วิวาห์ร้อนอ้อน(ให้)รัก EP.9 เรื่องเคลียร์(แต่)คน(ยังไม่)เคลียร์ (3)

1293 คำ
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง บัวชมพูนึกไปถึงคำพูดของเธอที่พูดกับป้าพลับพลึงเอาไว้ “สงสัยป้าพลับพลึงคงทำข้าวต้มเสร็จแล้ว ถึงให้คนขึ้นมาตาม” “หนูเหมียวสั่งให้ป้าพลับพลึงทำข้าวต้มเหรอ?” อธิปถาม “ก็ข้าวต้มของคุณนั่นแหละ คุณแม่บอกว่าคุณไม่ยอมลงมาทานข้าวตั้งแต่เช้า ท่านก็เลยเป็นห่วง ชบาเลยโทร. ไปหาฉัน บอกว่าคุณไม่สบาย อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับคนท้อง” บัวชมพูบอกถึงสาเหตุที่เธอต้องมาคฤหาสน์เลิศภาณิชย์ให้ตัวต้นเหตุฟัง สองมือก็พยายามแกะแขนใหญ่อันแข็งแกร่งของเขาออก แต่ก็ต้องชะงักมือ เพราะเสียงที่ดังจากนอกห้อง “คุณเสือค่ะ” บัวผันตะโกนเรียกเจ้าของห้องเสียงหวาน เธอได้รับคำสั่งจากป้าให้ขึ้นมาตามเจ้านายหนุ่มและผู้หญิงคนนั้นลงไปทานข้าว “น้องบัวผันเรียกคุณอยู่หน้าห้อง ให้ฉันลุกไปเปิดประตูให้ไหม” บัวชมพูบอก เหลือบมองใบหน้าหล่อคมสันที่ตอนนี้ฉายแววบึ้งตึงจนเธอเริ่มรู้สึกสงสารผู้หญิงที่อยู่นอกห้องขึ้นมานิดหน่อย “ฉันเกลียดผู้หญิงคนนั้นหนูเหมียว” อธิปพูดเสียงกร้าว คลายแขนที่รัดเอวคอดกิ่วออก สูดอากาศเข้าเต็มปอด ก่อนตัดสินใจตะโกนถามสาวใช้ออกไป “มีอะไรบัวผัน” “ให้บัวผันเข้าไปในห้องก่อนได้ไหมค่ะ” บัวผันตะโกนถามผู้เป็นนาย “ไม่ต้องสะเออะเข้ามาในห้องฉันอีก ไม่งั้นฉันไล่เธอออก” อธิปตะโกนบอกเสียงแข็งกระด้าง แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ขืนให้เข้ามาอีก เขาอาจพลาดท่าเสียทีสาวใช้คนนี้ก็ได้ “ทำไมต้องพูดหยาบคายกับบัวผันแบบนั้นด้วยคุณเสือ” บัวชมพูต่อว่าอธิป ถึงบัวผันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นก็เถอะ แต่ไม่เห็นต้องใช้น้ำเสียงและกริยาหยาบกระด้างใส่กันเลย “ถ้ามีใครทำกับหนูเหมียวเหมือนที่ฉันโดนอยู่เนี่ย หนูเหมียวจะทำยังไง จะโกรธหรือยกโทษให้คนที่มันคิดบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของหนูเหมียวล่ะ” “เอ่อ...” บัวชมพูถึงกับพูดไม่ออกกับคำถามของอธิป “ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” อธิปทำเสียงหยันเล็กน้อย เขารู้ดีไม่ว่าถ้าบัวชมพูเจอแบบเขา หญิงสาวคงโวยวายมากมายที่เขาเป็นอยู่แน่ เพราะความเสียหายระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายมันต่างกันเยอะ “โอ๊ย! หนูเหมียวอย่าสิ อย่าทำแบบนั้น โอ๊ย...ซี๊ดดดด!” เสียงที่ดังขึ้นทำให้บัวชมพูกลับมาได้สติ ก่อนหน้าแดงกำกับสิ่งที่อธิปกำลังทำ เสียงร้องครวญครางของเขายิ่งทำให้เธอใจเต้นแปลกๆ ร่างกายเริ่มอ่อนปวกเปียกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ทะ...ทำบ้าอะไรของคุณ ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ แล้วเลิกทำเสียงครวญคราง ชวนสยิวนั่นด้วย” บัวชมพูโวยวายเสียงสั่นเครือ ดันร่างหนาที่ขึ้นคร่อมทับร่างเธอตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้อย่างโมโห “เป็นไงหนูเหมียว นี่แหละสิ่งที่บัวผันทำกับฉันเมื่อเช้า” อธิปย้อนถามคนใต้ร่างด้วยสีหน้าจริงจัง แม้เขามองไม่เห็นสีหน้าของบัวชมพู เขาก็มั่นใจว่าเธอต้องอายสุดขีด หน้าตาแดงก่ำกับสิ่งที่เขาทำ “หนูเหมียวโกรธไหมล่ะที่ฉันทำแบบนี้กับหนูเหมียว” “ก็ต้องโกรธสิย่ะ เลิกทำเรื่องลามกกับฉันได้แล้วคุณเสือ นี่คุณรู้หรือเปล่า...คุณตัวหนักจะตาย ทำไมต้องทิ้งน้ำหนักลงมาบนตัวฉันด้วย อึดอัด หายใจไม่ออก รู้ไหมเนี่ย” บัวชมพูตอบเสียงสะบัด หน้าตาแดงก่ำเพราะความอับอาย มือบางพยายามดันใบหน้าหล่อคมสันออกห่างจากหน้าเธอ เพราะตอนนี้เขาก้มลงมาใกล้จนเกินไป อีกนิดเดียวก็ปากเขาก็ชนกับปากของเธอแล้ว “ยะ...หยุดได้แล้วคุณเสือ นี่คุณจะเล่นมากไปแล้วนะ” “เล่นอะไรหนูเหมียว ฉันเอาจริงต่างหาก โอ๊ยยย! หนูเหมียว เบาหน่อยสิ ฉันทนไม่ไหวแล้ว โอ๊ยยยย! ซี๊ดดด!” เสียงร้องของอธิปดังออกไปนอกห้อง จนคนที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนเปลี่ยนซีดเมื่อเสียงร้องครวญครางของคนที่เธอหลงรักยังดังขึ้นเป็นระยะ “แกกล้าดียังไงมาแย่งคุณเสือของฉัน นังผู้หญิงไร้ยางอาย กล้าทำเรื่องน่าเกลียดกลางวันแสกๆ” บัวผันด่าสาวสวยที่เข้ามาประกาศตัวว่าเป็นภรรยาของเจ้านายสาวด้วยความแค้นเต็มอก แต่ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ ด้วยฐานะของเธอและผู้หญิงคนนั้นมันต่างกันเหลือเกิน เธอเป็นแค่สาวใช้ เป็นแค่หลานสาวของแม่บ้าน ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาของเจ้านายหนุ่มและยังเป็นสะใภ้ของตระกูลเลิศภาณิชย์ ทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งเธอขนาดนี้! “แต่ฉันไม่ยอมแพ้แกหรอกนังบัวชมพู ฉันต้องเขี่ยแกออกไปจากคฤหาสน์เลิศภาณิชย์ให้จงได้ ไม่เชื่อก็คอยดู” ******** บัวผันเดินลงมารายงานคุณขวัญฤดีด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เกลียดผู้หญิงที่กำลังพลอดรักอยู่กับเจ้านายหนุ่มเข้าไส้ ที่จริงแล้ว ที่ตรงนั้นควรเป็นเธอมากกว่า ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้! นางพลับพลึงแปลกใจเล็กน้อยกับสีหน้าไม่พอใจของหลานสาว ให้ขึ้นไปตามเจ้านายทั้งสองลงมาทานข้าว แล้วทำไมถึงกลับมาด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวเหมือนโกรธใครมา “เป็นอะไรของแกนังบัวผัน แล้วคุณเสือกับคุณเหมียวอยู่ไหน ทำไมถึงไม่ลงมาอีก” “คุณเสือกับคุณเหมียวของป้ายังไม่ว่างลงมาตอนนี้ อีกนานกว่าจะลงมา ผู้หญิงอะไรหน้าด้านที่สุด กลางวันแสกๆ ยังกล้าทำเรื่องแบบนั้นได้” บัวผันบอกเสียงสะบัด แค้นใจที่สุด ทั้งที่วันนี้วางแผนเสียดิบดี สุดท้ายก็ถูกชุบมือเปิบแย่งคุณเสือของเธอไปได้ “จะพูดอะไรหัดคิดเสียบ้าง...นังบัวผัน คุณเสือกับคุณเหมียวแต่งงานกันเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แกเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ อย่าสร้างปัญหา เพราะฉันไม่รับรองความปลอดภัยของแกได้” นางพลับพลึงตำหนิหลานสาว “ป้าพูดอะไร ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง ที่สำคัญฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย” บัวผันปฏิเสธเสียงแข็ง รีบหลบสายตาผู้เป็นป้า “ฉันเตือนแกด้วยความหวังดีนะนังบัวผัน คุณเหมียวไม่ได้อ่อนแออย่างที่แกคิด ถ้าแกยังกล้าทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นอีก ฉันรับรองได้เลยว่าแกต้องถูกคุณเหมียวตบ เผลอๆ แกอาจโดนไล่ออกจากที่นี่ก็ได้” นางพลับพลึงเตือนหลานสาวอย่างเป็นห่วง ใช่ว่านางไม่รู้ว่าบัวผันคิดอะไรอยู่ ทำอะไรไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ต้องโดนดีเข้าสักวัน “ออกไปได้แล้ว ที่เหลือเดี๋ยวฉันให้นังชบามาทำแทนแกเอง” “ที่แท้ก็หวังจะให้นังชบาเป็นเมียคุณเสือนี่เอง ป้าถึงพยายามขัดขวางฉัน แต่อย่าหวังว่าฉันจะยอมแพ้เพียงแค่นี้” บัวผันต่อว่าผู้เป็นป้าอย่างแค้นเคือง คิดหรือว่าแค่นี้เธอจะยอม วันพระไม่ได้มีวันเดียวเสียหน่อย วันนี้พลาด วันหน้าก็ยังมีโอกาส สักวันโอกาสนั่นต้องเป็นของเธอ “นังหลานไม่รักดี!” นางพลับพลึงเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย คิดผิดจริงๆ ที่รับนังหลานนอกคอกคนนี้เข้ามาช่วยงานที่นี่ ********
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม