Chapter 2 รักแท้แพ้ใกล้ชิด (2)

1148 คำ
Chapter 2 รักแท้แพ้ใกล้ชิด (2) ในห้องนอนที่อากาศเย็นสบาย เสียงหัวร่อต่อกระซิกดังหวานแว่วอบอวลอยู่รอบกาย พิมพ์ลดาอุ้มลูกน้อยนั่งบนตัก โดยหันหน้าไปทางหน้าจอไอแพด ซึ่งคนที่อยู่ในกล้องนั้นก็คือพ่อของลูก เขาคอลมาหาหลังจากผ่านพ้นมื้อเย็นไปได้ไม่นาน สองพ่อลูกคุยกันเป็นภาษาอ้อแอ้ผสานเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขถึงแม้ตัวจะอยู่ห่างไกลกัน​ เมื่อคุยกับลูกจนหายคิดถึง ก็ได้เวลาร่ำลาแม่ของลูกเพื่อที่จะได้พากันเข้านอนในเวลาที่ไม่ดึกเกินไป "เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะพิมพ์ พี่ต้องกลับโรงแรมแล้วน่ะ​" "ทานข้าวเสร็จแล้วเหรอคะ" "อืม...วันนี้พี่เหนื่อยมาก ๆ เลย อยากเอนหลังบนที่นอนนุ่ม ๆ เต็มที" "โอเคค่ะ รีบกลับโรงแรมอาบน้ำนอนนะคะ พิมพ์ก็จะพาลูกนอนเหมือนกัน" "งั้นพี่วางแล้วนะครับ" "ค่ะ" "รักเมียมากนะครับ ฝากจูบลาลูกแทนพี่ด้วยนะ" เขาทำท่าส่งจูบมาให้ พิมพ์ลดาคลี่ยิ้มหวานแล้วโบมือบ๊ายบายคนที่อยู่ปลายสาย แม้ตัวอยู่ไกลแต่ใจนั้นหลอมรวมเป็นหนึ่ง ติณณภพทำให้หล่อนคิดเช่นนั้น และแม้คืนนี้จะต้องนอนอย่างเดียวดาย แต่หล่อนคงจะไม่ฝันร้ายเพราะได้พ่อของลูกมาส่งเข้านอน ++++++ ริมน้ำกกที่ไหลผ่านเมืองเชียงราย ค่ำคืนนี้มีแสงไฟทอประกายนวลตาสร้างบรรยากาศแสนโรแมนติก โต๊ะริมน้ำเริ่มว่างเปล่าเพราะแขกทยอยกลับกันไปบ้างแล้ว รวมทั้งโต๊ะของติณณภพที่เพื่อนร่วมโต๊ะลุกกลับกันไปก่อนหน้า คงเหลือเพียงแต่เขากับพิชญ์สินี ที่ยังคงนั่งดื่มกันอยู่เพียงลำพังสองคน ติณณภพมองแก้วของคนข้างกายที่ว่างเปล่า​ เขาหยิบไวน์มารินเติมลงไปครึ่งแก้ว "ดื่มให้หมดสิปุ้ย​ ไม่งั้นเธอไม่ได้กลับไปนอนนะ" "ปุ้ยดื่มไม่ไหวแล้วค่ะบอส" หล่อนทำตัวโคลงเคลง​ประคองหัวไม่อยู่ ก่อนเอนลงไปซบอยู่บนบ่ากว้าง​ที่มีเจ้าของ​ หากแต่หล่อนแค่ขออาศัยพักพิงชั่วคราว ซึ่งเขาเองก็นิ่งไม่ได้ขยับหนี​ หรือไม่เขาก็อาจไม่ทันตั้งตัวและกำลังงง อา...รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเหลือเกิน​ หญิงสาวสอดแขนกอดตัวเองเอาไว้​ ความรู้สึกดีแบบนี้มันคืออะไรกัน​ หล่อนถามตัวเองพลางหลับตาพริ้มเคลิ้มฝัน​ หัวใจดวงน้อยเต้นระบำราวมีผีเสื้อนับพันโบยบิน​ ได้กลิ่นหอมอ่อน​ ๆ​ เย็น​ ๆ​ ราวเกล็ดหิมะที่มาจากกายแกร่ง​ กลิ่นอันแสนสดชื่นเหมือนดอกเอเดลไวส์จากยอดเขามงบล็องแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ​ ใบหน้าสวยตอนนี้แดงก่ำ​ แววตาฉ่ำน้ำอ่อนเชื่อม หล่อนรู้สึกหนักอยู่ในหัวและสติเริ่มล่องลอยราวอยู่ในห้วงฝัน ซึ่งหล่อนไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องดื่มน้ำหมักจากองุ่น เหตุเพราะต้องทำตัวกลมกลืนไปกับสังคมของเจ้านาย มันไม่อร่อยเลยสักนิด ทั้งขม​ เปรี้ยวและฝาดเฝื่อน ไม่รู้ว่าพวกเขาชื่นชอบกันไปได้อย่างไร แต่หล่อนขัดติณณภพไม่ได้ แข็งใจดื่มไปหลายแก้วจนลุกไม่ขึ้น​ หล่อนไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะพาร่างกายที่ไร้สตินี้กลับห้องพักได้อย่างไร ++++ รถคันหรูแล่นมาจอดเทียบที่หน้าทางเข้าล้อบบี้​ ติณณภพเอี้ยวตัวไปเขย่าแขนคนข้าง​ ๆ​ เบา​ ๆ​ อีกฝ่ายส่ายหน้าไปมา​ สองตาลืมไม่ขึ้น​ ความรู้สึกคืออยากทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับอยู่ตรงนี้โดยไม่สนใจอะไรอีก “ปุ้ย​ ถึงโรงแรมแล้ว” เสียงเรียกนุ่ม​ ๆ​ ดังอยู่ข้างหู​ พิชญ์สินีพยายามดึงหัวที่หนักอึ้งขึ้นมาจากเบาะรถ​ หล่อนปรือตามองคนข้างกาย​ ภาพตรงหน้าดูลาง​ ๆ​ เบลอ​ ๆ​ ราวกับอยู่ในห้วงฝัน และความเมาทำให้หล่อนขาดสติ​ ความกล้าถูกปลุกขึ้นมาจากส่วนลึก “บอสขา…ปุ้ยเดินไม่ไหวค่ะ” ติณณภพเหลียวซ้ายแลขวา​ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครที่จะช่วยหล่อนได้​ และเขาคงต้องรับผิดชอบที่พาหล่อนดื่มจนเมามาย​ไม่ได้สติ​ ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถ​ เดินอ้อมท้ายรถไปยังฝั่งที่พิชญ์สินีนั่ง​ เขาดึงประตูให้เปิดกว้างแล้วค่อย​ ๆ​ โอบกอดประคองร่างอ่อนปวกเปียกลงมาจากรถ​ กว่าที่จะสำเร็จก็ทุลักทุเลพอดู คนขับรถมองผ่านกระจก​ที่ติดฟิล์มดำมืด​ มองร่างสูงที่พยายามประคองคนเมาที่เดินโซเซให้เข้าไปในโรงแรม​ เขาไม่รู้หรอกมันจะจบลงแบบไหน​ แต่นั่นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาที่จะต้องเข้าไปยุ่ง​ คิดพลางเหยียบคันเร่งเพื่อขับรถกลับที่พักของตน ที่หน้าห้องพักของพิชญ์สินี​ ติณณภพควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายของเจ้าหล่อน​ เขาแตะมันแล้วผลักบานประตูให้เปิดกว้าง ค่อย​ ๆ​ พาร่างที่อ่อนปวกเปียกเข้าไปในห้อง​ และดูเหมือนสติของคนเมาจะดับวูบไป​ หล่อนทิ้งตัวเองจนแทบจะลงไปนอนกองกับพื้น​ ขนาดที่อ้อมแขนแข็งแรงของติณณภพยังประคองเอาไว้ไม่อยู่ เขานั่งลงแล้วสอดแขนช้อนร่างอ่อนระทวยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด​ คนเมาที่ทิ้งตัวดิ่งนั้นหนักกว่าปกติถึงสองเท่า​ เขาต้องใช้แรงมากขึ้นเพื่ออุ้มคนเมาไปส่งถึงเตียงนอน…บนเตียงกว้าง​ ชายหนุ่มวางร่างที่ไร้สติให้นอนหงายลงไปอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้ตั้งใจมอง​ แต่แววตาเข้มก็ไปสะดุดเข้ากับชายกระโปรงสั้นที่ถลกขึ้นไปจนถึงหน้าขา​ แพนตี้สีชมพูหวานลายลูกไม้อำพรางซ่อนเร้นเนินเนื้ออวบอูมเอาไว้ไม่มิด​ เขาเผลอจ้องมองอย่างลืมตัว​ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพิชญ์สินีนั้นสวยไปทั้งตัว​ ยามนี้ใจเขาเต้นแรงเมื่อกลิ่นอันแปลกใหม่แสนหอมหวานลอยกรุ่นอยู่รอบกาย ชายหนุ่มสะบัดหัวเพื่อสลัดความฟุ้งซ่านทิ้ง​ ถอนหายใจยาวพลางยื่นมือไปจับชายกระโปรงสั้นให้ตลบลงมาปิดบังเนินเนื้อเอาไว้​ แววตาเข้มไล่มองไปยังอกอิ่มที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ​ สองเต้านั้นบดเบียดกันอยู่ใต้เดรสที่คอเสื้อคว้านลึก​ เขาได้แต่ถอนหายใจแล้วกระชากผ้าห่มมาคลุมกายหล่อนเพื่อตัดปัญหา ก่อนที่เขาจะตบะแตกควบคุมตัวเองไม่อยู่ “คุณติณห์…ปุ้ยร้อน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม