บทที่ 2
ท้าดวล
@ W University
“มนัสนันท์ มาสายอีกแล้วนะ” เสียงของอาจารย์วัยสามสิบปลายๆเอ่ยขึ้นกับหญิงสาวผู้เข้ามาใหม่หลังจากที่เริ่มสอนได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
“ขอโทษค่ะอาจารย์ รถติดมากเลยค่ะ” มะเหมี่ยวหรือเจ้าของชื่อมนัสนันท์เอ่ยด้วยรอยยิ้มร่าก่อนจะรีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้กับกลุ่มเพื่อนตัวเอง
เธอค่อนข้างสนิทกับอาจารย์เนื่องจากเธอเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่าย ชอบชวนอาจารย์คุยจนตอนนี้ก็สนิทกันไปเสียแล้ว แล้วอีกอย่างนามสกุลของเธอแค่อ่านใครหลาย ๆ คนก็จำได้ว่าเธอนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
“ทำไมมาช้าจังวะ” เพื่อนสนิทของมะเหมี่ยวเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อเธอนั่งลงข้างๆ
“ก็บอกแล้วไงว่ารถติด” มะเหมี่ยวตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบข้อความของหนุ่มๆในสต็อค
เพื่อนสนิทข้างกายปรายตามองด้วยความสนใจก่อนจะอาศัยจังหวะที่เธอเผลอแย่งโทรมาไว้ที่ตัวเอง
“ไอ้หมี! เอามานะเว้ย!” มือเล็กรีบฉุดแย้งโทรศัพท์ของตัวเองกลับคืนแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเพื่อนสนิทยกแขนขึ้นหนีพร้อมกับส่งไปให้เพื่อนอีกคนในกลุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆกัน
“ไอ้บิว มึงเอาไปดูมันคุยกับใครวะ”
“ไอ้บิว!” มะเหมี่ยวเริ่มมีน้ำโหเมื่อเพื่อสนิทเปิดดูข้อความของเธอ
“หืม? คนนี้ดีกดใจเลยค่ะ...คนนี้ไม่ผ่านปัดทิ้ง”
“ไอ้บิว! เอาคืนมานะเว้ย”
“นี่มึงยังเล่นแอพหาคู่อีกเหรอวะ แค่นี้ผู้ชายก็เต็มจังหวัดแล้วนะ”
“ไอ้หมี! ไอ้บ้า! ฉันมีผู้ชายที่ไหนล่ะ” มะเหมี่ยวเถียงขาดใจพร้อมกับแย่งโทรศัพท์ของตัวเองคืนมาได้สำเร็จ
“ทำเป็นพูด”
“กูโสดค่ะ ไม่มีผู้ชายที่ไหนทั้งนั้น คนที่ได้แล้วก็คือเสร็จแล้วแยก!” มะเหมี่ยวย้ำชัดถึงสถานะเพราะใครๆก็ต่างรู้ว่าเธอนั้นเป็นแม่เสือสาวเธอต้องการมีความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนเท่านั้น
มีบ้างที่เวลาเกิดถูกใจใครเธอก็มักจะควงเขาคนนั้นมากกว่าหนึ่งแต่ก็แน่นอนว่าไม่เกินสามครั้ง เพราะเมื่อเวลาผ่านผู้ชายมากหน้าหลายตาที่พบเจอก็จะทำให้เธอเปลี่ยนใจทุกครั้ง
“จ้า! แม่เสือสาว! สาวดาวยั่วแห่งคณะ” เพื่อนสนิทอย่างหมีและบิวต่างเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่สายตาจะแปรเปลี่ยนหันไปสนใจกับผู้ชายรูปร่างดีที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“โอ้มายก็อต! สามี สามีของฉัน” หญิงสาวกุมมือตรงหน้าพลางมองชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ด้วยความเพ้อฝัน
ใบหน้าหล่อเหล่าผิวขาวจัดและส่วนสูงที่โดดเด่นแถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงที่เหยื่อพร้อมจะคุกเข่ากราบกรานพลีกายให้ถึงที่ทำให้ใครหลายต่อหลายคนสนใจเป็นอย่างมาก
มะเหมี่ยวหันไปมองตามเพื่อนสนิทก็ถึงกับกลอกตาขึ้นไปมาก่อนจะหันมาสนใจกับโทรศัพท์ของตัวเองต่อดังเดิมเพราะผู้ชายคนที่เพื่อนสนิทของเธอที่เพ้อฝันหานั้นคือวายุ คนที่เธอไปมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อสองคืนก่อน
แต่ในเมื่อตกลงความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจนแล้วว่ามันเป็นเพียงแค่เซ็กส์และเธอก็ไม่อยากรื้อฟื้นใครคนอื่นรับรู้เธอก็เลยไม่อยากสนใจ
“พ่อเทพบุตร! หล่อโฮก!”
“อีเหมี่ยว มึงเคยได้ยัง” หมีเพื่อนสนิทสะกิดยิกๆพลางส่งสายตาไปทางวายุที่เดินผ่านเธอไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหลังกับกลุ่มเพื่อน
“อะไรของมึงวะ กูหนวกหู” มะเหมี่ยวถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เธอตัดสินใจหยิบหูฟังขึ้นมาใส่เพราะไม่อยากได้ยินเสียงรบกวน
เดิมทีแล้วเพื่อนสนิทของเธอมักจะถามอยู่ตลอดว่าผู้ชายคนนี้เธอเคยมีสัมพันธ์ด้วยหรือยังเพราะไม่อยากกินร่วมกันเพื่อน แต่หากเป็นวายุเธอไม่อยากจะพูดถึงเพราะอยู่คณะเดียวกันแถมเป็นเสือเหมือนกันอีก
หากใครรู้ก็คงจะหาว่าเธออดอยากถึงกับต้องกินของใกล้ตัวแน่ๆ
เมื่ออาจารย์กล่าวปิดคลาสของวันนี้มะเหมี่ยวและเพื่อนทั้งสองคนก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องเรียนไป แต่ไม่ทันสังเกตว่าเธอลืมหยิบกุญแจรถออกมาด้วย
“เฮ้ เหมี่ยว” เสียงเข้มเรียกขึ้นทำให้คนตัวเล็กหันไปมองด้วยความแปลกใจ
“?” ร่างบางเลิกคิ้วสงสัยในขณะที่คนที่เรียกกำลังเดินเข้ามาหาเธอ
เขาคนนั้นถือกุญแจรถยนต์คันหนูของเธอเอาไว้โดยมีเพื่อนสนิทอย่างวายุเดินตามมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
“เธอลืมกุญแจรถ”
“อ้าว! ขอบคุณมาก” มะเหมี่ยวรับมันกลับมาและกล่าวขอบคุณด่อนที่เธอจะชะงักไปกับสายตาคมของวายุที่จ้องมองเธอซึ่งมันยากจะคาดเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“วายุ วันนี้นายไปร้านเดิมรึเปล่า” หมีเพื่อนสนิทเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราวทำเอามะเหมี่ยวถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
“อื้ม ร้านเดิมนั่นแหละ” คนตัวโตตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง
“วันนี้มึงจะออกเหรอ” เสียงเล็กถามเพื่อนสนิทเบาๆ เธอไม่เห็นรู้ว่าวันนี้จะออกปาร์ตี้ด้วยเลย
“กูชวนเองแหละ ออกกันเถอะมึง กูติดใจร้านนั้นว่ะผู้ชายเด็ด” บิวเอ่ยแทรกอีกเสียง
“กูบายนะ ขี้เกียจ” ร่างบางตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหมุนตัวและเดินออกจากห้องไปในที่สุดทำให้เพื่อนสนิททั้งสองคนรีบวิ่งตามออกไป
“เห้ยได้ไงวะไอ้เหมี่ยว ไปด้วยกันดิ”
“ไม่ไปขี้เกียจ”
หมับ!
เพื่อนสาวอย่างบิวรีบแบ่งหนังสือเรียนในมือของมะเหมี่ยวอย่างถือวิสาสะก่อนจะวิ่งไปหลบด้านหลังต้นไม้หน้าตึกคณะซึ่งในตอนนั้นเป็นจังหวะที่วายุกับเดินมาพอดี
“ไอ้บิว! เอาคืนมา!”
“ไม่คืนโว้ย! วาๆถือให้หน่อยดิ ยกมือขึ้นสูงๆเลยนะ” บิวส่งหนังสือเรียนของมะเหมี่ยวให้กับวายุถือเอาไว้พร้อมกับจัดท่าทางให้คนตัวโตยกมือขึ้นสูงเพื่อไม่ให้มะเหมี่ยวเอื้อมได้ถึงเพราะขนาดส่วนสูงของวายุและมะเหมี่ยวนั้นแตกต่างกันมาก
“ไอ้เพื่อนบ้า!” คนตัวเล็กมองตาแข็งใส่เพื่อนสนิทก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาร่างสูงและเขย่งเท้าขึ้นเพื่อแย่งหนังสือกลับมา
“ถ้าอยากให้คืนดีๆก็ไปด้วยกันดิ”
“แกติดใจอะไรนักว่า ก็แค่ร้านธรรมดา แล้วอีกอย่างไม่มีฉันคนนึงมันจะตายรึไง”
“เออ! ตาย! พอแกไปหนุ่มไปก็สนใจโต๊ะเราทั้งนั้น กูอยากได้ผู้บ้างอะไปช่วยกูล่าผู้หน่อยเถอะอีเหมี่ยว”
“โอ๊ย! เอาคืนมา” คนตัวเล็กตะคอกใส่คนตัวโตที่ตอนนี้เอาแต่ยกหนังสือเธอหนีไม่ใช่เธอแย่งกลับไปได้ รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหล่ายิ่งเขาขยับตัวหนีคนตัวเล็กก็ยิ่งบดเบียดร่างนุ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น
กลิ่นกายหอมหวานจากตัวเธอทำให้คนตัวโตพึงพอใจอย่างมาก ใบหน้าหวานๆเนียนละเอียดบวกกับริมฝีปากแดงระเรื่อที่ถูกแต่งแต้มมาบางๆก็กลับทำให้เขาหลงจนเผลอมองคนตัวเล็กอยู่นานสองนาน
“วายุ! นี่นายจะไม่คืนใช่ไหม!!” คนตัวเล็กหยุดการกระทำก่อนจะเท้าเอวมองคนตัวโตกับเพื่อนสนิทสลับกันอย่างหัวเสีย เธอจะไม่เดือดร้อนเลยถ้าหากหนังสือในมือพวกนั้นเป็นงานที่อาจารย์สั่งไว้แล้วมีกำหนดส่งปลายสัปดาห์นี้ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่เสียเวลาออกแรงให้เหนื่อยเช่นนี้แน่นอน
“คืนนี้กูต้องเจอมึง ถ้าอยากได้คืนก็ต้องมาเอาเองนะเพื่อนรัก”
“นี่สรุปกูต้องไปจริงๆใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ!”
“ฮึ่ย! เออ! ไปก็ไป เจอกันคืนนี้”
@APOLLO CLUB
ร่างบางในชุดเดรสสีดำเดินเข้ามาภายในคลับที่ตอนนี้มีผู้คนมากมายกำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงที่ได้ดังไปทั่วทั้งร้าน สายตาของใครหลายๆคนต่างจดจ้องไปที่ร่างยั่วยวนของคนตัวเล็กรางกับถูกมนต์สะกดเอาไว้ ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางพร้อมด้วยลิปสติกสีแดงสดที่เคลือบลงบนริมฝีปากบางของเธอ
มะเหมี่ยวเดินแหวกผู้คนก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะของเพื่อนสนิทที่ได้นัดหมายเอาไว้ ที่แหง่นี้ไม่ใช่ที่ประจำในการล่าเหยื่อของเธอเลยทำให้ไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่แต่มันก็ไม่ได้แย่เลยซึ่งเธอก็รู้สึกว่ามันก็น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน
รอยยิ้มหวานของมะเหมี่ยวกรีดกรายให้กับชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างก่อนจะค่อยเดินผ่านไปทำเอาคนที่ถูกมองถึงกับตาค้างหันหาคนตัวเล็กซึ่งแน่นอนว่าเหยื่อกำลังติดกับดักที่เธอวางไว้ในไม่กี่นาที
“น้อยๆหน่อยจ้าแม่เสือสาว เพิ่งมาถึงก็จะเอาเลยเหรอ” ทันทีที่คนตัวเล็กเดินมาถึงเสียงเอ่ยแซวของเพื่อนสนิทก็โพล่งขึ้นพร้อมกับมองผู้ชายคนที่เธอเพิ่งวางกับดักเอาไว้เมื่อครู่อย่างเหนื่อยใจ
มะเหมี่ยวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสายตาของเธอประสานเข้ากับสายตาคมของวายุ คนตัวโตจ้องมองเธอก่อนจะยกยิ้มออกมาราวกับคิดอะไรไว้บางอย่าง
“วาเขาชวนเรามานั่งด้วยอะมึง โคตรดีเลย”
ดีกับผีน่ะสิ มะเหมี่ยวคิดในใจ เธอนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับเขาก่อนจะวางกระเป๋าลงข้างกาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกส่งมาตรงหน้าหญิงสาวเพื่อเป็นการเริ่มต้นความสนุกในค่ำคืนนี้
มือเล็กรับมันมาก่อนจะกระดกขึ้นดื่มจนหมดภายในครั้งเดียวและวางมันลงทำเอาคนในโต๊ะต่างเอ่ยปากชอบกันยกใหญ่แต่ผิดกับวายุที่เอาแต่มองคนตัวเล็กนิ่ง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็จะถูกสายตาคมของเขาจดจ้องอยู่ตลอด
“เหมี่ยวนี่ดื่มเก่งเหมือนกันนะเนี่ย” เพื่อนสนิทของวายุเอ่ยปากและมองเธอด้วยความชอบพออยู่ไม่น้อย
“ไอ้เหมี่ยวมันเซียนแล้วน็อต ตัวแม่ของจริง”
“เธอเหมือนไอ้วาเลย ไอ้วาก็ตัวพ่อเหมือนกันนะ” มะเหมี่ยวหัยไปมองวายุที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะยกยิ้มออกมา
“จะแค่ไหนกันเชียว”
“เห้ยไอ้เหมี่ยว อย่าปากดี เขาน่ะตัวพ่อของจริงนะมึง” เพื่อนสนิทของเธอเอ่ยห้ามเมื่อมะเหมี่ยวเอ่ยปากท้าทายพร้อมกับยกแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นชนกับแก้วของวายุ
“แล้วมึงลืมไปแล้วรึไงว่ากูก็ตัวแม่เหมือนกัน” มะเหมี่ยวมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างท้าทายเพราะในเมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายของเธอแล้วตัวตนของแม่เสือสาวอย่างเธอก็พร้อมที่จะเผยออกมาเช่นกัน
“งั้นก็มาดวลกันสักตั้ง” เสียงเข้มเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเลิกคิ้วส่งให้กับคนตัวเล็กอย่างไม่ลดละ
ในเมื่อหญิงสาวเอ่ยปากมาขนาดนี้เสือร้ายอย่างวายุมีหรือที่จะไม่ตอบรับคำของเธอเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนปากเก่งอยากเธอจะเก่งได้ขนาดไหนกันเชียว
ชักอยากจะเห็นแม่เสือสาวคนนี้กลายเป็นแมวน้อยใต้อำนาจของเขาแล้วสิ..