6
“คนของเรามีแต่ผู้ชายทั้งนั้น ส่งไปทำงานคงไม่ได้เพราะเลี้ยงเด็กไม่เป็น ฉันกับอีเมอร์สันคิดไม่ตกเรื่องนี้ ปวดหัวมาก”
“ให้โจทย์มาแบบนี้ยากนะ งานบอดี้การ์ดมีแต่ผู้ชายและไม่เก่งเรื่องเลี้ยงเด็ก ส่วนงานพี่เลี้ยงเด็กมีแต่ผู้หญิงซึ่งไม่เก่งเรื่องจับปืน เราจะหาคนที่ทำหน้าที่นี้ได้สองอย่างพร้อมกันไม่ได้เลย” มาลีน่าเริ่มทุกข์ไปกับปัญหาของสามี “ไม่รับงานนี้คงไม่ได้ใช่ไหมคะ”
“ใช่ ไม่รับไม่ได้” อเล็สซานโดรกับอีเมอร์สันเป็นพันธมิตรกัน รู้จักและช่วยเหลือซึ่งกันมาโดยตลอด แม้ว่าจะไม่มีใครมีบุญคุณกับใคร แต่เมื่ออีกฝ่ายเปิดปากให้ช่วยก็ต้องช่วย
“ถ้าหนูทำงานนี้ให้ได้ไหมคะ” ไลลาที่ยืนฟังปัญหาหนักอกของอีเมอร์สัน พูดโพร่งออกไปโดยคิดและไตร่ตรองดีแล้ว “หนูคิดว่าหนูทำได้ค่ะ”
อีเมอร์สันมองหน้าหลานสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ความที่เขาทำธุรกิจด้านนี้ซึ่งเธอก็รู้ เขาจึงสอนศิลปะป้องกันตัว การใช้ปืนขนาดต่างๆ และการยิงปืน ไลลาเป็นลูกศิษย์ที่ดี เธอเรียนรู้ทุกอย่างได้เร็ว เรื่องการต่อสู้ ความแม่นยำในการยิงปืนไม่เป็นสองรองใคร เผลอๆ จะดีกว่าเขาด้วยซ้ำไป และหลายครั้งที่ไลลาช่วยงานเรื่องการเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม การเลี้ยงเด็กก็เช่นกัน เธอเอาอยู่ทุกงานที่ได้รับมอบหมาย
“หนูแน่ใจนะไลลา คุณซานโดรบอกลุงว่า ลูกชายของเซสโก้ดื้อและเอาแต่ใจมาก ไม่ใช่ย่อยเลยนะ หนูจะเหนื่อยทั้งการเลี้ยงเด็กและดูแลเซสโก้นะ จะไหวเหรอ” อีเมอร์สันถามด้วยความเป็นห่วง
“ไหวค่ะ หนูไหว” ไลลาย้ำให้คนเป็นลุงทราบ “หนูอาจจะยังไม่เคยทำสองเรื่องนี้ในเวลาเดียวกัน แต่หนูมั่นใจว่า หนูทำได้ หนูไม่ทำให้คุณลุงผิดหวังค่ะ”
คราวนี้อีเมอร์สันยิ้มได้ ความหนักใจถูกโยนทิ้งไปในทันที ทำไมเขาลืมไลลาไปได้ มัวแต่นึกถึงลูกน้องคนอื่น แต่ไม่มีไลลาในสมอง หากนึกถึงเธอตั้งแต่คราวแรก เขาคงไม่ต้องพึ่งยาพาราให้คลายจากอาการปวดหัว
“ลุงฝากด้วยนะ”
“ค่ะคุณลุง ว่าแต่จะให้เริ่มงานเมื่อไหร่คะ”
“วันจันทร์หน้า” อีเมอร์สันตอบ “หลังวันหนูขึ้นชก หนูไหวไหมลูก”
“ไม่มีปัญหาค่ะคุณลุง”
“อ้อ...ลุงลืมบอกไป หนูต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านเซสโก้นะ เพราะต้องไปเลี้ยงเด็กแบบยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“ค่ะคุณลุง” ไลลารับคำ
“ขอบใจมากนะที่ช่วยลุง”
“ยินดีเป็นที่สุดค่ะคุณลุง หนูจะไม่ให้คุณลุงผิดหวังในทุกเรื่องที่หนูทำค่ะ” ไลลายิ้มหวานให้ผู้มีพระคุณ “หนูขอตัวไปซ้อมมวยก่อนนะคะ”
อีเมอร์สันพยักหยักหน้า ไลลาเดินเข้ามาหอมแก้มลุงกับป้าสุดที่รัก ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน เพื่อไปทำอีกหน้าที่หนึ่งของตน
“คุณพอจะรู้หรือเปล่าคะว่า ใครคือคนที่จ้องทำร้ายเซสโก้”
มาลีน่ากังวลเรื่องนี้ไม่น้อย การที่ไลลาตกปากรับคำรับทำงานนี้ มาลีน่าอยากค้านเพราะเป็นห่วงหลานสาว แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังของไลลาแล้ว นางรู้ได้ทันทีว่า ไม่มีวันห้ามได้ และงานทุกงานที่ไลลาทำ เธอจะทำอย่างเต็มที่ไม่ให้คนทางหลังผิดหวังเลยสักงาน ถึงแม้ว่าไลลาจะเก่งเพียงไร หากรู้สึกนิดว่าใครคือคนสั่งฆ่าและมือสังหารคือใครก็คงดี เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรับมือ
“ไม่รู้เหมือนกัน คุณซานโดรไม่ได้บอก รู้แค่ว่า ข่าววงในแจ้งมาก็เท่านั้น” อีเมอร์สันตอบ “เราถึงต้องหามือดีที่ไว้ใจได้ ไว้ใกล้ตัวเซสโก้ไง ฉันคิดว่าไลลานี่แหละเหมาะสมที่สุด”
“ฉันกับอีเมอร์สันคิดว่า จะส่งคนไปคุ้มกันใกล้ๆ ด้วย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือได้ทัน” เจนนาโรเห็นความกังวลในแววตาของมาลีน่า ซึ่งเขาเป็นกังวลเรื่องนี้เช่นกัน
“ดีค่ะ” มาลีน่าโล่งใจไปได้มาก “ฉันไปหาของว่างให้คุณกับเจนนาโรทานนะคะ จะเอาบรั่นดีด้วยไหมคะ”
“เอามาก็ดี แก้เครียด” คนเป็นสามีตอบ มาลีน่าก้าวเดินออกจากห้องทำงานของสามีไปยังห้องครัว เพื่อจัดเตรียมของว่างและเครื่องดื่มให้อีเมอร์สันและเจนนาโรที่เปลี่ยนเรื่องสนทนาเป็นเรื่องอื่น
เมื่อสามชั่วโมงก่อน อเล็สซานโดรโทรศัพท์มานัดหมายอี-เมอร์สันให้ออกไปพบ ทั้งสองพูดคุยกันตามประสาเพื่อนที่คบหากันมานาน และบ่อยครั้งที่อเล็สซานโดรเรียกใช้บริการอีเมอร์สันให้ไปส่งอาหาร อเล็สซานโดรจึงขอความช่วยเหลือจากอีเมอร์สันเรื่องหาบอดี้การ์ดไปคุ้มครองฟรานเซสโก้ เพราะอเล็สซานโดรได้ข่าวมาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในวงการมือสังหารว่า มีคนมุ่งเอาชีวิตฟรานเซสโก้
คราแรกอเล็สซานโดรหมายจะเตือนหลานชายให้รู้ตัว แต่ก็รู้ดีว่าฟรานเซสโก้เป็นคนไม่กลัวตาย ไม่ระวังหน้าระวังหลังแม้ว่าจะมีลูกน้องเป็นพรวน และถึงรู้ไปก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ในฐานะที่เขาเป็นอา จะเพิกเฉยหากรู้ว่าหลานรักมีอันตรายก็ไม่ได้ เขาจึงว่าจ้างบอดี้การ์ดเงียบๆ ไม่ให้ฟรานเซสโก้รู้ตัว ประจวบเหมาะกับที่ฟรานเซสโก้ต้องการหาพี่เลี้ยงคนใหม่ เขานึกถึงอีเมอร์สันทันที และคิดว่าจะให้อีเมอร์สันหาบอดี้การ์ดไปในคราบพี่เลี้ยงเด็กด้วย ทำงานสองอย่างพร้อมกัน วิธีนี้ฟรานเซสโก้ไม่มีทางสงสัย แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่อเล็สซานโดรกับอีเมอร์สันต้องการ เมื่อมีนางเอกขี่ม้าขาวมารับงานนี้