ซิงเยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆร่างเล็กวิ่งมาที่หลบภัยของนางที่ไม่มีผู้ใดรู้ นางมานั่งร้องไห้ที่นี่คนเดียวหรือว่าข้านั้นควรหยุดแล้วจริงๆ นางทั้งวิ่งไล่ตามเขาสารพัดทำอาหารขนมมาให้เขาทาน ทำทุกๆอย่างที่คิดว่านางทำให้เขาได้
ถึงแม้ว่าเขาจะมีท่าทีรำคาญหรือรังเกียจนางก็ตาม แต่พอมาวันนี้นางรู้แล้วว่าที่นางทำไปทั้งหมดนั้นไม่มีหมายหมายใดๆต่อเขาเลย เป็นเพียงคนน่ารำคาญคนหนึ่งที่วิ่งไล่ตามเขา
เขาบอกไม่อยากเจอหน้านาง...หรือว่านางควรพอแล้วจริงๆ
''อึ้กๆ...ทำไม''
''ทำไมท่านพี่ถึงไม่ชอบข้าบ้าง''
''หรือเป็นเพราะว่าข้ามิคู่ควรกัน...ก็บ้านข้ามิได้มีเงินมีทองเป็นลูกคุณหนูเหมือนแม่นางไป๋สินะ''
ร่างเล็กนั่งร้องไห้จนตาบวมแล้วกลับบ้านไป
.
.
.
''ท่านพ่อ!''
ร่างเล็กวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นพ่อ ''เยียนเอ๋อร์เป็นอันใดไปใครรังแกเจ้า'' คนเป็นพ่อกอดปลอบลูกสาวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
''อึ้ก...ไม่มีใครรังแกข้าหรอกเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี้เลยท่านพาข้าไปที่ไหนก็ได้ไกลๆได้หรือไม่เจ้าคะ''
คนเป็นพ่อมองดูลูกสาวของตนพูดเสียงสั่นพร้อมร้องไห้ไปด้วยทำให้ในใจของเขาถึงกับแตกสลายที่เห็นลูกสาวของตนนั้นร้องไห้เจียนตายออกมา แม้นางมิอยากเอ่ยว่าร้องไห้ทำไมแต่เขาจะไม่เซ้าซี้ถามนาง
''ได้ๆเดี๋ยวพ่อจะพาเจ้าไปที่ไกลๆเรามีกันแค่สองคนพ่อลูก เหตุใดพ่อจะทำให้เจ้ามิได้ล่ะเยียนเอ๋อร์ของพ่อ'' พลางก้มไปลูบหัวของลูกสาวอย่างอ่อนโยน
''ขอบคุณท่านพ่อมากๆนะเจ้าคะ''
''ตอนนี้เจ้าไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีหรือไม่ พอวันพรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกัน''
''ได้เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าขอบคุณท่านมากๆที่มิได้ถามข้า..ว่าเกิดอะไรขึ้น''
''มิเป็นไรหรอก ถ้าเจ้าอยากบอกเมื่อไหร่พ่อคนนี้พร้อมที่จะรับฟัง''
ซิงเยียนได้ยินอย่างนั้นถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่นางโชคดีเหลือเกินที่นางยังมีท่านพ่อที่คอยเป็นห่วงเป็นใยนางมากกว่าที่นางเป็นห่วงตัวเองเสียด้วยซ้ำ