บทที่ 9 ใต้อาณัติ

1279 คำ
น้ำฟ้าลุกขึ้นสะบัดหน้าออกไปจากห้องอาหาร โดยมีณัฐวุฒิเดินตามหลัง พิมลักษณ์นั่งตะลึง เธอไม่เคยเห็นน้ำฟ้าดูหวาดกลัวใครมาก่อน แต่คราวนี้เหมือนจะเกรงใจณัฐวุฒิมากทีเดียว “พูดมา ต้องการอะไร?” ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เขายื่นหน้ามาใกล้ ลดเสียงลง “เมื่อคืน เป็นคุณที่บุกเข้าไปในห้องผม เจตนาร้ายสินะ” “ไอ้บ้า! แกต่างหากที่ปล้ำฉัน” เธอเอียงหน้าออกห่าง กัดฟันกรอดๆ “น้ำฟ้า ผมจำได้นะว่าเมื่อคืนคุณบอกว่าคุณชอบ อยากให้ผมทำแบบนั้น แบบนี้” เขาแสร้งทำเสียงแหบต่ำ “หยุดนะ!” เธอร้องและมองไปรอบๆ ด้วยความกลัวว่าจะมีคนมาได้ยินเข้า “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น” “แต่ผมถือ” เขาทำเสียงแข็ง “คุณทำให้ผมติดใจ ตอนนี้ถือว่าเราเกี่ยวข้องกันแล้ว คุณจะหนีไปดื้อๆ ไม่ได้” “บ้าน่า! เราต่างคนต่างเมา ถือซะว่าพลาดพลั้ง” “ไม่จริง ถ้าพลาดก็คงมีแต่ครั้งเดียว แต่นี่เราทำไปตั้งสามครั้งนะ แถมครั้งที่สาม เป็นคุณที่ร้องขอ จำไม่ได้เหรอ?” “หยุดๆ ฉันไม่อยากฟัง” “ไม่ฟังไม่ได้ ผมรู้ว่าคุณอยากให้เรื่องนี้เป็นความลับ คุณกลัวว่าบอสผมจะรู้เรื่องใช่ไหม?” เธอทำตาเขียว “ก็รู้อยู่แล้วนี่” “ถ้าคุณทำตัวเชื่อฟังผม ผมก็จะเก็บไว้เป็นความลับ” สีหน้าของเขาชวนให้เธอผงะ “เรื่องของคุณกับผม เราจะรู้กันแค่สองคน ส่งมือถือมา” หญิงสาวตะลึง ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาด้วยสายตาหวาดกลัว ณัฐวุฒิรับไปแล้วสแกนคิวอาร์โค้ดแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อใช้เป็นช่องทางในการติดต่อกับเธอ “ต่อไป ถ้าผมทักไป คุณต้องรีบตอบ”​เขายื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้เธอแล้วเดินจากไป “จำไว้ ถ้าคุณชักช้าลีลา ผมจะเปิดโปงเรื่องระหว่างเรา” ธนาเดินไถกระเป๋าลากมาจากวิลล่าหลังน้อยด้านหลัง พิมลักษณ์เห็นแล้วก็ทำตาโตหันไปบอกน้ำฟ้า หญิงสาวทำหน้าหงอย เธอไม่กล้าเข้าใกล้ธนาต่อหน้าณัฐวุฒิ จึงได้แต่ยิ้มแหยๆ “ช่างเถอะ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์แล้ว” “คุณฟ้า เหนื่อยมากเหรอคะ?” “อือ” สายตาของน้ำฟ้ามองธนาด้วยความเสียดาย เมื่อสี่ปีก่อนเธอพยายามวางยานอนหลับคิดจะจัดฉากถ่ายรูปแล้วทำให้ธนายอมรับ แต่กลับผิดพลาด เมื่อคืนเรื่องราวยิ่งไปกันใหญ่ ในใจเธอคิดหาโอกาสที่จะเข้าใกล้ธนาอีกครั้งลับหลังณัฐวุฒิ “คุณเกวมาโน่นแล้วค่ะ ท่านประธานกับคุณเกว มาจากคนละทาง แสดงว่าเมื่อคืนพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน” “ไม่อยู่น่ะสิ พี่นาไม่ได้นอนบนตึก แต่แอบไปนอนที่วิลล่า” “อ้าว! แล้วใครนอนห้องท่านประธานล่ะค่ะ” น้ำฟ้าหน้าเสียเธอกำลังจะทำความแตก หากเธอตอบได้ว่าคนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นใคร? การที่เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปในห้องธนาเมื่อคืน พิมลักษณ์ก็จะรู้ว่าเธอโกหกในทันที “ไม่รู้สิ อาจจะไม่มีก็ได้” “จริงด้วย คุณฟ้าไม่ได้เข้าห้องท่านประธานนี่นะ” “พอล่ะ ไม่ต้องพูดมาก เอาไว้กลับไปแล้วค่อยหาวิธีใหม่” น้ำฟ้ารู้ว่าตนเองถูกจับตามองเธอจึงอยู่ห่างธนา บางครั้งณัฐวุฒิก็หันมายิ้มร้ายๆ เขาใช้สองนิ้วจิ้มที่ตาแล้วชี้เธอเพื่อเป็นการข่มขู่ เธอโมโห ทนไม่ไหวจนต้องกลับก่อน ‘อย่าลืมว่าคุณต้องเชื่อฟังผม’ เขาส่งข้อความมาสำทับ ณัฐวุฒินอนกระสับกระส่าย หลังกลับจากจังหวัดตราด เพียงหลับตาลงเรือนร่างอ้อนแอ้นและเสียงหอบกระเส่าของหญิงสาวก็คล้ายกับดังอยู่ในหูเขา ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นกลางดึกเข้าไปอาบน้ำระงับอารมณ์ปรารถนา “ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกซะหน่อย ทำไมต้องคิดแล้วคิดอีก? ผู้หญิงแพศยาแบบนั้น ไม่เข้าไปวอแวจะดีที่สุด” เขาอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นเกลือกกลิ้งบนที่นอนต่อ แต่ก็ยังนอนไม่หลับ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่ใกล้ๆ พอกดรับ เสียงของเพื่อนซี้ก็ดังขึ้น “มีข่าวแก็งค์เจ็ดดาวจะเล่า อยากฟังไหม?” “เออ ตอนนี้อยู่ไหน?” “ร้านเดิม โต๊ะเดิม” “ได้ เดี๋ยวออกไป” ไต้ฝุ่นนั่งยิ้มรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิม สายตาของเขาพยักพเยิดให้เพื่อนซี้มองดูชายหญิงกลุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ที่ระเบียงชั้นล่าง “มาอีกแล้ว ได้ผู้ชายใหม่มาอีกสามคน ผู้หญิงกลุ่มนี้เก่งจริงๆ หาผู้ชายมาได้เรื่อยๆ เลย” สายตาเลขานุการหนุ่มมองไปยังคนกลุ่มนั้น ผู้หญิงสวมชุดสีฟ้าเปลือยไหล่ข้างเดียวทำให้เขาเผลอกำแก้วเบียร์แน่นขึ้น “ไม่ทันไรก็หาผู้ชายคนใหม่แล้ว” “ใคร?” “น้ำฟ้า ผู้หญิงที่พยายามอ่อยบอสกูไง?” “คนชุดฟ้าน่ะเหรอ? สวยนะ” “ผู้หญิงพรรค์นี้ สวยไปก็ไม่มีประโยชน์” สีหน้าของณัฐวุฒิตึงเครียด “มึงพูดเหมือนหึงเลย” ไต้ฝุ่นยิ้มล้อๆ “หึง อย่างกูนี่นะ” “มึงไม่ชอบเขาแต่สายตามึงมองเขาเขม็งเลยนะ” “ตอนกูไปงานบริษัท เขาพยายามบุกเข้าห้องบอสกู ผู้หญิงคนนี้กูรับไม่ไหวจริงๆ” “แรงอ่ะ บุกเข้าห้องแล้วบอสมึงเสร็จเธอไหม?” ณัฐวุฒิส่ายหน้า “กูไม่ยอมให้บอสกูตกหลุมพรางแน่” “กูรู้เรื่องในแก็งค์มาแล้ว ครั้งก่อนคนที่มึงไปสกัดดาวรุ่งน่ะ ตอนนี้ควงรตาแล้ว น้ำฟ้าของมึงคงจะเสียหน้ามากเลย วันนี้ก็เลยพยายามอ่อยไฮโซหนุ่มรายใหม่อยู่” “กลุ่มผู้หญิงที่อยากมีสามีเอาไว้อวดก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่” ณัฐวุฒิจ้องน้ำฟ้าเขม็ง เธอกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับผู้ชายเจ้าสำอางคนหนึ่ง รตานั่งเบียดอยู่กับคณิน เธอสีหน้าเบิกบานตวัดสายตาไปยังน้ำฟ้าคล้ายจะเย้ยอยู่ในที “ฟ้า ดื่มหน่อยๆ อย่าเอาแต่คุยสิ” น้ำฟ้าหมั่นไส้ ที่รตาชวนเธอให้ดื่มเพราะอยากให้เธอหันไปเห็นคณินนั่ง อยู่ข้างๆ หลังจากคืนนั้นคณินก็พารตาไปรับประทานอาหารสองต่อสอง ทำให้สาวๆ กลุ่มเจ็ดดาวร่ำลือกันว่าคณินน่าจะชอบรตา เฟิร์นกับไลลาไม่ค่อยพอใจที่คณินจะลงเอยกับรตาเพราะพวกเธอก็แค่ยุส่งเพื่อหวังให้เพื่อนสาวหน้าแตก วันนี้จึงชวนดาราหญิงวัยรุ่นที่เคยแสดงละครด้วยกันมาด้วยสองคน เพื่อให้คณินไขว้เขว ไต้ฝุ่นชี้ไปที่สองสาวที่เพิ่งมาใหม่ “มึงว่าผู้หญิงสองคนนั้นมาทำไม?” “ใครอีก?” “ดาราน้องใหม่ เฟิร์นกับไลลาชวนมาร่วมสังสรรค์” “คิดจะขยายเป็นกลุ่มเก้าดาวรึไง?” “ไม่ กูได้ยินช่างแต่งหน้าในกองถ่ายพูดกันมา”​ไต้ฝุ่นเริ่มเล่าความสัมพันธ์ระหว่างคณินและสองสาวดาราดังของกลุ่มเจ็ดดาวให้ณัฐวุฒิฟัง “สรุปว่าไม่อยากให้เพื่อนได้แฟนรวยกว่าตัวเอง แต่ที่แนะนำให้รู้จักก็เพราะอยากให้เสียหน้าเหมือนกัน” “เออ ทำนองนั้น กูฟังแล้วก็งง แต่พอดูๆ ไปก็เข้าเค้า”​ “ถ้างั้น น้ำฟ้าก็ถูกเพื่อนหลอกน่ะสิ” “ไม่เชิง ในเมื่อเธอต้องการการยอมรับและอยากอยู่ในกลุ่มนี้ก็ต้องเล่นตามน้ำ ดูคู่ควงของแต่ละคนสิ ลูกเศรษฐีมีหน้ามีตาในสังคมทั้งนั้น พวกเธอใช้ความสวยเป็นบันไดกันทั้งนั้น ว่าได้เหรอ” ****************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม