เสียงป่าตอนดึกสงัดก็ทำให้เธอหวั่นในหัวใจลึก ๆ กลัวไปเสียหมด ดีที่ว่าฝนหยุดตกแล้วจึงทำให้เธอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
"พี่เล็กอดทนนะคะ เมื่อฟ้ามีแสงส่อง ชมพูจะรีบไปตามคนมาช่วยพี่เล็กเลยค่ะ พี่เล็กต้องอดทนนะคะ" หญิงสาวน้ำตาซึม รู้สึกสงสารเขาจับหัวใจ
"ชมพูพี่หนาว" เขาเรียกชื่อเธอ
พิมพ์เพชรรีบเช็ดน้ำตา ในนาทีนั้นเธอตัดสินใจถอดเสื้อของเขาออก และถอดเสื้อผ้าของตัวเองเหลือเพียงแต่ชุดชั้นใน หนาวกายความอบอุ่นจากผิวกายเท่านั้นที่จะทำให้คลายหนาวได้ หญิงสาวสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าผืนเดียวกับเขา
ชมพูกอดพี่เล็กเอาไว้แน่น ปรารถนาให้ความอุ่นในตัวเธออาจจะพอทำให้ภารันย์ทุเลาอาการหนาวสั่นลงได้ภารันย์ซุกหน้าแนบไปกับลำตัวขาวนวลและหน้าอกอ่อนนุ่ม เขาพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหยุดขยับเมื่อได้ท่า ความรู้สึกอุ่นใจและทุกอย่างสงบลง เขาก็หลับลงไปด้วยพิษไข้ แต่ตัวหญิงสาวกลับใจเต้นแรง
'นี่เธอกำลังทำอะไร' ชมพูถามตัวเอง
"ช่วยพี่เล็กไง เธอกำลังช่วยให้พี่เล็กอบอุ่น พี่เล็กคะ พี่เล็กได้โปรดอย่าเป็นอะไรนะคะ"
กว่าใจจะสงบหยุดเต้นดังก็จวนเวลาดึก เธอเป็นห่วงภารันย์จนไม่กล้านอน แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อน ชมพูเพลียหนักจนผล็อยหลับไปตอนหกโมงเช้า
เสียงอึกทึกจากนอกกระท่อม ทำให้หญิงสาวตื่นจากการหลับใหลแต่ยังคงลืมตาไม่ขึ้น ในหัวของเธอก็รู้สึกหนักอึ้งไปหมด เพราะร่างกายพักผ่อนไม่พอ และตามเนื้อตัวของเธอก็บอบช้ำไม่ต่างกับภารันย์ อีกทั้งโดนเม็ดฝนไปเต็ม ๆ จนเปียกปอน
"ภารันย์..."
"ชมพู..."
"พิมพ์เพชร..."
"ไอ้เล็ก..."
ชื่อของทั้งสองคนถูกเรียกออกมาจากปากของคนที่เดินตามหา พวกเขาก็วางแผนกันและเริ่มออกเดินมาตั้งแต่ตีห้า เห็นร่องรอยปรากฏตามที่เดือนเด่นบอก จึงพากันไต่เขาลงมา แล้วก็เห็นร่องรอยการเหยียบย่ำของทั้งสองคนเป็นทางห่างจากที่ทั้งสองคนตกมาไม่ไกลนัก
"อยู่นั่นไงครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ชี้ไปยังกระท่อมที่มีเสื้อผ้าของทั้งสองคนตากอยู่เต็มไปหมด
ฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวขึ้นมาบนกระท่อม ก่อนจะจัดการสิ่งที่กีดขวาง และเข้ามาถึงตัวทั้งสองคน
พิมพ์เพชรลืมตาขึ้นมองทุกคน เธอได้ยินเหมือนเสียงกดชัตเตอร์ และความโกลาหลก็เกิดขึ้น
ทั้งภารันย์และพิมพ์เพชรได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำหมู่บ้านละฮู อาสาสมัครป้องกันดินแดน ทหารที่ประจำแถว ๆ นั้น และรุ่นพี่ พร้อมเพื่อนผู้ชายที่ออกกันตามหาเธอ
ข่าวลือหนาหู ว่าสภาพที่เจอทั้งสองคน คือ พิมพ์เพชรและภารันย์ต่างเนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อนนอนก่ายกอดกันทั้งคืน
ทั้งสองคนถูกลำเลียงขึ้นจากก้นเหวนั้น และพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอำเภอ แต่ภารันย์อาการหนัก เขาตกลงมาโดยกระแทกลำตัวลงไปกับของแข็ง ที่ไข้ขึ้นจนเพ้อ เพราะภารันย์มีอาการเลือดซึมจากบาดแผลภายในช่องท้อง โชคดีที่ยังไม่มาก แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วง เขาจึงถูกส่งให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนในตัวเมืองเชียงใหม่อย่างด่วน ข่าวของภารันย์และพิมพ์เพชรจึงกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในมหาวิทยาลัยตลอดทั้งสัปดาห์แห่งการเปิดภาคเรียน
ภารันย์มีอาการหลอดเลือดแตกซึมในช่องท้อง ครอบครัวจึงส่งตัวเขาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้เขาได้รับการรักษาโดยด่วน
พิมพ์เพชรไม่มีโอกาสได้ร่ำลาเขาเลย ภารันย์ไม่ได้กลับมาเรียนอีกในเทอมนั้น
ในห้องเรียนของชมพู วันแรกที่เธอกลับมาเรียน
โครม... เสียงเก้าอี้อีกตัวกระแทกเข้ากับเก้าอี้ตัวที่พิมพ์เพชรนั่ง
"หน้าด้านเหมือนกันนะ ถึงขนาดจะต้องเอาตัวเข้าแลกเลยเหรอ" สิ้นเสียงของอริสาทุกคนในกลุ่มของหญิงสาวก็หัวเราะเสียงดัง ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนผู้ชายที่อยู่ในห้องนั้น ทุกคนจับจ้องมองใบหน้าของพิมพ์เพชรเป็นตาเดียวกัน
ภาพที่พิมพ์เพชรเปลือยหน้าอกที่ถูกปรินต์ออกมาจากคอม ท่อนบนของเธอมีแต่เสื้อชั้นในปกปิดเท่านั้น รูปเหล่านั้นถูกโปรยทิ้งลงมากองตรงหน้าของเธอ พิมพ์เพชรเงยหน้าขึ้นสบตากับอริสา
"แล้วไง...สรุปพี่เล็กเขาอายมาก เขาอายจนไม่กลับมาเรียนในเทอมนี้ ดรอปเรียนไปเลยอะ" น้ำเสียงหยามหยัน
ชมพูขบกรามแน่น ก้มหน้า กลั้นลมหายใจระงับความโกรธ นับหนึ่งถึงสิบภายในใจ และกดนิ้วลงไปในอุ้งมือของตัวเองจนรู้สึกเจ็บในเนื้อ
"นี่เธอ...รู้ไหมว่าเธอนะทำให้พี่เล็กเกือบตาย ทะเล่อทะล่า ซุ่มซ่าม ทำอีท่าไหนคะ"
"ใช่....ไปทำอีท่าไหนให้พี่เขาต้องลงไปช่วยเธอที่ข้างล่าง ยายชมพู เธอรู้ไหมว่า... พี่เล็กเกือบตาย"
"ใช่ ๆใช่ ๆ"
"ซวยนะ"
"อย่าเข้าใกล้ยายชมพู เดี๋ยวพวกเราจะติดเชื้อซวยไปด้วย"
ปัง....โครม..... เสียงเท้ากระแทกเข้ากับประตู ก่อนร่างหนาใหญ่ของกำแหงจะโยนเก้าอี้ขึ้นทุ่มใกล้ ๆ ฝูงชน พรรคพวกของอริสาแตกฮือ
"อี...ไอ้...พวกไม่รู้จริง ปากปีจอ น่าจะเอาเลือดปากออกสักทีนะ" น้ำเสียงดุดันและใบหน้าแดงเถือกไปด้วยความโกรธ
"ไป๊..." เขาตวาดดังลั่น ทุกคนสลายตัวไปในทันที
เขาก้มลงไปหยิบรูปของชมพูขึ้นมาเก็บทุกใบ
"อย่าให้รู้ว่าใครทำ ใครมันเป็นคนทำแบบนี้อีก และถ้ากูรู้ว่ารูปนี้มีอยู่ในกล้องของใคร อยู่ในมือถือของใคร กูจะทุบให้แหลก..."
กำแหงเหมือนเสือบ้า เขาคำรามลั่นไปทั้งห้องเรียน ชายหนุ่มเดินเข้ามากระชากแขนของชมพูให้ลุกขึ้น ก่อนจะพาออกไปจากห้อง
พิมพ์เพชรน้ำตาร่วงไหลรินเป็นทาง หญิงสาวสะอึกสะอื้น
"อึ๊บ...ห้ามร้อง..." เขาพูดกับเธอเบา ๆ
"พรุ่งนี้...ถ้าฉันไม่ไปรับไม่ต้องมาเรียน" เขาหัวเสียมาก ๆ กำแหงหยุดเดินแล้วหันมากอดพิมพ์เพชรไว้ทั้งตัว เธอได้แต่ซุกหน้าไปกับแผงอกของกำแหงร้องไห้แบบสุดกลั้น
ทุกวันหลังจากนั้น เห็นพิมพ์เพชรที่ไหน ก็เห็นกำแหงที่นั่น
"นี่...ใจคอจะไม่กลับมาดูตาเล็กหน่อยเหรอ...?"
คุณม่านฟ้าลั่นเสียงแสดงความไม่พอใจไปตามสายโทรศัพท์
"แม่คะ ตาเล็กอยู่ในมือของหมอ อีกอย่างตอนนี้ตาเล็กก็ปลอดภัยแล้วนี่คะ" ภรินทรตอบกลับมา
"แม่ไม่คิดเลยว่าลูกสาวของแม่จะเป็นคนแบบนี้ แกเอาแต่ทำงาน ๆ แกเคยนึกคิดถึงหัวอกของลูกบ้างไหม ตาเล็กบาดเจ็บปางตาย มันคงอยากจะเห็นหน้าเห็นตาของแม่มันบ้างล่ะ ไม่ใช่ส่งมาแต่เงิน" คุณม่านฟ้าใส่ความคับข้องใจกลับไป
"แม่คะ อย่าให้เราสองคนต้องกลับมาพูดเรื่องเดิม ๆ อีกเลยค่ะ เรื่องนี้เราเคยพูดกันมาหลายครั้งแล้ว ที่หนูทำทุกอย่างก็เพื่อตาเล็กนะคะ"