คุณขวัญฤดีวางหนังสือนิตยสารลงบนตักเมื่อเห็นลูกสะใภ้กับบุตรชายเดินเข้ามาภายในห้องโถง “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” บัวชมพูเอ่ยสวัสดีแล้วยกมือไหว้บิดามารดาของอธิป พลางนั่งลงยังโซฟาตัวที่ว่างอยู่ “แม่รอทานข้าวอยู่นานแล้วนะลูก งานที่ร้านยุ่งหรือจ้ะหนูเหมียว” คุณขวัญฤดีถามลูกสะใภ้ ทั้งที่ท่านรู้อยู่แล้วว่าความจริงเป็นยังไง ดูเหมือนว่าบุตรชายของท่านจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ‘ให้ไปพาเมียกลับบ้านแค่นี้ ลูกใช้เวลานานขนาดนี้เลยหรือตาเสือ’ “ค่ะคุณแม่ เหมียวต้องขอโทษด้วยนะคะที่กลับมาช้า พอดีที่ร้านไม่มีคนช่วยดูแลนะคะ” บัวชมพูเอ่ยขอโทษคุณขวัญฤดี “หนูแต่งงานแล้วนะลูก อย่ามัวทำแต่งานจนลืมครอบครัวสิจ้ะ” คุณขวัญฤดีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มองสีหน้ากระอักกระอ่วนของลูกสะใภ้อย่างเอ็นดู “ค่ะ” บัวชมพูตอบเสียงอึกอัก ตวัดสายตามองอธิปอย่างหมั่นไส้ พอเธอถูกมารดาของเขาต่อว่าก็กลับหน้าบานเชียว อยากมีเรื่องกับเธอ