"ป้าไม่เคยขัดขวางนะ.. ถ้าเราสองคนจะแต่งงานกัน แต่คีรีเคยบอกกับป้าไว้ว่า เคยคุยกับหนูในเรื่องนี้แล้ว.."
สีหน้าของคุณฉวี แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สบายใจ ความจริงเรื่องของเด็กๆมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่มันขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่มากกว่า คุณย่าของคีรีไม่ชอบบิดาของเพียงฝัน ท่านไม่อยากให้เด็กทั้งสองคนนี้แต่งงานกัน แม้ว่าบิดาของคีรี ที่เป็นบุตรชายของท่าน จะเคยยืนยัน ว่าพูดคุยเป็นมั่นเป็นเหมาะ เกี่ยวกับเรื่องของเด็กทั้งสองคนนี้แล้วก็ตาม
" แต่พวกคุณจะเอาเรื่องอาการป่วยของคุณอมร มายืดเยื้อทุกอย่างไว้แบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหนๆ สุดท้ายเด็กสองคนนี้ก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี.."
เป็นอีกครั้งที่สีหน้าของคุณฉวีแสดงออกถึงความวิตกมากกว่าเก่า ท่านค่อยๆหันไปมองใบหน้าของบุตรสาวของเพื่อนเก่าสามี ก่อนที่ท่านจะเลือกพูดมาตรงๆ
"ที่ป้ายังไม่จัดงานหมั้นหรือพูดเรื่องงานแต่งงาน เป็นเพราะคุณย่าของคีรีกำลังป่วย หนูฝันรับรู้ถึงเรื่องนั้นไหม.."
"จะต้องให้ผมพูดตรงๆไหมว่าจริงๆแล้ว แม่สามีของคุณ ไม่อยากให้หลานของตัวเองแต่งงานกับลูกสาวของผม แบบที่เพื่อนรักของผมตกลงเอาไว้มากกว่า อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ว่าแม่สามีของคุณพยายามที่จะหาหลานสะใภ้ให้หลานชายคนนี้อยู่ตลอดเวลา คิดว่าทำอย่างนั้นแล้วเรื่องมันจะจบหรือยังไง.."
วิรุจน์แสดงความไม่พอใจออกมาจนทุกคนรู้สึกได้ เอาตรงๆผู้ใหญ่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าแต่ละคนมีความคิดอย่างไร เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดเท่านั้นเอง
"แม่สามีของคุณไม่ชอบหน้าผม.. แม้ว่าผมจะเป็นเพื่อนสนิทกับคณิต สามีของคุณและเป็นลูกชายแท้ๆของคุณอมร เพราะอะไรล่ะ เพราะฐานะทางครอบครัวของผมมันด้อยมากกว่าพวกคุณใช่ไหม พวกคุณจึงคิดจะละเลยสัญญา พี่คณิตเคยว่ากับผมเอาไว้ หรือเห็นว่าคณิตตายไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาสัญญาอีกต่อไป.."
"สิ่งที่คุณพูดก็ใช่ว่ามันจะถูกไปเสียทุกอย่าง.. อย่างน้อย ฉันก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นฉันยังคิดจะรักษาสัญญาที่สามีของดิฉันให้ไว้ แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่าย่าของคีรี ไม่อยากให้เด็กสองคนนี้แต่งงานกันก็ตาม.."
หญิงสาวที่ก้มหน้ารับฟังค่อยๆเงยมองที่ใบหน้ามารดาของคนรักอย่างช้าๆ สุดท้าย ท่านก็ยอมรับในสิ่งที่เธอเพิ่งรู้มาคุณย่าของคีรี ไม่ต้องการได้เธอมาเป็นหลานสะใภ้ของบ้านนี้จริงๆ
"เอาล่ะ.. ถ้าอย่างนั้นหนูฝันก็ตัดสินใจออกมาเถอะ ว่าอยากให้ป้าจัดการทุกอย่างแบบไหน หมั้นกันไว้ หรือจะตบแต่งให้เรียบร้อยอย่างที่บิดาของหนูต้องการ.."
"ฝัน.."
เสียงของคนรักที่กระซิบที่ข้างๆ ทำให้เธอค่อยๆหันหน้ากลับไปมองที่เขาอีกครั้ง และเธอก็เห็นว่า เขาค่อยๆส่ายหน้ากลับไปกลับมาช้าๆ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาอยากให้เธอปฏิเสธมันออกมา
"ฝันต้องการแต่งงานกับพี่คีค่ะ.. ฝันกับพี่คี เรามีอะไรกันมาตั้งนานแล้ว ฝันอยากให้คุณป้า จัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อย โดยเร็วที่สุด.."
เธอบอกเสียงสั่น และเลือกที่จะสบตากับมารดาของคนรักอยู่อย่างนั้น ณ เวลานั้นเธอไม่รู้ว่าคนรักของเธอแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน และเธอก็รู้ ว่าวิธีนี้ เป็นวิธีที่เขาไม่อยากได้ แต่สุดท้าย เหตุผลที่ทำให้เธอต้องทำแบบนี้ มันก็สำคัญกับเธอมากเช่นกัน
"หนูฝันจะให้ป้าทำอย่างนั้นจริงๆหรอลูก.."
มารดาของคนรักถามย้ำ เธออ่านท่านออก ว่าท่านเองก็คิดไม่ถึง ว่าเธอจะตอบออกไปแบบนั้นเช่นเดียวกัน
"ฝันอยากให้คุณป้าทำแบบนั้นค่ะ.."
"เอาเป็นว่า.. คุณจัดการทุกอย่างตามที่ลูกสาวของผมต้องการก็แล้วกัน.."
วิรุจน์สรุปออกมาอย่างพอใจ จากนั้นห้องโถงขนาดใหญ่ ก็ถูกความเงียบเข้าปกคลุมในทันที
เพียงฝันสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ เมื่อคนรักดึงมือของเธอให้ออกมาคุยกันตามลำพัง โดยที่จังหวะนั้น บิดาของเธอและมารดาของเขา ก็กำลังตกลงรายละเอียดเรื่องงานแต่งงานอยู่เช่นกัน
"ทำไมฝันถึงบอกไปแบบนั้น.. ฝันก็รู้ว่าคุณย่ากำลังไม่สบาย ฝันก็รู้ว่าตอนนี้เรายังแต่งงานกันไม่ได้ แล้วทำไมถึงบอกออกไปแบบนั้น.."
คีรีจับจ้องที่หญิงคนรักอย่างไม่เข้าใจ หลายต่อหลายครั้ง ที่เขาเคยคุยกับหญิงคนรักเรื่องนี้ และที่ผ่านๆมา เขาก็เห็นว่า เธอรับรู้และเข้าใจทุกอย่างแต่โดยดี แล้วครั้งนี้มันเกิดอะไร ทำไมเธอถึงเลือกที่จะทวงถามความรับผิดชอบขึ้นมาง่ายๆ ที่พูดแบบนี้ ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเธอแต่อย่างใด แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ว่าเหตุผลที่ทำให้เขายังรับผิดชอบเธอไม่ได้ มันคืออะไร
"ฝันรักพี่คีนะคะ.. ฝันรักพี่คีมากนะ.."
เธอบอกออกมาพร้อมกับร้องไห้ วงแขนขาวนวล เคลื่อนไปสวมกอดที่เอวสอบของเขาเอาไว้ จากนั้นเธอก็ซบใบหน้าลงไปกับบ่าแกร่ง และปล่อยเสียงสะอื้นออกมา
ร่วมนาที ที่คีรีใช้ความคิดเพียงลำพังอย่างหนัก เขากำลังรู้สึกสงสัยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น และเรื่องที่หญิงคนรักพูดออกมาเช่นเดียวกัน
"ทำไมอยู่ๆผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย.. ถึงตามไปเจอเราสองคนได้ ไม่มีใครรู้ ว่าพี่แอบซื้อคอนโดเอาไว้ แล้วพวกเขารู้ได้อย่างไร ว่าเราอยู่กันที่นั่น.."
ยอมรับว่าหลายต่อหลายครั้ง ที่เขาพาหญิงคนรักไปกกกอด พลอดรักกันที่นั่น เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องราวระหว่างเขากับเพียงฝัน เกิดขึ้นได้ ก็เพราะคำพูดของบิดาทั้งสองฝ่าย เรื่องนี้มารดาของเขาบอกก่อน ที่ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำไป
แล้วในระหว่างนั้น เขาเองก็ไม่ได้มีใคร แล้วพอมาพบหน้าน้องครั้งแรก ความน่ารักสดใสของเธอ ก็ทำให้เขาไม่เอ่ยคำปฏิเสธออกไป แล้วหลังจากนั้น เขาและเธอ ก็สานความสัมพันธ์กันเรื่อยมา
ทุกคนรับรู้ว่าเขากับน้องกำลังคบหา จริงๆเรื่องการชิงสุกก่อนห่ามของคู่รัก มันก็เป็นเรื่องที่แสนธรรมดา แต่ทว่า ผู้เป็นย่าของเขาก็ย้ำออกมาตามหลัง ว่าไม่ให้เขากับน้องแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กัน ยอมรับว่าสาเหตุของมัน เป็นเพราะย่าไม่อยากให้เขาแต่งงาน กับลูกสาวของคนบ้านนั้นนั่นเอง
แล้วพออีกคนถามถึงสาเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ ตัวเธอเองก็ถึงกับใจหาย และเผยสีหน้าแห่งความหนักใจออกไป
"จะช้าหรือเร็ว เราก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ.."
เธอเงยหน้ามองเขา ทั้งๆที่น้ำตาก็ยังหลั่งไหล แต่อีกคนกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จากนั้นเขาก็เอ่ยสิ่งที่ทำให้เธอใจหายออกมา
"อย่าบอกนะ ว่าเธออยู่เบื้องหลังของเรื่องราวทุกอย่าง อย่าบอกนะ ว่าเธอเป็นคนโทรตาม ให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไปเจอเราอยู่ด้วยกัน.."
"ถึงอย่างไร.. เราก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว ฝันแค่ทำทุกอย่างให้มันเร็วขึ้น"
พอคำนั้นหลุดออกมา ผู้ฟังถึงกลับหน้าชาไปทันที จริงอยู่ ที่ไม่ช้าหรือเร็ว เราก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ มันทำให้ย่าของเขาช็อค จนหมดสติ และทรุดลงไปกับพื้น โดยไม่มีใครรั้งเอาไว้ได้ทัน และนั่น คือสาเหตุที่ทำให้ย่ากลับเข้าไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
"แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้.. เธอไม่ควรวางยาฉัน เพื่อให้เราได้แต่งงานกันแบบนี้"