บทที่ 3
จุดจบแม่เสือสาว (1)
“อึก...” เสียงสะอึกของคนตัวเล็กทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันไปมองก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเจ้าของใบหน้าเล็กในตอนนี้กำลังเมาจนแทบไม่ได้สติแล้ว
ร่างของมะเหมี่ยวเอนตัวไปพิงกับโซฟาก่อนจะหลับตาด้วยเมื่อรู้สึกเวียนหัว หลังจากที่เธอท้าดวลกับวายุและเพื่อนของเขาผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ทำให้เธอมีสภาพไม่เป็นปกติเช่นนี้แล้ว
“อื้อออ ไอ้เหมี่ยวอะไรวะแค่นี้ก็เมาแล้วเหรอ” เพื่อนสาวของมะเหมี่ยวเอ่ยขึ้นขณะที่ตัวเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
“ดูตัวเองก่อนไอ้หมี!” เสียงเล็กตอบกลับไปทันควันเพราะเธอรู้สึกตัวเองดีว่าตอนนี้เมาอยู่ในระดับไหนเผลอๆเพื่อนของเธอนั้นอาจจะเมามากกว่าเธอหลายเท่าเสียอีก
“ดูอีบิวดิ สลบไปละ” คนตัวเล็กหันไปมองเพื่อนสนิทอีกคนที่นอนนี้ล้มตัวลงนอนบนโซฟาตั้งแต่เริ่มดื่มได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“อะไรของพวกมึงวะเนี่ย ไหนบอกจะมาล่าผู้แล้วทำไมถึงเมาแบบนี้” มะเหมี่ยวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเธอพยายามดึงสติให้เป็นเหมือนเดิมเพราะไม่อยากเมาเละเทะจนควบคุมตัวเองไม่อยู่
แต่ด้วยความที่เธอเองก็ดื่มไปเยอะแถมยังท้าดวลกับวายุออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยทำให้เธอมีสภาพเป็นแบบนี้
“อื้อออ อยากกลับแล้ว~” มือของบิวปัดป่ายและเอ่ยขึ้นด้วยความงัวเงียก่อนที่จะพยุงตัวขึ้นมา
“อีบิวมึงเมาแล้ว”
“เออกูเมา กูอยากกลับแล้วอะ”
“เออกูก็เมา อยากกลับแล้วเหมือนกัน” มะเหมี่ยวเอ่ยขึ้นพลางมองเพื่อนสนิทอย่างสะลืมสะลือ
“อะไรกัน ไหนอวดนักอวดหนาว่าเป็นตัวแม่” วายุเอ่ยขึ้นก่อนจะยักคิ้วกวนๆส่งให้คนตัวเล็กไป
“เออ! ยอม! ฉันยอมแพ้นาย”
“อึก...กูอยากกลับบ้าน พากูกลับอีหมี!!”
“เออ จะกลับก็ลุกสิโว้ยกูแบกมึงไม่ไหวนะ”
“มา เดี๋ยวกูช่วย” ร่างบางเดินเข้าไปช่วยพยุงเพื่อนสนิทที่ในตอนนี้กับเมามายจนแทบไม่ได้สติแล้วแถมยังไม่สามารถทรงตัวเองได้อีก
“โอ๊ย! อีบิวมึงทรงตัวหน่อยกูหนัก” เมื่อพยุงเพื่อนสนิทขึ้นมาแต่ทว่าทั้งสองคนก็เซจนเกือบล้มเนื่องจากบิวได้เทน้ำหนักมาทำให้ทรงตัวแทบไม่อยู่
“มาเดี๋ยวฉันช่วย” เสียงเข้มของเพื่อนสนิทวายุเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปพยุงบิวเอาไว้ทำให้มะเหมี่ยวขยับตัวออกมา
หญิงสาวยกมือขึ้นลูบใบหน้าเพื่อเรียกสติเมื่อตัวเองเริ่มทรงตัวยืนไม่อยู่ ทำเอาคนตัวโตที่มองเหตุการณ์อยู่ด้านหลังถึงกับยกยิ้มร้าย
วายุคิดไว้อยู่แล้วว่าแม่ตัวดีก็มีสภาพแบบนี้ ในตอนแรกก็ปากดี ปากเก่งจนเขาอดหมั่นไส้เสียไม่ได้
จนกระทั่ง...
หมับ!
ร่างบางที่สติกำลังเลือนหายอยู่ๆก็เซถลาจนเกือบล้มลงไปที่พื้นแต่กลับถูกวงแขนแกร่งของวายุคว้าหมับเอาไว้ได้
“นี่เหรอตัวแม่” วายุยกยิ้มร้ายอย่างกวนๆเมื่อเห็นท่าทีของมะเหมี่ยวที่ดูเหมือนจะไม่ไหวเอาซะเลย
“อะ ไอ้บ้า!” เสียงเล็กแว้งขึ้นก่อนจะขยับตัวออกด้วยถ้าทีโซเซและหันไปพิงกับกำแพงเพื่อยึดหลักตัวเองเอาไว้
“กลับยังไง เอารถมาเหรอ” วายุเอ่ยถามคนตัวเล็ก
“หึ แท็กซี่มั้ง” ใบหน้าหวานส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเคลื่อนตัวนั่งลงยอง ๆ กับพื้นเมื่อรู้สึกอยากอาเจียน
แต่อยู่ ๆ ภายในร่างกายของเธอก็รู้สึกร้อนรุ่มและแปลกไปอย่างบอกไม่ถูก...
“ไหวไหมเนี่ย จะอ้วกเหรอวะ”
“เออ อยากอ้วกอะ”
“ลุกดิเดี๋ยวพาไปอ้วก ถ้าอ้วกใส่ร้านโดนปรับนะเว้ย” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมขำออกมาก่อนจะพยุงคนตัวเล็กและเดินออกไปทางหลังร้าน
ทันทีที่ออกมาจากร้านมะเหมี่ยวก็รีบวิ่งไปที่ต้นไม้ก่อนจะนั่งลงและอาเจียนออกมาเมื่อรู้สึกเวียนหัวจนทรงตัวไม่อยู่
“แอวะ! อึก...”
“สภาพเธอนี่นะ” วายุส่ายหน้าออกมาอย่างเอือมระอา รู้ว่าตัวเองไม่ไหวแต่ก็ยังจะซ่าปากดีอีก
“ไปส่งหน่อยดิ อยากกลับไม่ไหวละ” เมื่อรู้ว่าสภาพของตัวเองไม่น่าไหวหญิงสาวเลยเอ่ยปากขอให้วายุไปส่ง อย่างน้อยเขาก็น่าจะไว้ใจได้กว่าอื่น ๆ ในตอนนี้
“ตามมา” วายุไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย เขาเดินนำเธอไปที่รถยนต์คันหรูของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก
เมื่อเดินมาถึงที่รถมะเหมี่ยวก็รีบเดินขึ้นรถฝั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็วเมื่อเอนกายกับเบาะนุ่ม ๆ ก็ทำให้เธอผ่อนลมหายใจออกมา
“มึนหัวชะมัด!”
“ใครบอกให้ซ่า ปากดีเอง” วายุเค้นเสียงขำก่อนจะขับรถออกไปในที่สุด
“วา...” เสียงเล็กเอ่ยใบลำคอพลางหันไปมองคนตัวโตด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
คนตัวโตไม่ได้ตอบอะไรเขาปรายตามองคนข้างๆเล็กน้อยแต่เธอก็ยังจ้องเขานิ่งราวกับมีอะไรบางอย่างอยู่ในใน
“วา”
“อะไร” เมื่อเห็นเธอเรียกแล้วไม่ยอมพูดคนตัวโตก็เอ่ยออกมา
“ฉัน...ฉันอยาก” หญิงสาวเอ่ยออกมาและมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างจริงจัง เธอรู้ว่าพูดอะไรออกไปและมันก็น่าอายมาก ๆ ที่เธอเอ่ยคำนั้นไปต่อหน้าเขาในตอนที่อยู่บนรถแบบนี้
“ให้ฉันอมให้ไหม”
“เหมี่ยว นี่มันบนรถนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขณะที่สายตายังคงจดจ้องกับทางตรงหน้าอยู่
มะเหมี่ยวเมื่อถูกขัดใจก็เอื้อมมือเข้าไปลูบที่เป้ากางเกงของวายุแผ่วเบาทำเอาคนตัวโตถึงกับคว้าหมับที่มือของเธอเอาไว้
“เหมี่ยว หยุด” วายุเอ่ยเสียงเข้มเมื่อมือเล็กเริ่มซุกซนจับนู่นจับนี่ตามร่างกายของเขาไม่หยุด
“อึก...ฉะ ฉันอยาก...”
“เมาแล้วเป็นแบบนี้?” วายุเลิกคิ้วถามเพราะดูออกว่าตอนนี้เธอคงอยากตามที่พูดไว้จริง ๆ สีหน้า น้ำเสียง และท่าทางของเธอมันบ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอมีความต้องการมากแค่ไหน
“ฉันอยาก” มะเหมี่ยวยังคงเอ่ยอ้อนวอนคนข้างกายด้วยแววตาฉ่ำปรือ
“ไหนโชว์หน่อยว่าว่าปากเธอน่ะเก่งแค่ไหน” วายุยกยิ้มร้ายและมือปล่อยเล็กให้เป็นอิสระ
มะเหมี่ยวจัดการรูดซิปกางเกงยีนส์ของวายุลงเผยให้เห็นแก่นกายใหญ่โตภายใต้อันเดอร์แวร์สีดำ ไม่รอช้ามือเล็กก็จับความใหญ่โตให้โผล่พ้นออกมา
“อย่าใจร้อน ถนอมลูกชายฉันหน่อย”