“ฉันจะไปขึ้นสวรรค์หรือนรกกับเขา มันเกี่ยวอะไรกับแก?”
“ผมบอกแล้วว่าคุณต้องเชื่อฟังผม จำไม่ได้เหรอ?” เขากัดฟันกรอดๆ ผลักเธอเข้าไปนั่งในรถ
เธอมองดูเส้นทางที่ไม่ได้มุ่งไปบ้านของตัวเองแล้วหันไปมองหน้าคนขับ “จะพาฉันไปไหน?”
“คืนนี้คุณไม่อยากกลับบ้านอยู่แล้วนี่ คิดจะให้ผู้ชายพาขึ้นสวรรค์อยู่แล้วนี่ ผมจะพาไปไหนคุณก็ไม่ควรจะตกใจ” เขายิ้มเยาะ
เธอกระแทกตัวกับเบาะรถ “แต่ฉันไม่อยากไปกับแก”
“ผมเตือนแล้วนะว่าคุณต้องเรียกผมยังไง?”
“ชิ!” เธอเบือนหน้าหนี ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอีก
เขาเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดมิเนียมค่อนข้างหรู พอจอดรถได้ เธอก็ไม่ยอมขยับเขยื้อน
“อย่าบอกนะว่านี่คือบ้านของนาย” เธอเปลี่ยนจากคำว่าแกเป็นคำว่านายเพราะอยากเรียกเขาว่าคุณ
“ลงมาเถอะ อย่าลีลานักเลย ระหว่างเราสองคน อะไรๆ ก็เห็นกันมาหมดแล้ว”
น้ำฟ้าได้ยินเขาแดกดันก็ทำปากคว่ำ ณัฐวุฒิกอดอกอยู่ข้างประตูรถ สายตาเขากดดันเธอให้ตามลงไป เธอจำใจต้องปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถตามเขาไป
ชายหนุ่มกดรหัสหน้าห้อง หันมาดึงแขนของเธอให้ตามเข้าไป ดึงเธอไปยืนหน้าห้องน้ำ เปิดประตูแล้วผลักเธอเข้าไป
“ไปอาบน้ำซะ ล้างเอากลิ่นผู้ชายคนนั้นออกไปให้หมด”
น้ำฟ้าเข้าไปในห้องน้ำ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำสระผม กลิ่นเหล้าและบุหรี่ติดตัวเธอมาพอสมควร กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ภูมินทร์ใช้ติดตัวเธอมาด้วย เธอเป่าผมจนแห้ง สวมชุดคลุมที่ขาวที่พับอยู่บนชั้น ห้องพักของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยบ่งบอกนิสัยเจ้าของห้อง
“ซักผ้าให้ฉันด้วย” เธอยื่นเสื้อผ้าที่ม้วนไว้ส่งให้เขา
“ใช้ใคร? ไปทำเอง โน่น มุมโน้นมีเครื่องซักกับเครื่องอบ”
เธอมองตามนิ้วของเขาก็เห็นทางเดินซอกหนึ่ง จึงเดินเข้าไป มีเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าตั้งซ้อนกันอยู่ ชั้นข้างๆ มีน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับนุ่มสองขวดวางอยู่ เธอก้มลงอ่านวิธีการซักแล้วก็ใส่เสื้อผ้าเข้าไปในเครื่อง
นาฬิกาที่ผนังห้องโถงบอกเวลาเที่ยงคืน เขาที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นเดินออกมาจากในห้องนอนใหญ่ในมือมีผ้าห่มผืนใหญ่ เขาโยนผ้าผืนนั้นลงบนโซฟา
“คุณนอนนี่ก็แล้วกัน ผมง่วงแล้ว”
น้ำฟ้าอ้าปากหวอ เธอคิดว่าที่เขาพาเธอมาที่ห้องก็ต้องหวังเหมือนอย่างผู้ชายคนอื่น หุ่นเธอออกจะเซ็กซี่น่าขยี้ขนาดนี้ เขากับเธอก็เคยทำอย่างว่ากันมาแล้ว ลากมาจนถึงห้องแต่กลับหนีไปนอนแล้วปล่อยให้สาวสวยอย่างเธอนอนที่โซฟา เธอกระทืบเท้าเบาๆ
เขาปิดประตูเงียบ น้ำฟ้าเอนตัวลงโซฟาตัวใหญ่ด้วยความหงุดหงิด เธอคิดจะนอนรอให้ผ้าซักเสร็จแล้วหยิบไปใส่เครื่องอบผ้าต่อ แต่กลับผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกตัวอีกทีตอนตีสอง การนอนบนโซฟาทำให้ไม่ค่อยสบายตัว เธอเดินไปหน้าห้องเขา ลองบิดดูพบว่าเขาไม่ได้ล็อคห้อง หญิงสาวได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง
เธอไปค้นในตู้เสื้อผ้าได้เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นที่พอเธอสวมแล้วกลายเป็นชุดโอเวอร์ไซด์
‘ใส่ชุดนี้นอนก็น่าจะสบายกว่าใส่เสื้อคลุมนอนล่ะ’
เธอรีบถอดเสื้อคลุม โยนหวือไปที่ตะกร้าผ้ามุมห้อง หันไปมองเตียงใหญ่ของเขา ยังมีที่เหลือเฟือก็เท้าสะเอว อ้าปากด่าชายหนุ่มที่นอนหลับโดยไม่มีเสียง
“ไอ้ชั่วณัฐ เตียงก็ใหญ่ยังจะขี้หวง ให้ฉันนอนโซฟาอีก” เธอเดินอ้อมเตียงไปอีกข้าง แทรกร่างเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่
ที่นอนของเขานุ่มสบาย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จะว่าไปก็คล้ายน้ำหอมที่เขาใช้ ไม่สิ น้ำหอมที่เธอเคยซื้อให้พี่นา เพราะกลิ่นนี่ทำให้เธอเข้าใจผิด ในคืนนั้นหากไม่ได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยเธอคงจะไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา หญิงสาวคิดไปคิดมาจนหลับไป
น้ำฟ้าลืมตาขึ้น บนเตียงเช้านี้เหมือนบนเตียงในเช้าวันนั้น เธอถูกอ้อมแขนแข็งแกร่งกอดรัดเอาไว้ ลมหายใจของเขาพ่นอยู่หลังใบหู เธอมองผ้าม่านที่อยู่เบื้องหน้า แล้วก้มลงมองท่อนแขนที่พาดอยู่บนเอวตัวเอง
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“ถอยไป แค่ขึ้นมานอนบนเตียงเพราะมันสบายแค่นั้นเอง อย่าคิดฉวยโอกาส”
“ถอย คุณบอกให้ผมถอยงั้นเหรอ? นี่เตียงผมนะ คุณต่างหากที่ลงไป” เขาพูดพลางผลักหลังเธอจนกลิ้งตกเตียง
ตุบ!
“ไอ้บ้า!” ร่างเธอหงายอยู่บนพื้น จ้องมายังเขาด้วยความเคือง
“ฮ่าๆ ผลักแค่เบาๆ ก็ตกเตียงแล้ว อ่อนแอจัง” เขาผงกหัวขึ้นมองเล็กน้อยแล้วทิ้งศีรษะลงบนหมอน นอนหลับตานิ่ง
น้ำฟ้าลุกขึ้นยืน เท้าสะเอวด้วยความโมโห เธอกระโจนขึ้นไปบนเตียงยกมือขึ้นทุบตีบนตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง
“โอ๊ย! ทำอะไร?” เขายกมือขึ้นป้อง “ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษนะ หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะถีบสวนแล้วนะ”
เขาใช้สองมือจับข้อมือเธอไว้แน่น บีบจนเธอร้องออกมาเสียงดัง หญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนที่ภูมินทร์โดยบีบข้อมือก็คงจะเจ็บมากเหมือนกัน เธอลืมตัวอีกแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีมือแข็งยังกับคีมเหล็ก เขาผลักเธอออกจนร่างหญิงสาวเซไป
“ไปอบเสื้อ รีดเสื้อได้แล้ว เมื่อคืนทำไม่เสร็จใช่ไหม?”
“แค่ชุดเดียวเอง ไม่ต้องรีบก็ได้”
“ใครบอกชุดเดียว? ค่าที่พักเมื่อคืน คุณต้องซักผ้ารีดผ้าให้ผมด้วย อ้อ ต้องดูดฝุ่นถูพื้นด้วยนะ”
“บ้าสิ ใครจะไปทำ? งานบ้านพวกนี้ฉันไม่ชอบ”
เขาลุกขึ้นนั่ง สะบัดผ้าห่มแล้วลุกขึ้นยืนเท้าสะเอว “ต้องทำ! ทำให้เรียบร้อยแล้วผมจะไปส่งที่บ้าน”
น้ำฟ้ายืนรีดผ้าไปก็บ่นพึมพำด่าทอไป ตอนที่เธอต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศต้องทำงานบ้านพวกนี้ด้วยตัวเอง จำได้ว่าเธอทำไปบ่นไปอยู่นาน ดีที่ญาติผู้พี่ที่มาเรียนอยู่ก่อนเป็นคนใจเย็น จึงอดทนสอนเธอจนเธอทำได้ดี
“คุณก็ทำได้นี่? รีดเสื้อผ้าผมแล้วเก็บไปในตู้ให้เรียบร้อย เดี๋ยวผมทำกับข้าวเอง”
เธอเลิกคิ้ว “จะกินได้เหรอ? สั่งเอาเถอะ”
“หุบปากแล้วทำงานที่ผมสั่งให้เสร็จ ถ้าทำผมแล้ว คุณไม่กิน ผมจะจับยัดใส่ปากคุณให้หมด”
“อี๋! ให้คนบ้าอำนาจ” เธอร้องด่าอย่างเหลืออด
ณัฐวุฒิกดอุ่นข้าวในหม้อไฟฟ้า เปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบมาทำอาหาร เสียงทอดไข่ฉู่ๆ ไม่นานนักกลิ่นก็โชยมาเตะจมูก น้ำฟ้ากลืนน้ำลายเอื๊อก เธอมองนาฬิกาบนผนังก็เห็นว่าสายมากแล้ว
“เสร็จหรือยัง?” เขาร้องถาม
เธอหันไปถอดปลั๊กไฟแล้วหิ้วเสื้อผ้าที่รีดเสร็จแล้วออกมา “เสร็จแล้ว” “เอาไปเก็บแล้วมากินข้าว”
เขาตักข้าวใส่จานไว้รอเธอ น้ำฟ้าเพิ่งสังเกตว่าเขาทำไข่เจียวหมูสับได้น่ากินมาก ใส่ทั้งหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศหั่นเต๋า ผักผัดรวมส่งกลิ่นหอมยั่วยวน และยังมีต้มยำน้ำข้นอีกถ้วยหนึ่ง
“กินได้แล้ว อิ่มแล้วก็อาบน้ำ เดี๋ยวผมไปส่ง”
น้ำฟ้าพยักหน้า เธอรีบตักไข่เจียวมาใส่ปาก ทำตาโตที่รสชาติเกินคาด ก่อนจะหันไปตักต้มยำมาชิม
“ผมเรียนทำอาหารมา รับรองว่ากินได้ทุกอย่าง”
เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความประหลาดใจ “เรียนทำอาหาร”
“ใช่ ผมต้องรับใช้บอสให้ดี ไม่ว่าจะการดูเรื่องเสื้อผ้า ที่หลับที่นอนหรือแม้แต่อาหารก็ต้องทำอย่างดีที่สุด”
เธอเคี้ยวอาหารในขณะที่ฟังเขาตอบ จริงอย่างที่เขาบอก อาหารสามอย่างที่เขาทำให้เธอกิน อร่อยทุกอย่าง
***********************