7

1130 คำ
7 ไม่มีสิ่งใดหรือใครเปลี่ยนแปลงเพลย์บอยจอมร้ายกาจเช่นฟรานเซสโก้ได้ เพราะหลังจากทานมือค่ำกับอเล็สซานโดรพร้อมครอบครัวที่พากันมาเยี่ยมเขากับอัลบาโร ฟรานเซสโก้บึ่งรถคู่ใจออกมาระเริงราตรีทันที จุดหมายของเขาคือที่เดิม ผับบาบิยอง ผับที่เหล่ามาเฟียมักเข้ามาใช้บริการ มาเฟียคนอื่นมีลูกน้องรอบกาย แต่เขา...ฉายเดี่ยว ชายหนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในผับ โดยมีสายตาของมาเฟียหลายคนที่เข้ามาใช้บริการ รวมถึงลูกน้องของเขาเหล่านั้นที่พากันมองฟรานเซสโก้เป็นตาเดียว สายตาทั้งหลายนั้นมีทั้งเป็นมิตรและศัตรู แล้วคนที่เป็นศัตรูคู่อริก็ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับฟรานเซสโก้สักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะอำนาจของบิดากับคนเป็นอา มีมากเกินกว่าใครจะกล้ายุ่งเกี่ยว ฟรานเซสโก้ไม่อยากเป็นมาเฟีย แต่เมื่อบิดาเสียชีวิตและทิ้งอาณาเขตที่เขาต้องดูแลเกือบครึ่งของกรุงโรม และเป็นเขตที่มาเฟียรายอื่นอยากครอบครอง ฟรานเซสโก้จำต้องรับตำแหน่งมาเฟียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี เฉียบขาด ตัดสินใจว่องไว ไม่บ้าอำนาจและมีคุณธรรมไม่ต่างกับตอนที่บิดายังมีชีวิตอยู่ มาเฟียนิสัยแย่หลายคนที่แสวงหาอำนาจและอาณาเขต หลายครั้งที่เข้ามาทับพื้นที่ และพยายามยึดครองเป็นของตน แต่ก็ถูกฟรานเซสโก้ที่ใครต่อใครหลายชีวิตคิดว่า มือใหม่ไร้ประสบการณ์และอ่อนหัดจัดการวิ่งกลับบ้านแทบไม่ทัน และมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของฟรานเซสโก้โด่งดังคือ เขาใช้ปากกาประจำตัวจัดการกับลูกน้องของมาเฟียรายหนึ่งที่ลอบทำร้ายร่วมสิบคน ความโหดอีกหนึ่งเรื่องคือ ตัดหูข้างซ้ายของคนที่ลอบทำร้ายทุกคนส่งไปเป็นของขวัญให้คนออกคำสั่ง รับตั้งแต่นั้นจึงไม่มีคนกล้าแหยมกับเขา “ว่าไงเซสโก้ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เซนเธ่ มาเฟียเฒ่าที่ไม่ยอมปลดระวางอำนาจ แม้ว่าวัยจะย่างเข้าปีที่เจ็ดสิบ เขาเคยบอกใครๆ ว่า จะวางมือต่อเมื่อหมดลมหายใจ ทักชายหนุ่มรุ่นหลานที่กำลังเดินผ่านโต๊ะที่ตัวเองนั่ง “สบายดีนะ” ฟรานเซสโก้ไม่อยากเสวนากับเซนเธ่ แต่เมื่ออีกฝ่ายทัก เขาจึงหยุดและหันมาเผชิญหน้า เขาโค้งตัวเพียงนิดเป็นเชิงให้เกียรติในฐานะปู่ของวงการ เลื่อนสายตามองเซเรเก้ หลานสุดที่รักของเซนเธ่ที่นั่งดื่มอยู่ใกล้ๆ เพียงแวบเดียวก็หันมามองหน้าคนทักตน “สบายดีครับ แล้วคุณปู่ล่ะครับ สบายดีไหม” เซนเธ่หน้าตึงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ฟรานเซสโก้เรียกตนว่าปู่ มันเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่อยากให้ใครเอ่ย นอกจากคนในครอบครัว “สบายดี” เซนเธ่ตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไม่มีรอยยิ้ม “ผมขอตัวนะครับ” เหมือนฟรานเซสโก้ไม่อยากพูดคุยกับเฒ่ามาเฟีย เขาตัดบทและเดินไปยังโต๊ะที่จองไว้ทันที “ปู่ไปทักมันทำไม ดูมันสิ กวนกลับซะงั้น น่ากระทืบชะมัด” เซเรเก้พูด มองตามร่างฟรานเซสโก้ที่ตนไม่ชอบหน้า นึกอยากจะเอาเท้าเหยียบร่างอีกฝ่ายซ้ำๆ ให้จมดิน แล้วจึงเอาลูกตะกั่วเป่าหัว “ฉันกลัวว่ามันจะกระทืบแกมากกว่า” เซนเธ่รู้นิสัยหลานชายดี ปากดีไม่มีใครเกิน แต่พอเอาเข้าจริงก็ต้องพึ่งบรรดาลูกน้องให้ช่วยเหลือ ส่วนตัวเองสั่งการอย่างเดียว “โธ่! ปู่ พูดแบบนี้ดูถูกกันชัดๆ” “ฉันไม่ได้ดูถูกแก ฉันดูไม่ผิดต่างหากล่ะ” เซนเธ่จิบบรั่นดีขึ้นเดิม ดวงตามองฟรานเซสโก้ที่นั่งห่างออกไปไม่กี่โต๊ะ “ตราบใดที่มันไม่มายุ่งกับเรา เราก็ไม่ควรยุ่งกับมัน แต่ถ้าคิดจะทำก็ให้คนอื่นทำแทน” “ปู่พูดอย่างนี้หมายความว่าไงครับ” เซเรเก้ให้ความสนใจทันที “มีคนอยากฆ่ามันหลายคน ปล่อยให้คนอื่นจัดการไปสิ ส่วนเราก็รอจังหวะกวาดให้เรียบ” คนสูงวัยอยู่วงการนี้มานาน นานพอจะรู้ว่า ใครเป็นมิตรกับใครและใครเป็นศัตรูกับใคร รวมถึงใครที่ไม่สมควรยุ่ง เซนเธ่ฉลาดพอที่จะนั่งมองดูคนอื่นฆ่าแกงกัน ส่วนตนก็ฉกฉวยผลประโยชน์ กวาดให้เรียบ ในที่นี้หมายถึง หากมีใครสักคนทำให้ชื่อของฟราน-เซสโก้ถูกลบออกบัญชีรายชื่อมาเฟียได้ เขาจะยึดพื้นที่ที่ฟรานเซส-โก้ดูแล รวมถึงคนที่ทำให้มาเฟียหนุ่มไม่อยู่ในโลกนี้ แค่เขาอดทนรออย่างใจเย็น เพียงแค่นี้ก็มีอำนาจมากขึ้น เซเรเก้กระตุกมุมปากยิ้ม วิธีการของเซนเธ่แม้ว่าต้องใช้เวลารอคอย แต่ก็ยังดีกว่าเสียเลือดเสียเนื้อคนของตน ทว่าการรอคอยมันทรมานใจไม่น้อย เพราะต้องทนเห็นคนไม่ชอบหน้าเดินอย่างสง่างาม มันอึดอัดแต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องอดทน ทนเพื่อให้ถึงวันนั้น ในหัวของเซเรเก้มีความคิดบางอย่างวาบเข้ามา เขาไม่ชอบการรอคอยที่ไม่มีกำหนด เห็นทีงานนี้ต้องหาผู้ช่วยเสียแล้ว ฟรานเซสโก้ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาหนังเนื้อดี วันนี้เขามีนัดกับเพื่อนโดโนแวน วัลดัสและแม็กซิมิสกลุ่มเพื่อนสนิทที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงมาเฟีย เป็นเพื่อนที่คบหากันมานานร่วมยี่สิบปี โดโนแวนทำธุรกิจด้านอสิงหาริมทรัพย์ วัสดัสเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร แม็กซิมิสดูแลกิจการสถานีโทรทัศน์อีเอ็มไอต่อจากบิดาที่อำลาวงการ ไปพักผ่อนรอบโลก เมื่อฟรานเซสโก้มาถึง ทั้งหมดนั่งดื่ม นั่งคุยกันตามประสาเพื่อน โดยมีสาวสวยที่ทางผับมีไว้บริการนักท่องราตรีทั้งหลาย หัวข้อการสนทนาของพวกเขาไม่ได้เป็นความลับ เป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วไป “วันอาทิตย์นี้พวกนายว่างไหม” แม็กซิมิสถามเพื่อน “ทำไม แกจะชวนไปไหน” โดโนแวนถาม “ไปดูมวยกัน มีแมตซ์สำคัญอาทิตย์นี้ น่าสนใจนะ” คนชวนตอบ “น่าสำคัญยังไง” ฟรานเซสโก้เป็นเจ้าของคำถาม “นักมวยสวย” “มวยหญิงเหรอ” เสียงของโดโนแวนถามขึ้นมา “ใช่ มวยหญิง สถานีโทรทัศน์ของฉันถ่ายทอดสด ฉันเลยชวนพวกนายไปดู เปลี่ยนบรรยากาศจากดูมวยชายไปดูมวยหญิงบ้าง ได้ข่าวว่าคู่นี้สูสีกันเลยนะ เก่งทั้งคู่ สวยทั้งคู่ด้วย” แม็กซิมิสเชื้อชวนเพื่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม