น้ำฟ้ามองดูคณินยิ้มให้กับรตาด้วยความแค้นเคือง เธอไม่มีโอกาสได้อธิบายความจริงให้คณินฟังด้วยซ้ำ ตอนนี้ต่อให้อธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะเขาหันไปสนใจรตาแทนเธอ
‘คอยดูเถอะ ฉันต้องหาแฟนเหนือกว่าคณินให้ได้’
ตอนหัวค่ำไลลามากระซิบกระซาบว่ารตาไปเข้าโรงแรมกับคณินมาแล้ว น้ำฟ้าได้ยินก็โมโหจนเนื้อเต้น เธอคิดว่านี่เป็นเหตุให้คณินเอาใจรตา ที่ผ่านมาเธอไม่เชื่อคำยุยงของเพื่อนสาวที่ให้มัดใจชายด้วยการเอาตัวเข้าแลกเพราะเธอยังหวังจะให้ผู้ชายคนแรกของตัวเองเป็นธนา
...ตอนนี้ครั้งแรกนั้นไม่มีแล้ว เธอเริ่มรู้ตัวว่าโอกาสหลุดลอยไปแล้ว สำหรับธนาคงจะเกินเอื้อมมือคว้า....
“คุณฟ้า ดื่มกับผมหน่อยสิครับ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังอยู่ด้านหลัง
น้ำฟ้าหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อ ลูกชายเจ้าของบริษัทผลิตยาชั้นนำก็ตกตะลึง “คุณภูมินทร์”
เฟิร์นกับไลลาจ้องผู้ชายที่จู่ๆ เดินมายังโต๊ะตนเองด้วยความตื่นเต้น ภูมินทร์ขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มโสดที่สาวๆ ในแวดวงไฮโซต่างให้ความสนใจ เฟิร์นเคยพบเขาในงานเลี้ยงที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอยู่สองครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว
“พอดีผมมาร้านนี้กับเพื่อน ไม่คิดเลยว่าคุณฟ้ากับเพื่อนๆ จะมาร้านนี้เหมือนกัน” ภูมินทร์ชูแก้วไวน์ค้อมศีรษะแนะนำตัวเองกับคนในโต๊ะ เขาบอกชื่อสกุลและบริษัทของตนเสร็จสรรพ “ผมเคยติดต่องานกับคุณฟ้าหลายหนครับ”
เพื่อนร่วมแก็งค์ของน้ำฟ้ายิ้มให้ชายหนุ่มคนใหม่ด้วยความยินดี พวกเธอไม่คิดมาก่อนว่าน้ำฟ้าจะมีผู้ชายโปรไฟล์ดีขนาดนี้เข้ามาทักทาย
“ผมขออนุญาตคุยกับคุณน้ำฟ้าสักครู่นะครับ”
ไลลารีบยิ้มหวาน แม้คู่ควงของเธอตอนนี้จะเป็นลูกเจ้าของบริษัทผลิตเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับภูมินทร์ที่เป็นเจ้าของบริษัทผลิตยาข้ามชาติย่อมเทียบกันไม่ได้ หากมีตัวเลือกที่ดีกว่าผู้หญิงอย่างไลลาก็พร้อมจะไป
“เชิญเลยค่ะ คุณภูมินทร์ อันที่จริง ไลลาเองก็เคยพบคุณที่งานสองสามหนนะคะ แต่เราไม่มีโอกาสได้ทักทายกันเพราะคุณอยู่ในโต๊ะของผู้บริหาร”
ภูมินทร์ยิ้มกว้าง “อ่า เหรอครับ น่าเสียดายจัง ถ้าผมรู้ว่าคุณไลลาเป็นเพื่อนกับคุณน้ำฟ้าต้องรีบมาทักแน่ ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการขอโทษ ผมขอดื่มให้กับคุณไลลาสักแก้วก็แล้วกัน”
ทั้งสองฝ่ายยิ้มให้กัน ยกแก้วไวน์ขึ้นชนแล้วกระดก น้ำฟ้าคิดถึงฐานะและการศึกษาของภูมินทร์ก็ค่อยยิ้มออก ดูจากปฏิกิริยาของเพื่อนในกลุ่ม หากเธอกลายเป็นคู่ควงของภูมินทร์ทุกคนก็คงจะยอมรับเธอ
“เรียกผมแค่ภูก็ได้ครับ จะได้ดูกันเองหน่อย”
ทุกคนยิ้มรับ ภูมินทร์นั่งลงข้างน้ำฟ้าพูดคุยกับเธออย่างเป็นกันเอง
ณัฐวุฒิมองเห็นสายตามาดมั่นของน้ำฟ้าแล้วก็รู้สึกหายใจติดขัด ผู้หญิงสมองน้อยคนนั้นคงคิดจะคว้าผู้ชายตรงหน้าให้ได้ เขานึกหงุดหงิดที่เธอไม่รู้จักคิด เสียแรงเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เรียนหนังสือเก่ง และยังมีรูปร่างหน้าตาดีอีกด้วย
“น้ำฟ้าของมึง เริ่มอ่อยเหยื่อแล้ว” ไต้ฝุ่นหัวเราะหึๆ “เหมือนในละครที่กูเล่นเลย”
“คงผิดหวังจากบอสกูน่ะ เลยต้องหาหลักใหม่”
“บอสมึงมีคนที่ชอบแล้วเหรอ?”
“เออ พนักงานหญิงที่บริษัทน่ะ แต่เธอมีลูกติดด้วยนะ”
“เยี่ยม บอสมึงมองการณ์ไกล เลือกเมียพร้อมลูก เข้าท่านะ ผู้หญิงคนนี้คงจะสวยมากเลยสิ”
ณัฐวุฒิเอียงคอ “ก็ไม่นะ แต่น่ารักดี กูสงสัยว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่บอสกูเคยนอนด้วยเพราะลูกชายหน้าเหมือนบอสกูยังจะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน”
ไต้ฝุ่นเลิกคิ้ว “ยังไง?”
เขาเล่าเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนให้กับเพื่อนซี้ฟัง “ผ่านมาหลายปี บอสกูเลิกตามหาผู้หญิงคนนั้นแล้ว กูเองก็ไม่ได้เก็บใบประวัติที่มีรูปเธอไว้ซะด้วย”
“บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะแต่งเรื่องมาหลอกคนก็ได้”
“มึงหมายถึง?”
“แฟนเก่าที่ไม่มีใครรู้จัก หลอกว่ายังไงก็ได้จริงป่ะ? ชื่อจริงของคนเราก็เปลี่ยนได้ตั้งหลายหน กฎหมายไม่ได้ห้าม ชื่อพ่อเด็กยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าคนเป็นแม่ไม่ใส่ชื่อลงในสูติบัตรก็เท่ากับต้องการให้ลูกอยู่ใต้ความปกครองเพียงคนเดียว ถ้าเกิดผู้หญิงคนนี้เคยพลาดท่าบอสมึงแล้วท้อง ตอนนั้นเขาอาจจะไม่อยากทำแท้งก็เลยแต่งเรื่องมาหลอกคนอื่น”
ณัฐวุฒิอึ้งไป “จริงด้วย ไม่มีใครเคยเห็นพ่อของลูก แม้แต่ชื่อก็ยังไม่พูดถึง อาจจะเป็นเหมือนมีมึงพูด”
“ในเมื่อน้ำฟ้าหมดหวังจากบอสมึงแล้ว เขาจะหาที่เป้าหมายใหม่ มึงก็ไม่ควรขัดขวางเขานะ ภูมินทร์เป็นนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล ถ้าน้ำฟ้าได้แต่งงานกับคนนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน”
“ไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้”
“ผู้หญิงคนนี้สมองน้อย ตอนนี้ผิดหวังมาก็คงคิดแค่จะหาผู้ชายไปขึ้นเตียงด้วย ยังไงก็เป็นคนที่กูรู้จัก กูไม่อยากให้เขาถูกคนอื่นหลอก”
ไต้ฝุ่นขมวดคิ้ว “มึงจะห่วงเขาทำไม? ร่างกายเขา ตัวเขา กูว่าเป็นเขาต่างหากที่อยากให้ผู้ชายหลอกจนตัวสั่น ดูสิ ซบแล้วๆ มุกนี้กูเห็นอยู่บ่อยๆ อีกเดี๋ยวก็คงไปด้วยกันล่ะ”
ณัฐวุฒิผุดลุกขึ้นในทันที น้ำฟ้าเอนศีรษะไปซบไหล่ภูมินทร์ เธอหัวร่อต่อกระซิกกับผู้ชายคนนั้น ในใจก็คิดหาทางให้ภูมินทร์ไปส่งตนเองที่บ้าน ในขณะที่ภูมินทร์คิดจะชวนเธอไปคอนโดมิเนียมเขา ในเมื่อผู้หญิงทอดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมาขนาดนี้ เขาก็ต้องข้ามไปสักหน่อย
“ฟ้าอยากกลับบ้านแล้วค่ะ เมามากแล้ว”
“คุณฟ้ามายังไงครับ?”
“ขามาให้คนมาส่งค่ะ ถ้าเมา ฟ้าจะไม่ขับรถ ขากลับบางทีเพื่อนก็ไปส่ง”
ภูมินทร์ยิ้มกว้าง เธอพูดอย่างนี้ก็เท่ากับเปิดทางให้เขา
“เดี๋ยวผมไปส่งคุณฟ้าเองครับ”
น้ำฟ้าลุกขึ้นบอกลาเพื่อนๆ โดยมีภูมินทร์ประคองแขนข้างหนึ่งเอาไว้ พอเดินออกไปถึงลานจอดรถ หญิงสาวมองเห็นร่างสูงยืนกอดอกอยู่ข้างรถคันใหญ่ก็ชะงักเท้า
“เป็นอะไรครับ? นั่น รถผม เดินอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” ภูมินทร์ชี้ไปที่รถสปอร์ตสองประตูคันหรู
ณัฐวุฒิเดินมาขวางด้วยสายตาไม่เป็นมิตร “ผมมารับคุณฟ้ากลับบ้าน”
ภูมินทร์เงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้า เขาจำได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นเลขาคนสนิทของธนา ศราวุฒิกุล ประธานบริษัทวินเนอร์เบฟเวอเรจ เขาหันขวับกลับไปหาน้ำฟ้า
“ทำไมเขาต้องมารับคุณด้วยครับ?”
น้ำฟ้าเม้มปาก มองณัฐวุฒิราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอไม่กล้าปฏิเสธคนมารับแต่ก็กลัวภูมินทร์จะไม่สนใจตัวเองอีก
“พี่นาบอกให้เขาคอยดูแลฟ้าค่ะ”
ภูมินทร์เลิกคิ้ว “คุณธนาใจดีจัง ให้เลขาคนสนิทมาคอยดูแลคุณด้วย ไม่เกินขอบเขตหน้าที่ไปหน่อยเหรอ?”
“นั่นสิคะ” น้ำฟ้ายิ้มเย้ยหยัน
“ไม่เกินครับ บอสผมสั่งว่าให้จับตาดูคุณฟ้าอย่างใกล้ชิด ผมก็ทำตามนั้น ตอนนี้คุณฟ้าเมาแล้ว ผมต้องส่งเธอกลับ” คนร่างสูงทำหน้าตาย
“ผมไปส่งเองก็ได้ ไม่ต้องรบกวนคุณ” ภูมินทร์หันไปประคองน้ำฟ้าหวังให้เดินต่อ
ณัฐวุฒิตรงเข้ามาจับข้อมือของภูมินทร์ คนถูกจับถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เขาจ้องหน้าเลขาหนุ่มด้วยความตกใจพร้อมกับสะบัดมือออก
“นี่คุณ”
“ผมบอกแล้วว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม ผมจะพาคุณฟ้าไปส่งเอง”
ภูมินทร์รู้ว่าตนเองสู้แรงของณัฐวุฒิไม่ได้ เมื่อร่างสูงและแข็งแรงกว่าแทรกเข้ามาระหว่างกลาง เขาจำต้องถอยและปล่อยให้น้ำฟ้าถูกณัฐวุฒิใช้บีบที่ต้นแขนเดินไปขึ้นรถคันใหญ่ที่จอดเลยรถเขาไปไม่ไกล
น้ำฟ้าเม้มปากด้วยความโมโห ภูมินทร์ช่างขี้ขลาดแค่ถูกบีบข้อมือทีเดียวก็ปล่อยเธอให้ตกอยู่ในมือของคนชั่ว
“จะพาฉันไปไหน?”
“คุณคงไม่ใสซื่อคิดว่าเขาจะกลับไปส่งบ้านจริงๆ หรอกนะ ผมว่าคุณเองก็หวังให้เขาพาไปที่อื่นใช่ไหม?”
***********************