหลไอ้กล้ามแน่นๆนั้น "เอ่อ คือ คือว่า เอ่อเอาเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเตียงมาให้หน่อย" หญิงสาวเอ่ยอย่างอับอาย พ่อเลี้ยงหนุ่ม(แก่)ยิ้มพรายก่อนจะหัวเราะออกมา ชายหนุ่มเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบชุดนอนที่สบายที่สุดออกมาแทนที่จะหยิบชุดบนเตียง "อะนี่ ขืนใส่ชุดนั้นอึดอัดแย่ " ชนะชลเอ่ยบอก กรรณณารารับชุดนอนกับกางเกงชั้นในมาแต่เงยหน้าที่ลอดผ่านประตูออกมา "บาร์ล่ะ " "ปกติเขาไม่ชอบใส่กันมั่ง อึดอัดน่าดู ใส่เท่านี้แหละ อาไม่ทำอะไรหรอกน๊า" ชนะชลเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินกลับไป "ชิ" 'รู้อีก สงสัยจะเชี่ยวชาญ' กรรณณาราปิดประตูห้องน้ำดังปังอย่างหมั่นไส้ "โอ๊ย ทั้งบางทั้งโป๊สบายอยู่หรอกแต่สาบานสิว่าอิตาอาชลไม่ได้คิดอะไรตอนหยิบมา คงไม่มั้ง นางคงไม่มาคิดอกุศลกับเด็กหรอก อ๊ายแล้วฉันจะยอมรับว่าเด็กทำไมเนี่ย เกลียดคำว่าเด็กแต่ตอนนี้อยากเป็นเด็กจะได้ไม่ต้องไปหลงไหลต้องมนต์อีตานั่น" กรรณณาราได้แต่บ่นพึมพำทะเลาะถกเถียงกับตัวเอง ใจนึงไม่ชอบให้คนมองว่าเด็ก แต่อีกใจก็อยากเป็นเด็กเล็กๆชนะชลจะได้ไม่ฉวยโอกาสเหมือนเมื่อบ่ายและจะได้ไม่ต้องหลงไหลหรือมีความรู้สึกกับชนะชล กรรณณาราเดินออกมาจากห้องน้ำมองไปเห็นชนะชลนั้นนอนหลับหันหลังไปทางฝั่งที่เขานอนจึงกล้าล้มตัวลงนอนเพราะความเหนื่อยล้าทั้งวันทำให้หญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา "เด็กน้อยเอ๋ย ไม่น่าเลือกชุดนี้ให้เลย โอ๊ยไอ้ชลจะทนได้นานแค่ไหนว่ะ จะกินเด็กก็ต้องให้สมยอม แต่ยัยนี้ไม่มีทีท่าจะยอมสักนิด ทนต่อไปชลเอ้ย" ชนะชลที่ถูกคิดว่าหลับลุกขึ้นนั่งเบาๆหันไปมองคนที่นอนข้างๆ ตอนหยิบชุดเขาคิดแค่จะโชว์เนื้อหนังเล็กน้อยที่ไหนได้เซ็กซี่อย่างกับนางเอกเอวี แม้ก่อนหน้านี้จะมีความต้องการในตัวเธอแต่เขาก็อยากจะให้เธอสมยอมพร้อมใจไม่ใช่การรังแกกันซึ่งไม่ใช่แนวทางของเขา จะทนได้แค่ไหนกันอยู่แบบนี้นาน ๆไม่ปล้ำเด็กก็คงลักหลับเด็กเป็นแน่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม