หลายวันต่อมาหลังจากวันที่นพฤทธิ์ชวนนลินทรามาดินเนอร์ที่คอนโดมิเนียม วันนี้หญิงสาวต้องไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด นพฤทธิ์จึงถือโอกาสกลับไปค้างที่บ้านบ้าง เพราะเดือนหน้าก็ถึงวันเกิดของมารดาแล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะบอกให้บิดามารดารู้เกี่ยวกับเรื่องระหว่างตนกับดาราสาว ทั้งที่ในใจของเขานั้นคิดว่าพวกท่านน่าจะรู้อยู่ก่อนแล้ว แต่อยากได้ยินจากปากเขามากกว่า
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้าน เห็นมารดานั่งดูโทรทัศน์อยู่เพียงลำพังจึงเดินยิ้มร่าเข้าไปนั่งบนโซฟาใกล้ ๆ ท่าน
"สวัสดีครับคุณแม่" เขายิ้มให้ท่านอย่างประจบ แต่ท่านกลับมองค้อนให้เขา
"อย่ามองผมอย่างนั้นสิครับ ผมก็กลับมานอนบ้านแล้วนี่ไง"
"ก็ยังดีที่ยังนึกได้ว่ามีบ้านอยู่ นี่ตาซี แม่ถามอะไรหน่อยสิ ได้ข่าวว่าเราน่ะไปคบกับแม่ดาราที่ชอบแสดงเป็นตัวร้ายคนนั้นหรือ ที่ชื่อนิ้งอะไรนั่นน่ะ"
นพฤทธิ์ยิ้มกว้าง "แหม ข่าวไวจังนะครับ ผมกะไว้อยู่แล้วเชียวว่าคุณแม่ต้องรู้ ใช่ครับ ตอนนี้ผมคบกับนิ้งอยู่ เราคบกันมาสักพักแล้วครับ"
"นึกยังไงน่ะเราถึงไปคว้าผู้หญิงพวกนั้นมาได้ แม่รึอุตส่าห์หาผู้หญิงดี ๆ ไว้ให้กลับไม่ชอบ ดันไปชอบผู้หญิงแบบนั้นเนี่ยนะตาซี เรานี่ทำแม่ผิดหวังมากเลยนะ"
"คุณแม่! นิ้งเขาไม่ได้เป็นคนอย่างที่คุณแม่คิดเลยนะครับ จริงอยู่ที่เวลาเขาแสดงละคร เขามักได้รับบทร้าย ๆ แต่ความจริงแล้วนิสัยเขาน่ารักมาก นิ้งเขาเป็นคนอ่อนน้อม ใจเย็น ค่อนข้างจะเรียบร้อยด้วยซ้ำ ถ้าคุณแม่ได้คุยกับนิ้งจะรู้เลยว่าเขาแตกต่างจากในทีวีอย่างสิ้นเชิงเลย คุณแม่ก็น่าจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนที่มองใครแค่เปลือกนอก"
ฉัตรฉายมองบุตรชายอย่างไม่สบอารมณ์ รู้ดีว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็คงไม่ฟังเพราะกำลังหลงผู้หญิงคนนั้น แต่อย่างไรเสียตนก็มีแผนในใจแล้ว และมั่นใจด้วยว่าแผนนี้จะเขี่ยแม่นางร้ายคนนั้นให้กระเด็นไปจากชีวิตของนพฤทธิ์ได้แน่นอน
"เอางี้ดีกว่า เดือนหน้าวันเกิดคุณแม่ ผมจะชวนนิ้งมาด้วย ผมอยากให้คุณแม่รู้จักเธอไว้ คุณแม่จะได้รู้ว่าตัวจริงของนิ้งน่ะคนละเรื่องกับที่เราเห็นในทีวีเลย เธอน่ารักจริง ๆ ครับ ไม่อย่างนั้นผมไม่ชอบเธอหรอก"
"เชอะ! ตามใจเถอะย่ะ"
ผู้เป็นมารดาสะบัดหน้าไปทางอื่น ขณะที่นพฤทธิ์ก็ยิ้มกว้างเพราะคิดว่าการที่ท่านมีอาการอย่างนี้ หมายถึงท่านยอมตามใจเขาแล้ว
สองวันถัดมา นพฤทธิ์จำได้ว่าวันนี้นลินทรากลับจากต่างจังหวัด เขาจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหาหญิงสาวที่บ้าน จากนั้นก็พาเธอไปหาของอร่อยกินกัน เสร็จเรียบร้อยก็พาหญิงสาวมานั่งเล่นที่คอนโดฯ ของตน
"ไหนบอกว่าจะพาไปดูหนังไงคะ" นลินทราค้อนให้เขาขณะที่นั่งลงบนโซฟาหน้าโทรทัศน์
"ก็นี่ไงหนัง อยากดูเรื่องไหนก็เลือกได้ตามสบาย"
ชายหนุ่มยิ้มร่าอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม เขาหยิบไวน์แดงราคาร่วมแปดหมื่นบาทที่เพิ่งซื้อมาวันก่อนออกมาจากตู้ เปิดขวดแล้วรินใส่แก้วให้นลินทราเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวโปรดปรานไวน์แดงเป็นที่สุด ดังนั้นเขาจึงไปหาซื้อไวน์ชั้นเลิศมาเก็บเอาไว้โดยไม่เกี่ยงเรื่องราคา ขอแค่เธอพึงพอใจกับมันก็พอ
"พี่ซีทำตัวเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ตั้งแต่เมื่อไรกัน" นลินทรารับแก้วไวน์ไปจากมือของเขา
"ตั้งแต่รู้จักกับหนูน้อยหมวกแดงอย่างนิ้งนี่แหละ" เขาพูดกลั้วหัวเราะพลางทรุดตัวนั่งลงข้างเธอแล้ววางแก้วของตัวเองไว้บนโต๊ะตรงหน้า
นพฤทธิ์มองหญิงสาวละเลียดไวน์ที่ตนจงใจเลือกเฟ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เห็นเธอมีสีหน้าพึงพอใจแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เขายกแขนข้างที่ติดกับเธอขึ้นไปพาดไว้กับพนักโซฟาจนดูเหมือนโอบไหล่เธอกลาย ๆ แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบถาม
"อร่อยไหม"
นลินทราพยักหน้า "ไวน์ดี"
"ชิมหน่อยสิ" เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เธออีกจนลมหายใจเป่ารดแก้ม ได้กลิ่นหอมรวยรินออกมาจากกายหญิงสาวก็ยิ่งดึงดูดให้เขาเข้าหาทีละนิดจนกระทั่งปลายจมูกแตะลงบนพวงแก้มอ่อนนุ่ม
"แน้...ไหนบอกจะชิมไวน์ แล้วมายุ่งอะไรกับแก้มนิ้งเนี่ย"
"พี่ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะชิมไวน์ พี่อยากชิมนิ้งต่างหาก" เขาพูดจบก็ไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะมืออีกข้างของชายหนุ่มจับแก้มของหญิงสาวให้หันหน้ามาหาเขาแล้วก้มลงจูบริมฝีปากสีชมพูระเรื่อนั้นทันที
ชายหนุ่มแทรกลิ้นเข้าไปทักทายอย่างคุ้นเคย กลิ่นและรสชาติของไวน์ชั้นเลิศยังคงติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้นอ่อนนุ่มของหญิงสาว เขาปัดป่ายและดูดดึงรสชาตินั้นอย่างละโมบ มือที่จับแก้มนุ่มข้างนั้นก็ค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำทีละนิดจนมาหยุดอยู่ที่หน้าอกนุ่มหยุ่นที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดเนื้อนุ่มกับบราลูกไม้
นลินทราสะดุ้งเล็กน้อย พยายามจับมือซุกซนข้างนั้นไว้แต่ชายหนุ่มกลับไวกว่าเพราะเพียงชั่วพริบตาเขาก็สอดมือเข้ามาในเสื้อแล้วสัมผัสกับผิวเนื้อบริเวณแผ่นหลังเสียแล้ว
มือร้อนผ่าวของเขาไต่สูงขึ้นจนถึงบริเวณตะขอเสื้อชั้นใน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชายหนุ่มคิดจะทำอะไร เพราะแค่เขาสะกิดเบา ๆ ตะขอก็หลุดออกจากกัน
ผู้ชายคนนี้ดูช่ำชองในการเปลื้องผ้าคนอื่นเสียจริง!
"พี่ซี! พอก่อนค่ะ" เธอห้ามเขาด้วยเสียงสั่นพร่า ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อฝ่ามือร้อน ๆ ของเขาเข้ามากอบกุมทรวงสล้างอย่างถือวิสาสะ
ชายหนุ่มฟุบหน้าลงกับซอกคอของนลินทราพร้อมกับหายใจหอบถี่ แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมเอามือออกไปจากความนุ่มหยุ่นนั้น ทั้งยังจงใจนวดหนักเบาสลับกันไปมาอีกด้วย
"มือซนนักนะ เอาออกไปเลยค่ะ" เธอหยิกเขาไม่แรงนัก
"ยังไม่ได้ชิมเลย" เขาเงยหน้ามองเธอแล้วพูดเสียงพร่า แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนาร้อนแรงอย่างไม่ปิดบังจนคนมองรู้สึกประหม่าขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก
"ก็...เมื่อกี้ก็จูบไปแล้วไงคะ พอได้แล้ว" ขืนตามใจเขามากไปกว่านี้ เธอต้องใจอ่อนกับลูกอ้อนของเขาแน่
"ไม่ใช่ พี่หมายถึงตรงนี้ต่างหาก ขอชิมหน่อยสิ ได้ไหมครับ" เขาไม่พูดเปล่า แต่ยังใช้นิ้วโป้งไล้วนตรงปลายยอดเบา ๆ จนเธอต้องเม้มปากแน่นเพราะทั้งเสียวและจั๊กจี้
"พี่ซีคะ..." เธออยากให้เขาหยุด แต่เขากลับจู่โจมที่ใบหูของเธอเสียก่อน
"พี่ขอชิมหน่อยได้ไหมครับ นะนิ้ง นะที่รัก พี่ขอนะ"
นลินทรารีบจับบ่าทั้งสองข้างของเขาเอาไว้แล้วผลักให้ห่างออกจากตัวทันที
"ไม่ค่ะพี่ซี ถ้ายังหื่นไม่เลิกนิ้งจะกลับบ้านแล้วนะ" จะบ้าหรือไง เธอยังรู้จักเขาไม่ดีพอเลยด้วยซ้ำ แถมยังเพิ่งคบกันในช่วงต้นของความสัมพันธ์ แต่เขากลับจะปล้ำเธอเสียแล้ว
นพฤทธิ์หยุดทุกอย่างลงตามคำขอของเธอก็จริง แต่แววตาที่เขามองเธอนั้นเร่าร้อนเสียจนเธอต้องลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มในมุมนี้มาก่อน
"พี่ขอโทษ ลืมตัวไปหน่อย" เขาถอนหายใจยาวพลางยืดตัวกลับไปนั่งที่เดิม หยิบหมอนอิงมากอดไว้ นลินทราเองก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หญิงสาวอ้อมมือไปด้านหลังเพื่อติดตะขอเสื้อชั้นใน นพฤทธิ์จึงยื่นมือเข้าไปด้านหลังของเธอบ้าง
"พี่ติดให้ครับ พี่เป็นคนปลดมันออกพี่ก็ต้องรับผิดชอบ"
ตอนแรกนลินทราคิดจะปฏิเสธ แต่พอเห็นเขาไม่มีท่าทีจะมาคลุกวงในอีกจึงปล่อยเลยตามเลย
หลังจากติดตะขอเสร็จแล้วเขาก็จับมือเธอเอาไว้ มองตาเธอนิ่งนานก่อนจะพูดว่า
"ในสายตานิ้งพี่อาจจะดูเป็นคนใจเร็วด่วนได้ หรือมือไวใจเร็ว แต่พี่ก็อยากให้นิ้งรู้เอาไว้อย่างหนึ่งว่าพี่ไม่ค่อยคบใครสะเปะสะปะ พี่ไม่ชอบการมีคู่ควงหรือคู่ขา คนที่พี่จะคบด้วยจนเรียกว่าแฟนนั่นหมายความว่าคน ๆ นั้นเป็นคนที่พี่รู้สึกพิเศษด้วย เป็นคนที่พี่ชอบหรือรักเขาจริง ๆ"
นลินทราฟังแล้วได้แต่ยิ้ม เธอยังพูดอะไรไม่ได้มากนักเพราะเรื่องแบบนี้ต้องดูกันไปยาว ๆ ยิ่งการมีอะไรลึกซึ้งกับเขาเธอก็ยิ่งต้องคิดให้รอบคอบเพราะหากเขาเป็นพวกกินในที่ลับไขในที่แจ้งแล้วละก็ อนาคตของเธอคงจบแน่
"นิ้งไม่ค่อยได้มีแฟนหรอกค่ะ แฟนคนล่าสุดที่เคยคบก็ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา พอได้มาเป็นดารายิ่งแทบไม่มีเวลาไปออกเดตกับใคร"
"แต่ก็มีคนมาจีบบ้างใช่ไหม" เขาถาม แล้วเธอก็พยักหน้า
"ใช่ แต่มาจีบนี่ก็มาหลายรูปแบบนะ อย่างที่นิ้งเคยเล่าให้พี่ฟังนั่นแหละว่าเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของนิ้งเป็นแบบนี้ คนส่วนใหญ่ก็เลยคิดกันว่านิ้งคงฟรีเซ็กซ์หรือเป็นคนง่าย ๆ ก็เลยเข้ามาคุยด้วยแล้วชวนไปต่อที่โรงแรม บ้างก็มีนายหน้ามาติดต่อให้นิ้งไปนอนกับพวกไฮโซกระเป๋าหนัก หรือพวกอาเสี่ยพวกนักการเมืองที่อยากนอนกับดาราน่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเอารายได้มาล่อ ว่าไปครั้งหนึ่งได้เท่านั้นเท่านี้ แต่นิ้งไม่ได้ร้อนเงิน เพราะแค่ที่หาได้ทุกวันนี้ก็แทบไม่มีเวลาใช้แล้ว หนี้สินก็ไม่มีก็เลยไม่รู้จะทำไปทำไม"
นพฤทธิ์พยักหน้าช้า ๆ "มันมีทุกวงการจริง ๆ เนอะพวกนี้น่ะ"
เขาพูดจบก็มองเธอตาละห้อย "นิ้งคงไม่ได้คิดว่าพี่เป็นเหมือนไฮโซพวกนั้นใช่ไหม"
นลินทรายิ้มนิด ๆ "แล้วพี่เป็นไหมล่ะคะ"
ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน "เฮ้ยไม่เป็น จริง ๆ นะ นี่ขอพูดเปิดอกเลยก็ได้ว่าขนาดซื้อบริการพวกสาวไซด์ไลน์พี่ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ พี่ไม่ชอบยุ่งกับคนแปลกหน้าน่ะ"
หญิงสาวยิ้มอ่อนพลางยกมือขึ้นทาบแก้มเขา "เป็นคนดีซะจริง"
เขาวางมือทับบนมือของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"ใช่ พี่เป็นคนดีขนาดนี้แล้วนิ้งไม่ใจอ่อนสักนิดเลยหรือ"
"แน่ะ! เปิดช่องให้ไม่ได้เลยนะ" เธอค้อนให้เขาก่อนหันไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ
นพฤทธิ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกครั้งแล้วพูดว่า "ชิมหน่อยสิครับ"
นลินทรายื่นแก้วของตนไปให้เขา แต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้า
"ไม่เอา ชิมจากแก้วมันไม่อร่อย พี่อยากชิมจากปากนิ้งมากกว่า รสชาติดีกว่ากันเยอะ"
หญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาหาเรื่องคลุกวงในอีกแล้ว และเช่นเคยที่เธอยังไม่ทันตอบรับหรือปฏิเสธ นพฤทธิ์ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว แต่ครั้งนี้เธอไม่ถอยหลบเพราะรู้แล้วว่าเขาจะไม่หักหาญน้ำใจปลุกปล้ำเธอตรงนี้แน่นอน
ชายหนุ่มดันร่างนลินทราจนหญิงสาวนอนราบไปกับโซฟาและเขาก็ทาบทับอยู่ด้านบน มือซุกซนลูบไล้ไปทั่วผิวเนื้อนวลเนียนจนกระทั่งไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวตะขอเสื้อชั้นใน ซึ่งในที่สุดก็ปลดมันออกจากกันอีกครั้ง
ปลายลิ้นร้อนผ่าวผละจากริมฝีปากอิ่มแล้วเคลื่อนมาลองลิ้มชิมเนื้อนวลอยู่แถวกกหูและซอกคอ ขณะที่มือก็หยอกเย้าอยู่กับทรวงอกกลมกลึงอย่างทะนุถนอม
"นิ้ง" เสียงแหบพร่าดังแผ่วอยู่ข้างหูหญิงสาวพร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารินรดเข้าไปข้างในจนเธอขนลุกไปทั่วสรรพางค์กาย
"พี่จะทนไม่ไหวแล้ว ทำไงดี" สิ้นประโยคของเขา หญิงสาวก็ลืมตาโพลง กำลังจะผลักเขาออกอีกครั้งก็ได้ยินชายหนุ่มกระซิบข้างหูมาอีก
"อยากหยุดแต่พี่หยุดไม่ได้ พี่ขอแค่ข้างนอกได้ไหมครับ"
ขณะที่นลินทรากำลังประมวลผลคำว่าข้างนอกของเขา หญิงสาวก็เห็นว่าตอนนี้นพฤทธิ์จับมือของตนไปกุมอยู่ตรงส่วนนั้นของเขาแล้ว ทำเอาเธอเบิกตากว้างกับความแข็งขึงสู้มือของเขา แต่เหนืออื่นใดนั้นเธอสงสัยว่าเขาปลดกางเกงของตัวเองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน!
ชายหนุ่มใช้แขนข้างหนึ่งค้ำลำตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้ทาบทับเธอลงมาทั้งตัว ส่วนมืออีกข้างก็ช่วยนำทางให้เธออยู่ เขาฟุบหน้าลงกับซอกคอจนเธอได้ยินเสียงหอบหายใจและเสียงครางกระเส่าของเขาที่ข้างหู เสียงของเขาช่างไพเราะน่าฟัง เธอจึงเอี้ยวหน้าไปจูบขมับของเขาเบา ๆ แล้วกระซิบว่า
"นิ้งทำให้เองค่ะ"
เขาเงยหน้าขึ้นมาจูบแก้มเธอฟอดใหญ่ แต่สายตาร้อนแรงของเขานั้นทำเอาเธอไม่กล้ามองตรง ๆ เลย แต่ชายหนุ่มก็ทำให้เธอต้องหันไปมองเขาจนได้เมื่อจู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า
"ใช้ปากนะ"
"ได้คืบจะเอาศอกนะคะคุณนพฤทธิ์" เธอแกล้งปล่อยมือจากตรงนั้นทำให้เขารีบกุมมือของเธอไปวางไว้ที่ตำแหน่งเดิมราวกับขาดความอบอุ่น
"พี่ล้อเล่น แต่ถ้าได้ก็จะฟินมาก" เขาพรมจูบไปทั่วหน้าของเธออย่างออดอ้อน
"คราวหน้านิ้งไม่มาห้องพี่แล้ว" เธอแพ้คนอ้อนอย่างเขาตลอดเลย
"นิ้งงงง พี่พูดเล่นครับที่รัก มาเถอะนะ ที่นี่ยินดีต้อนรับนิ้งคนเดียว" เขาพูดจบก็หลับตาครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงที่ซอกคอของเธออีกครั้ง เธอจึงแกล้งหยุดมือแล้วกระซิบข้างหูเขาว่า
"นิ้งต้องทำยังไงบ้างล่ะคะ พี่ซีบอกนิ้งสิ"
นพฤทธิ์เงยหน้าขึ้นมองเธอทันทีด้วยสายตาวาววาม จากนั้นก็ก้มลงจูบเธอไปทั่วหน้าพลางพร่ำพูดไม่ขาดปาก
"รักนิ้งที่สุดเลย นิ้งน่ารักที่สุดเลย"