อย่าดีกว่า

1264 คำ
“มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นเรื่องนี้...มันไม่มีใครผิดหรอกครับ ถ้าจะผิดก็คงเป็นเล็กเองที่ผิดที่เกิดมาทำให้แม่ลำบาก...อุ้บ...” คุณยายยกมือของท่านขึ้นมาปิดปากของภารันย์ทันที สองยายหลานสบตากัน คุณม่านฟ้ามีน้ำตาคลอ “อย่าพูดแบบนี้อีกได้ไหม ยายรักเล็กแค่ไหน ยายต้องขอบคุณสวรรค์ต่างหากที่ส่งเล็กให้มาอยู่กับยาย” เขาสอดแขนรัดกอดยายให้แน่นกว่าเดิม “ขอบคุณครับ” เขาน้ำตาคลอเช่นกัน   ภรินทรตั้งท้องตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย โดยที่แฟนหนุ่มที่คบกันมา ไม่คิดจะมาดูดำดูดีและรับผิดชอบ นี่เป็นเรื่องที่คุณม่านฟ้ารับไม่ได้ ภรินทรยืนกรานที่จะเก็บตาหนูเล็กเอาไว้ เพราะยังไงก็เป็นเลือดของเธอครึ่งหนึ่ง เมื่อภรินทรได้คลอดเด็กชายภารันย์ออกมา เธออยู่เลี้ยงลูกได้เพียงสามเดือน ก็ตัดสินใจหนีความอัปยศไปอยู่ฝรั่งเศสกับคนรู้จักของมารดา ทั้ง ๆ ที่คุณม่านฟ้าก็ไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวของนางไปที่ไหน แต่ที่ภรินทรเป็นแบบนี้ ก็เพราะความรั้นความดื้อของเธอนั่นเอง “อย่าคิดมากนะลูก” คุณยายปลอบใจ คุณยายพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ภารันย์ยกหน้าที่ซบกับไหล่ของคุณยายขึ้นมามองใบหน้าของท่าน “คุณยายนั่นแหละอย่าคิดมาก เล็กขอโทษนะครับที่พูดไม่ดี” “จ้ะ... ยายรู้...ว่าเล็กของยายเป็นเด็กน่ารักสำหรับยายเสมอ” จุ๊บ... หลานชายชิดใบหน้าจุ๊บแก้มเหี่ยวของคุณยายแรง ๆ “เล็กจะโทรหาคุณยายบ่อย ๆ นะครับ” “จ้ะ...อย่าโทรมาตอนยายทำวัตรก็แล้วกัน” ฮา...หลานชายหัวเราะ “ครับผม” ในห้องเรียนของพิมพ์เพชร “พวกแกรู้ไหมพี่เล็กกลับมาเรียนแล้วนะ” เสียงพูดด้วยความตื่นเต้นที่ชายหนุ่มสุดหล่อ และโดนใจสาว ๆ ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง “แล้วไง พี่เล็กหล่อเหมือนเดิมไหม ฉันอยากเจอจัง” “ย่ะ สุด ๆ... คิ้วดก ตาคม แถมยังสมาร์ตกว่าเดิมด้วย” “กล้ามแขนเนี่ยเป็นมัด ๆ เชียว” “แล้ว... ตอนนี้พี่เล็กอยู่ไหน ฉันอยากเห็น” “แหม...ข้ามศพฉันไปก่อนนะ คนนี้ฉันจอง” “แหวะ... แล้วพี่โมเมล่ะ หล่อนจะไปแยกคู่จิ้นเขาได้ไง” “โอ๊ย...ของแบบนี้ใครดีใครได้” “หล่อนสวยเนอะ” “อื้อ...พวกแก พวกแก พวกแก เพิ่งรู้เหรอ...” “ย่ะ...”   เต้นดึงแขนของชมพูลุกจากโต๊ะที่เธอนั่งเรียนอยู่ทันที “รำคาญยายพวกนี้” เขาพูดเสียงดังให้พวกสาว ๆ ได้ยิน “หื้อ....” บรรดาสาว ๆ ในห้องทำเสียง และมองตามหลังคนทั้งคู่ออกไป ไอ้...#%*&!###...” เสียงสรรเสริญกำแหงก็ตามมา   “อย่าไปสนใจฟัง กว่าจะเรียนจบ ต้องทนอยู่กับยายพวกนี้ไปถึงเมื่อไหร่” “เต้นก็...” ชมพูว่าเพื่อน “หิวแล้ว กินอะไรดี” กำแหงถามเพื่อนสาว “ร้านพี่ต้องลานมังกรไหม อยากกินสลัดไข่ดาว” “หึ...ไม่เบื่อหรือไง ดูสิ...กินแต่สลัด ผอมลงไปตั้งเยอะ” “ฉันไม่ชอบเห็นตัวเองมีพุงนี่นา” “ยายชมพู กินข้าวไปเถอะ ตายไปไม่ได้กินนะ” “เต้นเนี่ย ปากก็เป็นเสียแบบนี้แหละ สาว ๆ วิ่งหนีหมด” “อะ... ถามฉันสักคำไหมว่า ฉันอยากมีแฟนหรือเปล่า” “ใจจริง ก็อยากมีใช่ไหม” “ถ้ามี...แล้วมานั่งกลุ้ม ไม่มีเสียดีกว่า” “คิดไปเองอะดิ” “หิว ๆ อย่าพูดมากนะ” กำแหงโยนหนังสือในมือของตัวเองวางบนโต๊ะเบา ๆ ก่อนจะเดินไปสั่งอาหารที่เคาน์เตอร์ พิมพ์เพชรมองตามหลังของเขาแล้วส่ายหน้า ชายหนุ่มก็ดีกับเธอคนเดียว นอกนั้นผู้หญิงคนอื่น ๆ เห็นเขาตั้งแง่ไปเสียทุกคน   “วันนี้โมเมเลี้ยงเองนะทุกคน” เธอยิ้มกว้าง เดินนำเพื่อนเข้าไปในลานมังกร “หน้าบานไม่หุบเลยนะ” หมูแดงแซว หญิงสาวหันไปยิ้มให้กับเล็ก เขาส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน โต๋มองภาพของทั้งสองคนแล้วทำหน้าเศร้า ๆ “หึ...” หมูแดงกระแซะไปที่แผ่นหลังของเขา โต๋หน้าเกือบคะมำ “โอ๊ะ...ยายบ๊อง...” เขาตั้งการ์ดหันหน้ามาเอาเรื่องคนชนทันที “ก็แกจะหยุดเดินทำไม” หมูแดงพูดเบา ๆ เพราะวันนี้โดนสั่งห้ามจากโมเมห้ามทะเลาะกันให้เสียบรรยากาศ หมูแดงทำยักไหล่แล้วรีบเดินตามสองคนนั้นไป “ยายหมูอ้วน...ฝากเอาไว้ก่อน” เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันตามหลังเธอไป   “อะ...นั่งไหน” หมูแดงถามเต้นทันทีที่เห็นหน้า ก็หมูแดงเป็นพี่รหัสของเต้น “นั่งกับเพื่อน ไม่มีที่ว่างสำหรับเจ๊” เต้นปากเสียอยู่แล้ว เป็นนิสัย อีกอย่างเขาก็เบื่อที่หมูแดงวุ่นวาย “ฉันเป็นพี่รหัสแกนะ บริการหน่อยสิ” หมูแดงเข้าไปหาเรื่องทันที “เจ๊จะกินอะไร” เขาถามอย่างเสียไม่ได้ “น้ำลำไย กล้วยทอด ข้าวเหนียวหมูปิ้ง และ...” “โห่...เมนูแบบนั้น เชิญเจ๊ไปตลาดวโรรสเลยไป๊” เต้นเดินสะบัดก้นออกไปทันที เพราะรู้แล้วว่าหมูแดงหยอกเล่น ทั้งสี่คนมองตามหลังเต้นที่เดินกลับไปหาชมพู “อะ.... น้องผู้หญิงคนนั้นไงที่ช่วยเล็กเอาไว้” โมเมชี้ไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่   ตอนนี้ พิมพ์เพชรไปยืดผมแล้วตรงยาวสลวยไม่มีเค้าเดิมของสาวขี้เหร่เหลืออีก และเมื่อเทอมที่แล้ว ในห้องจัดสอนการแต่งหน้าแบบเทรนด์เกาหลีในห้องเรียนกันด้วย ภารันย์มองใบหน้าที่ขาวสะอาด มีบรัชออนสีชมพูอ่อน ๆ ปัดแก้มเรื่อ ๆ ใบหน้าที่ปราศจากแว่นตาหนาเตอะ ขนตางอนงามมีการปัดมาสคาร่าให้ตาของเธอดูเด่นขึ้น สีปากนู้ดเคลือบมันน่ารักดี เธอดูไม่เหมือนเดิม “น่าจะเป็นแฟนกับเต้น เห็นตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋” หมูแดงพูดขึ้น “เหรอ...” “อือ... ก็เต้นเป็นน้องรหัสของฉัน” “ใครถาม” โต๋เล่นฝีปาก “ก็อยากบอก” หมูแดงยักไหล่ แล้วเดินเข้าไปเลือกเมนูก่อนจะสั่งที่เคาน์เตอร์ เดินไปหาเต้นกับชมพูที่โต๊ะ “นั่งด้วยคน” “เชิญค่ะพี่” ชมพูยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน เต้นหันไปมองหน้าแบบไม่พอใจนิด ๆ “ที่นั่งก็มีเยอะแยะ” เขาพูดแบบไม่เกรงใจ ชมพูตีเปรี๊ยะไปที่แขนของเขา “ถามจริง ๆ ชมพูทนคบกับเต้นได้ไง” หมูแดงทำตาหยี ๆ มองเต้นแบบหาเรื่อง แต่เอ่ยปากถามพิมพ์เพชร หญิงสาวหัวเราะขึ้นทันที “พี่หมูแดงคะ บ้านติดกัน ถ้าชมพูไม่คบก็ไม่มีใครคบแล้ว” “ฮา...” หมูแดงหัวเราะเสียงดัง “พี่ก็คิดแบบนั้นแหละ” เต้นระอากับพี่รหัสคนนี้จริง ๆ   “นั่งด้วย อีกสักสามคนได้ไหม” ภารันย์พูด พร้อมกับจ้องสบตากับพิมพ์เพชรที่ยกหน้าขึ้นมามอง เธอใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่วันนั้น ทั้งสองก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย หมูแดงรีบขยับไปนั่งในฝั่งเดียวกับเต้น เล็ก โมเม และโต๋ นั่งในฝั่งตรงข้าม “พี่เล็กสบายดีแล้วหรือคะ” ชมพูถามออกไปด้วยความเป็นห่วง “ครับ แล้วเอ่อ...ชมพู...” หญิงสาวยิ้มให้อย่างสดใส “จะกินอะไรกันอีกไหม วันนี้พี่โมเมเลี้ยงเอง” หมูแดงสอดเสียงขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม