นิ้ง-ซี / บทที่ 7 (1)

2952 คำ
นลินทราขอตัวจากเพื่อนร่วมโต๊ะเพื่อมาเข้าห้องน้ำในบ้าน ห้องน้ำชั้นล่างกำลังมีคนเข้าอยู่เธอจึงยืนรออยู่แถวนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงหมุนลูกบิดจึงหันไปมอง เธอเห็นว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันจึงส่งยิ้มให้อย่างต้องการผูกมิตรด้วย เพราะบรรดาญาติของนพฤทธิ์แต่ละคนล้วนนิสัยเฮฮาน่าคบหาด้วยกันทั้งนั้น ทว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมองเธอด้วยหางตาพร้อมกับเบ้ปากใส่แล้วเดินจากไป ทิ้งให้เธอต้องยืนอึ้งอยู่กับที่ด้วยความไม่เข้าใจว่าไปทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไรกัน นลินทราส่ายหน้าเล็กน้อยเพราะคร้านจะใส่ใจ ความที่เธอเป็นดาราย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีทั้งคนชอบและคนเกลียด จึงเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ เมื่อเสร็จแล้วก็เปิดประตูออกมา เห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนรออยู่ และเจ้าตัวก็เป็นฝ่ายยิ้มให้เธอก่อน เธอจึงยิ้มตอบ "คุณนิ้งคงไม่รู้จักมิณ แต่มิณรู้จักคุณนิ้งนะคะ คุณนิ้งเคยไปถ่ายแบบที่ราวัณยา กระบี่ รีสอร์ตใช่ไหม" มิณรญายังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา "เคยค่ะ ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง" "ไม่แน่ใจว่าคุณนิ้งจำหวานตา ผู้ช่วยผู้จัดการที่มาคอยดูแลทีมงานตอนนั้นได้รึเปล่า นั่นน่ะเพื่อนมิณเองค่ะ" "จำได้ค่ะคุณหวานตา ตอนนั้นเขาเอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาแจกให้ทุกคนกินด้วย" นลินทรายิ้มกว้าง แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อจู่ ๆ หญิงสาวตรงหน้าก็หันมองซ้ายขวาอย่างระแวดระวังแล้วพูดกับเธอเสียงค่อย "คืออย่างนี้ค่ะ อย่าหามิณยุ่งวุ่นวายเรื่องของคุณนิ้งเลยนะคะ แต่มิณเห็นแล้วทนไม่ได้จริง ๆ คุณนิ้งรู้ไหมคะว่าวันนี้แม่ของพี่ซีเขาจะประกาศเรื่องหมั้นระหว่างพี่ซีกับลูกสาวเพื่อนเขา ก็คือยายคนที่เบะปากใส่คุณนิ้งตอนออกจากห้องน้ำนั่นแหละ มิณว่าคุณนิ้งหาทางรับมือไว้หน่อยดีกว่า เพราะดูแล้วคุณป้าเขาตั้งใจจะฉีกหน้าคุณนิ้งกลางงานเลย" นลินทรารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ เธอพอรู้อยู่ว่ามารดาของนพฤทธิ์มีท่าทีไม่ค่อยชอบตนนัก แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ "นี่...เรื่องจริงหรือคะ" ในใจของเธอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องโกหก "เรื่องจริงค่ะ มิณนั่งอยู่โต๊ะเดียวกับแม่พี่ซี เขาคุยอะไรกันบ้างมิณได้ยินหมดนั่นแหละ ที่สำคัญคือแม้แต่พี่ซีก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยค่ะ" มิณรญาถอนหายใจแผ่ว ก่อนพูดต่อ "มิณขอพูดอย่างไม่ปิดบังก็แล้วกันนะคะ มิณเองก็เคยเป็นหนึ่งในคนที่แม่พี่ซีอยากได้มาเป็นสะใภ้ค่ะ แต่บังเอิญว่ามิณไม่ได้ชอบพี่ซีแบบนั้น เราคุยกันอย่างเพื่อนมากกว่า มิณก็เลยไม่เล่นด้วย อีกอย่างนะ ถ้าต้องมีแม่ผัวอย่างคุณป้า มิณขออยู่เป็นโสดยาว ๆ ดีกว่าค่ะ" นลินทรามีสีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด อดคิดไม่ได้ว่าพวกไฮโซบางคนทำไมถึงชอบทำเรื่องหักหน้าคนอื่นนัก ทั้งที่รู้อยู่ว่าเธอเองก็เป็นดาราที่มีคนรู้จักอยู่ไม่น้อย หากวันนี้มารดาของนพฤทธิ์จงใจประกาศงานหมั้นของบุตรชายขึ้นจริงโดยไม่บอกเธอกับนพฤทธิ์ล่วงหน้า ก็ไม่ต่างอะไรกับการลากเธอไปตบกลางตลาดแม้แต่น้อย เพราะตั้งแต่เธอมาถึงที่งาน นพฤทธิ์ก็เที่ยวบอกกับทุกคนว่าเธอคือคนรักของเขา แล้วจู่ ๆ มารดาก็จะประกาศงานหมั้น คนที่มาร่วมงานจะต้องพูดเรื่องนี้กันไปปากต่อปากเป็นแน่ และเธอก็จะเป็นตัวตลกของทุกคน ระหว่างนั้นมิณรญาหันไปเห็นฉัตรฉายกำลังเดินขึ้นไปบนเวทีที่ยกสูงจากพื้นขึ้นมาแค่หนึ่งฟุต จึงพูดกับนลินทราว่า "คุณป้าเดินขึ้นเวทีไปแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องหมั้นเลยรึเปล่า" นลินทราหัวใจเต้นกระหน่ำจนมือสั่นตามไปด้วยเล็กน้อย หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อเก็บอารมณ์ของตัวเองทั้งที่ความจริงตอนนี้ขาของเธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินไปทางไหนแล้ว "มิณว่าเราไปยืนแอบฟังกันตรงนั้นดีกว่าค่ะ ไม่มีคนเห็นแน่นอน" มิณรญาถือวิสาสะจูงมือนลินทราเดินออกจากตัวบ้านแล้วไปยืนแอบอยู่หลังพุ่มไม้สูงเท่าศีรษะที่ตัดและตกแต่งจนเหมือนเป็นกำแพงสีเขียวทอดยาวไปเกือบถึงรั้วบ้าน จากนั้นก็ตั้งใจรอฟังเจ้าของงานวันเกิดว่าจะพูดอะไรบ้างบนเวที "ต้องขอบคุณทุก ๆ คนมากเลยนะคะที่อุตส่าห์มางานวันเกิดของอิฉัน ปลื้มใจมากค่ะที่ได้เห็นญาติพี่น้องและกัลยาณมิตรทั้งหลายอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา" ฟังถึงตรงนี้ นลินทราก็ยกมือขึ้นมาวางทาบที่อกของตัวเอง ในใจภาวนาให้เรื่องที่ผู้หญิงคนนี้พูดเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น แต่แล้วประโยคถัดมาของคนบนเวที ก็ทำให้หญิงสาวต้องกลั้นใจรอฟัง "และในเมื่อวันนี้เป็นวันดี ๆ อิฉันก็อยากจะประกาศเรื่องดีอีกเรื่องให้ทุกท่านได้ทราบด้วย ตาซีขึ้นมาบนนี้กับแม่หน่อยสิลูก" เมื่อถึงตรงนี้นลินทราลอบมองแผ่นหลังของนพฤทธิ์ที่กำลังเดินขึ้นไปยืนคู่กับมารดาผ่านทางพุ่มไม้ เขากอดแม่ของเขาแล้วยิ้มอย่างชื่นมื่น จากนั้นผู้เป็นมารดาก็ประกาศว่า "อิฉันขอประกาศว่าตาซี ลูกชายเพียงคนเดียวของอิฉันกำลังจะหมั้นหมายกับหนูแพม ลูกสาวคนเล็กของคุณวารุณีในเดือนหน้านี้แล้วค่ะ หนูแพมขึ้นมาบนนี้กับป้าหน่อยสิลูก" เพียงแค่นั้น นลินทราก็รู้สึกเหมือนหูอื้อตาลาย ใครพูดหรือซักถามอะไรเจ้าของงานอีกบ้างเธอแทบไม่รับรู้แล้ว รู้แต่ว่าในอกมันเจ็บจนอึดอัดราวกับจะระเบิดออกมา กระบอกตาปวดหนึบและร้อนผ่าว อยากพูดอะไรออกมาสักประโยคแต่เธอก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้เธอเหมือนคนที่หายใจไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ เอาอากาศเข้าปอดอย่างทรมานทั้งที่ความจริงแล้วเธอก็ยังคงหายใจได้เป็นปกติ...แต่ที่ไม่ปกติคือที่หัวใจ นี่กระมังที่เขาพูดกันว่าเจ็บแทบขาดใจ "คุณนิ้งคะ จะออกไปจากที่นี่ไหมคะ มิณจะพาออกไปเอง" มิณรญาพูดเสียงแผ่ว นลินทราได้แต่พยักหน้ารับ เพราะถ้าจะให้เข้าไปนั่งที่เดิมตอนนี้เธอคงทำไม่ได้ นั่งให้คนอื่นเขามองเป็นตัวตลกอย่างนั้นหรือ...ไม่มีทาง! นลินทราเดินตามการจับจูงของมิณรญาจนกระทั่งถึงหน้าประตูรั้ว สองสาวจึงเปิดออกไปแล้วยืนอยู่ด้านนอกของบริเวณบ้าน "คุณนิ้งคะ มิณคงส่งคุณได้แค่นี้เพราะรถมิณจอดอยู่ในบ้าน ถ้าจะเอารถออกทุกคนคงหันมามองกันหมด คุณนิ้งไม่ลืมอะไรที่โต๊ะใช่ไหมคะ ถ้ามีมิณจะรีบไปเอามาให้ค่ะ" นลินทรารีบส่ายหน้า "ไม่มีค่ะ ขอบคุณคุณมิณมาก ๆ เลยนะคะ ขอบคุณที่..." หญิงสาวพูดเสียงสั่น แต่พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะขืนพูดต่อ น้ำตาจะต้องไหลออกมาแน่ แค่นี้ก็ปวดหนึบไปทั้งกระบอกตาและทั้งหัวใจแล้ว "ให้มิณเดินไปเรียกแท็กซี่เป็นเพื่อนดีไหมคะ" "ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็รบกวนคุณมิณมากแล้ว นิ้งเดินออกไปเองดีกว่า ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" เธอค้อมศีรษะให้อีกฝ่าย จากนั้นก็ก้าวเร็ว ๆ จนเกือบวิ่งเพื่อให้พ้นเขตหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้ นลินทราใช้มืออันสั่นเทาหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมแม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนแล้วก็ตาม ขณะที่เดินก็โทรศัพท์ไปหาบุ๋ม ผู้จัดการส่วนตัวด้วย "พี่บุ๋ม! ช่วยมารับนิ้งหน่อยได้ไหมคะ" นพฤทธิ์ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าพลางมองมารดาของตนด้วยสายตาเป็นคำถาม "คุณแม่พูดอะไรครับเนี่ย ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง หมั้นเมิ่นอะไร ผมไม่เคยบอกสักคำเลยนะครับว่าจะหมั้น" "แหม...แม่ก็อยากเซอร์ไพรส์เราไงละ ถือเสียว่าหาสะใภ้ให้แม่เป็นของขวัญวันเกิดก็แล้วกันนะ หนูแพมน่ะน่ารักเรียบร้อย เราเองก็รู้จักน้องมานานแล้วนี่นา แม่ว่าหนูแพมน่ะเหมาะกับลูกจะตายไป จริงไหมคะทุกท่าน" ฉัตรฉายบีบแขนบุตรชายแน่นพลางส่งสายตาไม่ให้นพฤทธิ์ฉีกหน้าตนต่อหน้าแขกเหรื่อ ทว่าชายหนุ่มกลับดึงแขนของตนออกแล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "แล้วนี่นิ้งไปไหน" เขาถามพลางมองไปรอบงาน เมื่อไม่เห็นร่างของแฟนสาวจึงตะโกนเรียกหาเสียงดังลั่น "นิ้ง! นิ้งอยู่ไหนน่ะ" "ตาซี! แกจะทำแบบนี้กับแม่ต่อหน้าแขกไม่ได้นะ" ฉัตรฉายกระซิบเสียงเครียด "ทำไมครับ ผมทำแบบนี้ต่อหน้าแขกไม่ได้ แต่คุณแม่จะทำยังไงกับผมก็ได้อย่างนั้นหรือ...นิ้งไปไหน" เขาถามมารดาอีกครั้ง เมื่อไม่ได้คำตอบชายหนุ่มจึงตวาดลั่นด้วยความลืมตัว "ผมถามว่าแฟนผมไปไหน!" ทั้งงานเงียบสนิท ต่างคนต่างหันมองหน้ากันไปมาเพราะงานนี้คนที่ถูกเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าก็คือบรรดาแขกผู้มาร่วมงาน คนแม่ประกาศงานหมั้น แต่คนลูกกลับอาละวาดที่ถูกมารดาบังคับคลุมถุงชน ฉัตรฉายยกมือขึ้นทาบอกเพราะไม่คิดว่าบุตรชายจะขึ้นเสียงใส่ ขณะที่แพมหน้าเสียไปทันทีจนต้องรีบลงไปจากเวทีด้วยความอับอาย "แก...นี่แก..." ผู้เป็นมารดาชี้หน้าบุตรชายด้วยความโกรธจัด จนนพวรรณ บุตรสาวคนโตต้องรีบขึ้นมาประคองไว้ พลางส่ายหน้าให้น้องชายออกไปจากที่นี่ก่อน แต่นพฤทธิ์เองก็โกรธจัดเช่นกัน จึงไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น "ผมบอกคุณแม่หลายครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของผม ผมจะคบใครจะแต่งกับใครผมจะเลือกของผมเอง แต่คุณแม่ก็ไม่เคยหยุด มาคราวนี้คุณแม่จงใจฉีกหน้าผมกับนิ้งทั้งที่รู้เต็มอก และทุกคนในที่นี้ก็รู้ว่านิ้งคือแฟนผม แต่คุณแม่ก็ยังประกาศหมั้นบ้าบออะไรนั่นอีก ทำแบบนี้มันเกินไปแล้วนะครับ ผม-รับ-ไม่-ได้" ชายหนุ่มเน้นสี่คำหลังก่อนผลุนผลันลงจากเวทีแล้วเดินไปที่รถของตัวเองทันที เขารีบนำรถออกจากบริเวณบ้านซึ่งมีรถของแขกจอดอยู่ด้วยอีกหลายคัน จนเป็นที่หวาดเสียวว่าจะชนรถคันอื่น คนที่มองอยู่ต่างพากันร้องอุทานออกมาด้วยความใจหายใจคว่ำ บางคนถึงขั้นวิ่งไปดูรถของตัวเองว่าถูกเฉี่ยวชนบ้างหรือไม่ มีเพียงมิณรญาที่เลิกคิ้วขึ้นมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความคาดไม่ถึงอยู่บ้างที่นพฤทธิ์จะอาละวาดจนงานล่ม แต่ก็แอบสะใจไม่น้อยที่ทำให้แม่สาวหัวสูงอย่างแพมหน้าแหกเสียจนไม่มีดี หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไปบอกนลินทรา แล้วพาออกจากงานได้ทันเวลา มิเช่นนั้นดาราชื่อดังเจ้าของฉายานางร้ายเบอร์หนึ่งคงได้เป็นข่าวดังไปทั่วโลกโซเชียลแน่นอน นพฤทธิ์ขับรถไปก็พยายามกดโทรศัพท์ไปหานลินทราไปด้วยใจอันร้อนรุ่มราวกับมีไฟแผดเผา โทร. ไปครั้งแรกเธอไม่ยอมรับสายเขา แต่พอโทร. ไปครั้งที่สองเธอก็ปิดเครื่องหนีไปแล้ว ชายหนุ่มบีบพวงมาลัยแน่นด้วยความอัดอั้นและคับแค้นใจ เป็นความผิดของเขาเองที่พาเธอไปที่บ้าน ผิดที่เขาชะล่าใจมารดาของตัวเองมากเกินไป เห็นท่านเงียบ ๆ ไม่มาวุ่นวายกับเรื่องของเขา ทั้งยังซักถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนลินทราว่าไปด้วยกันได้ดีหรือไม่ เขาก็นึกว่าท่านจะตัดใจเรื่องจับคู่ และยอมรับเรื่องของเขากับแฟนสาวแล้วเสียอีก ไม่นึกเลยว่าท่านจะกล้าทำแบบนี้กับเขาได้ลงคอ สองชั่วโมงผ่านไป นพฤทธิ์จอดรถใกล้กับบ้านของนลินทราเพื่อเฝ้าดูความเคลื่อนไหว หลังจากที่เขาขับมาถามหาหญิงสาวกับบิดามารดาของเธอแล้วรอบหนึ่งเมื่อตอนช่วงหัวค่ำแต่เธอไม่อยู่ เขาขับไปทุกที่ที่คาดว่าเธอจะไป ไม่ว่าจะเป็นร้านจิวเวลรี่ของพลอยพัดชา บ้านใหญ่ของจินตวาตี ผู้จัดการส่วนตัวแม้ว่าตอนนี้เจ้าของบ้านจะยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพราะถูกพระเอกดังทำร้ายร่างกายจนโคม่า เขาโทรศัพท์ไปถามที่อยู่คอนโดมิเนียมของพลอยพัดชากับธาม เพื่อนสนิท แต่ทั้งคู่ก็กำลังอยู่ด้วยกัน และพลอยพัดชาก็ยืนยันว่านลินทราไม่ได้ไปหาตน และไม่ได้โทรศัพท์ไปเล่าอะไรให้ฟังเลย เขาโทร. หานลินทราไม่ติดก็เพียรส่งข้อความไปทางไลน์ และเฟซบุ๊ก รวมถึงทางโซเชียลทุกช่องทางที่หญิงสาวเปิดใช้อยู่ แต่ก็ไร้การตอบกลับจากเธอ เขาไม่รู้จะไปตามเธอจากที่ไหนแล้ว คงมีเพียงวิธีเดียวนั่นคือย้อนกลับมาเฝ้าหน้าบ้านของเธอเสียเลย ทันใดนั้น นพฤทธิ์ก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนผู้นั้นทันที "ฮัลโหล กุ๊กมีเบอร์ของผู้จัดการคุณนิ้งไหม ที่ชื่อบุ๋มน่ะ ผมขอเบอร์หน่อยสิ โอเค ขอบคุณมาก" ชายหนุ่มวางสายแล้วรีบกดเบอร์ที่ได้รับมาอย่างมีความหวัง "ไม่ได้ติดต่อมาเลยนะคะคุณซี" บุ๋มพูดไปก็มองคนที่นั่งกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่บนโซฟาไปด้วย "ก็อย่างที่คุณซีรู้นั่นแหละค่ะว่าช่วงนี้กองละครกำลังหาพระเอกคนใหม่มาแทนก้าว น้องนิ้งก็เลยว่าง พอว่างนิ้งเขาก็จะไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ของเขาไปเรื่อย บุ๋มก็จะไม่โทร. ไปกวนน้องเขาจนกว่าจะมีข่าวอัปเดตเรื่องงานนั่นแหละค่ะ" บุ๋มชี้ไปที่โทรศัพท์ที่แนบหูตนอยู่พลางทำหน้าเศร้าสร้อยให้นลินทราเห็น เป็นเชิงบอกว่าเสียงของนพฤทธิ์ฟังเศร้ามาก "ได้ค่ะคุณซี ถ้าน้องเขาติดต่อมา บุ๋มจะบอกน้องเขาให้ติดต่อไปนะคะ" บุ๋มกดวางสายแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ "เฮ้อ นิ้งเอ๊ย พี่เกือบหลุดหลายรอบแล้วเนี่ย" "เกือบหลุดตรงไหนกัน ออกจะไหลลื่น" นลินทราพูดเนิบ ๆ หากแต่เสียงฟังดูขึ้นจมูกเล็กน้อยซึ่งเกิดจากการร้องไห้มาอย่างหนัก "แล้วนี่จะเอายังไงต่อไป นิ้งจะเลิกกับเขาจริง ๆ หรือ" นลินทราพยักหน้า "ดึงดันคบต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกพี่ แม่เขาไม่ชอบนิ้ง" "แม่ก็ส่วนแม่ ลูกก็ส่วนลูกนะพี่ว่า ถ้าเขาไม่ยอมหมั้นซะอย่าง แม่เขาจะมาบังคับอะไรได้" "มันก็จริงนะพี่ แต่การคบกันหรือใช้ชีวิตร่วมกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนไง ตอนนี้นิ้งเพิ่งคบกับเขาไม่นานเท่าไรก็มีปัญหาแล้ว ขืนคบกันต่อไปคงมีแต่เรื่องไม่เว้นวัน สู้เลิกกันไปตอนนี้เลยดีกว่า ตอนที่ยังไม่ผูกพันกันเท่าไร" ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกาย เธอไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้ทำกับคนรัก ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน และเธอก็ขอเก็บเรื่องราวเหล่านั้นเป็นความทรงจำดี ๆ เอาไว้ในใจก็พอ "ใจเด็ดจริงแม่คุณ" บุ๋มถอนหายใจด้วยความเสียดาย นลินทราเป็นคนนิสัยดี นพฤทธิ์เองก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ช่างเอาใจใส่และดูแลคนรักได้ดีมาก ถ้าไม่ติดเรื่องมารดาของเขา คู่นี้จะถือว่าเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาคู่หนึ่งเลยทีเดียว "แล้วถ้าเขาไม่ยอมเลิกกับนิ้งท่าเดียวล่ะ นิ้งจะทำยังไง" นลินทราหลุบตามองพื้น ก่อนพูดเสียงแผ่ว "นิ้งจะทำอะไรได้ล่ะพี่ นอกจากต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าเขากับนิ้งมันคงเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้นิ้งยังไม่พร้อมเจอหน้าเขา"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม