ตอนแรกหญิงสาวนึกสงสารหยางอี้คังอยู่หรอก แต่วาจาเขาเชือดเฉือนใจดีแท้ “อย่างน้อยข้าก็เคยเอาชนะเขาสำเร็จ ไม่ว่าเรื่องในอดีตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้คงแก้ไขไม่ได้ ข้าต้องเดินหน้าต่อ...” ฝูมองคุณหนูของตน นางอาจไม่ฉลาด แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเติบใหญ่ขึ้นเพียงข้ามคืน ก็รู้สึกโล่งใจว่านางได้ทำให้เด็กน้อยผู้หนึ่งออกมายืนพ้นเงาของบิดาและบรรดาพี่น้องของซูกุ้ยฟางได้สำเร็จเสียที “แม่ทัพหยางมิใช่คนเลวร้ายอันใด บ่าวเชื่อว่าหากคุณหนูจะรักเขา ก็นับว่าประเสริฐ” “รักอย่างงั้นรึ เจ้าเอาอะไรมาพูด” ซูกุ้ยฟางไม่ได้โกรธฝูที่สู่รู้ แต่นางฉงนที่อีกฝ่ายมองเห็นสิ่งใดจากการแสดงออกของตน “บ่าวไม่เคยมีครอบครัว อยู่รับใช้มาตั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบในสกุลซู ผ่านร้อนผ่านหนาวกับฮูหยินใหญ่กอดคอร้องไห้กันบ่อยครั้ง พอได้เลี้ยงดูคุณหนูเลยรักเสียยิ่งกว่าชีวิตตน เวลาท่านถูกพี่น้องรังแก หรือนายใหญ่บังคับให้ทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรม บ่าวไ