ตอนที่ 2 ของตายที่เคยโยนทิ้ง (4) จบบท

1169 คำ
ชาครีย์กึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟากลางบ้านอ่านรายงานการประชุมในไอแพด สายตาเขาจดจ้องตัวหนังสือผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยม ทว่าหูกลับคอยเงี่ยฟังเสียงคนในบ้าน ตอนนี้ชวินทร์กำลังให้หลานสาวตัวน้อยขี่หลังเดินวนรอบในตัวบ้าน ระหว่างรอฐานิดาลงมาจากข้างบนบ้าน น้องเกวอยู่ในชุดเดรสเด็กสีขาว ถือตุ๊กตาเจ้าหญิงหนึ่งตัว เป็นของรักของหวงที่ไปไหนมาไหนจะต้องเอาติดตัวไปด้วย เพราะคุณพ่อของแกซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดตั้งแต่สมัยยังอยู่อเมริกากับณิชาภัทร สมัยนั้นน้องชายของเขาต้องไปกลับกรุงเทพ-อเมริกาบ่อยมาก ณิชาภัทรไม่ยอมให้อภัยในสิ่งที่เจ้าน้องชายเขาทำไว้ ธนาตย์อดทนอดกลั้นและใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองมากกว่าสามปี ในที่สุดน้ารัตนารวมถึงณิชาภัทรก็ใจอ่อน ยอมให้โอกาสธนาตย์ได้ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวครั้งแรก ชีวิตครอบครัวของเจ้าธนาตย์มันแฮปปี้แล้วแหละ มีเมียสวย มีลูกน่ารัก แถมยังกำลังจะเป็นคุณพ่อลูกสอง เพราะณิชาภัทรกำลังตั้งครรภ์ ส่วนน้องชายคนรองก็อย่างที่เห็น ตกเป็นทาสฐานิดาเต็มรูปแบบ ไม่กล้าแม้กระทั่งขัดใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เฮ้อ! คิดๆ แล้วเขาก็อิจฉาเจ้าน้องชายทั้งสองชะมัด เขาเป็นพี่พวกมันแท้ๆ แต่ทำไมถึงเหงามากขนาดนี้ มีเมียก่อนพวกมันก็จริง แต่... ก็ไปกันไม่รอด หย่าขาดกันมาสามปีแล้ว ปีนี้อายุอานามเขาก็สามสิบหก เผลอแป๊บๆ เลขสี่ก็คงมานำหน้า ให้ตายเถอะ นี่เขาจะต้องโสดทั้งที่หล่อ และรวยมากแบบนี้จริงๆ เหรอ “มาแล้ว อาข้าวหอมคนสวยเดินมานู้นแล้วค่ะ” ชวินทร์บอกเล่าเบาๆ น้ำเสียงเขาสดใส ร่าเริง ชี้นิ้วไปทางแฟนสาวให้หนูน้อยร้องเรียก “อาข้าวหอมขา น้องเกวอยากไปหาพี่เสือแล้ว” หนูน้อยร้องเรียกคุณอาคนสวย ยิงฟันยิ้มกว้างส่งไปให้ มือเล็กกอดรอบลำคอคุณอาชวินทร์ หัวเราะอิ๊กๆ อวดฟันน้ำนมซี่เล็กเรียงสวย ยังคงขี่คออยู่อย่างนั้น “ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ แถ่นแถ้นนน ของใครเอ่ย” ฐานิดาอยู่ในชุดเสื้อกับกางเกงเข้าเซ็ตสีสันสดใส มีแว่นกับหมวกเก๋ๆ หล่อนชูช็อกโกแล็ตของโปรดของหนูน้อยขึ้น หนูน้อยดีใจมาก ปรบมือแปะๆ ชอบใจ “ของน้องเกวค่ะ อิอิ น้องเกวรักอาข้าวหอมที่สุ๊ดเลย” “จ้ะ จำที่แม่เอ๋ยสอนได้ไหมเอ่ย กินแล้วต้องอย่าลืมแปรงฟันนะคะ” ส่งมือมาลูบศีรษะหนูน้อยเบาๆ เอ็นดูน้องเกว ตัวเล็ก น่ารัก ยิ้มเก่ง ยิ้มทีตาหยีไปหมด ผิวพรรณก็สวย ขาวผ่อง ได้มาจากผู้เป็นแม่ร้อยเปอร์เซ็น เด็กหญิงตัวน้อยยกมือไหว้รับขนมมาถือเอง ฐานิดาจึงเอียงใบหน้ากลับมามองชายคนรักก่อนจะพยักหน้าส่งสัญญาณให้ชายคนรัก “คุณวินขา เราไปกันเถอะค่ะ นี่ก็บ่ายสองแล้ว” “จ้ะ” ชวินทร์ขานรับ ใช้มือจับหนูน้อยมั่นคงก่อนจะหันหลังมุ่งหน้าเดินออกไปข้างนอก แต่ก่อนจะผ่านออกไปได้นั้นก็เห็นพี่ชายจึงทักทาย “พี่คีย์ เดี๋ยวผมพาเด็กในสังกัดออกไปเที่ยวก่อนนะ” “อืม เที่ยวให้สนุกนะ” ชาครีย์ดีดกายขึ้นมานั่งพิงโซฟา หันหน้าไปมองฐานิดากับหลานสาวจอมซน ได้เที่ยว ได้กินขนมที่ชอบ หนูน้อยยิ้มกว้างเชียว คงจะรีบกินเยอะๆ ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะกลับจากภูเก็ต ไม่อย่างนั้นคงถูกคุณแม่เอ๋ยคนสวยสั่งลดปริมาณขนมหวานไม่ให้น้องเกวกินเยอะ ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงนั้นมองน้องชายพาแฟนกับหลานออกไปข้างนอก เสียงรถยนต์ขับเคลื่อนออกไปจนพ้นอาณาเขตถึงเอนกายลงนอนอีกครั้ง คราวนี้เลิกอ่านรายงานแล้ว วางมันไว้บนเอวสอบ และทำการพักสายตา ในบ้านเหลือเขาคนเดียว บิดามารดาออกไปทำธุระตอนเช้ายังไม่กลับ เสียงกุกๆ กักๆ ดังขึ้นไม่ไกลเท่าไหร่นักทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นมา เห็นเป็นสาวใช้กำลังก้มเก็บซองจดหมายกับกล่องพัสดุที่ทำหล่นลงพื้น “ไปรษณีย์เพิ่งมาส่งเหรอ” ส่งเสียงถามสาวใช้อายุราวสามสิบต้นที่ทำงานในบ้านมานานแล้ว เสียงนั้นเข้มมากจนหัวไหล่คนฟังสะดุ้ง “ชะ... ใช่ค่ะคุณคีย์” ตอบเสร็จก็รีบกุลีกุจอเก็บต่อ “เอามาวางไว้ตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะดูเอง” “ดะ... ได้ค่ะ” สาวใช้คำตามคำสั่งกระฉับกระเฉง รีบเก็บ รีบโกย รีบนำมาวาง แล้วก็รีบขอตัวไปทำงานบ้านอย่างอื่น ชาครีย์หน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนอื่นต้องกลัวต้องไม่ชอบเข้าใกล้เขาด้วย จะว่าหน้าดุเกินไปก็ไม่น่าจะใช่นะ ออกจะหล่อ ชาครีย์คิดเข้าข้างตัวเอง สายตาคมคายแฉลบสายตาไปมองไอแพดเมื่อเห็นแจ้งเตือนอีเมลใหม่ ทว่าไม่สนใจ มือใหญ่เอื้อมมาหยิบซองจดหมายเกินสิบมาดูจ่าหน้าซองทีละฉบับ จากนั้นทำการคัดแยกเพื่อจะได้นำส่งให้คนในครอบครัวได้ถูกต้อง กระทั่งบังเอิญไปเห็นฉบับหนึ่งจ่าหน้าซองถึงมารดา มือเขาสั่นนิดๆ ตาเหลือกตาลานอ่านซ้ำอีกครั้ง ให้มั่นใจว่าคนที่ส่งมาคือคนเดียวที่เขาเกลียดจริงไหม “กมลเนตร...” มือใหญ่กำรอบจดหมายนั้นแน่นจนเป็นรอยยับ อดีตความหลังมากมายหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายยิ่งกว่าซาตาน เลือดเย็น ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกเขาที่อยู่ในท้องเจ้าหล่อน ชาครีย์โกรธจัด ตวัดหลังมือไปชนแจกันปักดอกไม้ตกลงแตกกระจาย เพล้ง! เสียงแก้วแตกนั้นดังกึกก้องในบ้าน สาวใช้ต่างพากันมาแอบดู แต่ก็ตามเคย ไม่มีใครกล้าสู้หน้าชาครีย์ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมได้เลย ถูกเขาจับจ้องมาเป็นต้องวงแตกแหกกระเจิง พร้อมใจวิ่งหนีเป็นป่าราบ ใจเย็นๆ เว้ย พยายามบอกตัวเอง ทั้งที่ทั้งมือและร่างกายสั่นเทาเกินจะระงับไว้ได้ นึกถึงเรื่องเก่าๆ ทีไรเขาอยากร้องไห้ อยากปล่อยตัวปล่อยใจให้อ่อนแอ แม้จะไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ อ่อนแอแบบนี้ เขาไม่ชอบเลย! ชาครีย์มีอารมณ์เหมือนคนฟุ้งซ่านอยู่ไม่ติดที่ เขารีบขึ้นห้องไปเก็บเอกสารใส่กระเป๋าก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง “คนอะไรหล๊อหล่อ แต่น่ากลัวชะมัด” สาวใช้คนหนึ่งนินทาเจ้านาย โดยมีคนอื่นๆ พยักหน้าตามเพียบก่อนจะช่วยกันเก็บกวาดซากแจกันที่แตกกระจาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม