สองวันต่อมา
@โรงแรม (ประเทศอังกฤษ)
[Lilin Talk]
"หนูจะไม่นอนห้องเดียวกับคุณแม่จริงๆ เหรอคะ?" คุณแม่เอ่ยถามขณะที่เดินมาส่งฉันที่หน้าห้องพักของโรงแรม โดยมีคุณพ่อยืนอยู่ข้างๆ ส่วนลูกน้องก็กำลังเอากระเป๋าของฉันไปเก็บไว้ในห้อง
"หนูไม่น่าจะอยู่ถึงงานจบค่ะ เผื่อหนูแอบมานอนก่อน^^" ฉันยกยิ้มแห้งๆ เพราะยังไงฉันก็ไม่มีทางอยู่จนถึงงานจบหรอก ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าจะเข้าไปในงานไม่นาน แล้วก็จะแว๊บออกมานอน
"แต่ห้องพักหนูมันอยู่คนละชั้นกับห้องพักที่คุณแม่พักนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแม่ไปเตรียมตัวได้แล้วค่ะเดี๋ยวหนูอาบน้ำเสร็จจะไปหานะคะ^^" ฉันยกยิ้มหวานซึ่งคุณแม่ก็มองหน้าคุณพ่อโดยที่คุณพ่อก็พยักหน้าเบาๆ
"ไปแต่งหน้าห้องคุณแม่นะ" คุณแม่หันมาบอกฉัน
"ค่ะ"
"ให้ลูกน้องแด๊ดเฝ้าไหม?" คุณพ่อเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง แต่ฉันว่าไม่ต้องหรอก เพราะที่นี่มันโรงแรมระดับห้าดาวเลยนะ คงไม่มีอะไรไม่ดีหรอก แถมแขกที่มาพักที่นี่ก็มางานเลี้ยงทั้งนั้น แล้วเหตุผลที่ฉันได้พักห้องคนละชั้นก็เพราะห้องมันเต็ม ตอนแรกคุณพ่อจะจัดการแล้ว แต่ฉันบอกไม่เป็นไร
ก็มันไม่เป็นอะไรจริงๆ แค่คนละชั้นเอง ยังไงก็อยู่โรงแรมเดียวกันอยู่แล้ว แถมเราพักที่นี่แค่คืนเดียว พรุ่งนี้ก็ไปบ้านคุณปู่คุณย่า
"ไม่เป็นไรค่ะ แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ไปเตรียมตัวได้แล้วนะคะ เดี๋ยวหนูไปหาค่ะ^^" ฉันว่าจบก็ก้าวขาเดินเข้าไปเขย่งปลายเท้าหอมแก้มคุณพ่อคุณแม่ก่อนจะถอยออกมา
"งั้นถ้ามีอะไร โทรหาคุณแม่เลยนะคะ"
"ค่ะ^^" ว่าจบคุณแม่กับคุณพ่อก็หมุนตัวเดินออกไปโดยมีลูกน้องเดินตามเกือบสี่ชีวิต ฉันจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ หมุนตัวเดินเข้าไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า
ครืนนนน~ ครืนนนน~
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันส่งเสียงร้องดังขึ้น มือเล็กรีบควานหากระเป๋าสะพายข้างที่ฉันเหวี่ยงมันลงมาบนเตียง ฉันจึงล้วงมือลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดู ก่อนจะกดรับสายเมื่อเห็นว่าแสนดีโทรไลน์มา
"ฮัลโหล~" ฉันกรอกเสียงยาวเหยียดออกไป
(ถึงแล้วใช่ไหม?)
"ถึงแล้ว เบื่อ อยากกลับ" ว่าจบฉันก็ถอนหายใจออกมายาวๆ การที่มางานเลี้ยงกับผู้ใหญ่นี่มันน่าเบื่อมากเลยนะ
(นี่แกเพิ่งไปถึงนะ จะมาบ่นแบบนี้ไม่ได้นะคุณหนูลิลิน)
"ก็ไม่ได้อยากจะมา"
(เอาน่า อย่าบ่นค่ะ)
"เฮ้อ ไปอาบน้ำก่อนนะ"
(เคจ้า อย่าลืมซื้อของฝากจากอังกฤษมาฝากแสนดีด้วยนะ)
"เอาอะไร ขนม?"
(ถูกต้อง)
"เพราะความอยากกินขนมแกเนี่ยแหละ ทำฉันซวย" พอนึกถึงเหตุการณ์ลืมกระเป๋าเงินก็อดที่จะหงุดหงิดตัวเองไม่ได้ ของสำคัญแบบนั้นลืมได้ยังไง แต่ก็ถือว่าโชคดีมั้งที่พี่วิลเซอร์แวะซื้อโค้กที่เซเว่น แต่คนอะไร แวะซื้อแค่โค้กสิบห้าบาท แต่ช่างพี่วิลเซอร์เถอะ
(ซวยอะไร?)
"ไม่มีอะไร ไปล่ะนะเดี๋ยวซื้อขนมไปฝาก" ว่าจบฉันก็กดวางสาย ทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง ก้าวขาเดินไปที่ห้องน้ำ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
สองเท้าหยุดชะงักเมื่อเสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น ฉันจึงหันไปมองที่ประตูเพียงนิดก่อนจะก้าวขาเดินไปเปิด ก็พบกับคุณอาปืนลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อยืนถือชุดราตรีอยู่หน้าห้อง
"ผมเอาชุดมาให้คุณหนูครับ"
"ขอบคุณค่ะ^^"
ฉันว่าจบก็ยื่นมือไปรับชุดจากคุณอาปืนก่อนที่คุณอาปืนจะเดินออกไป ฉันจึงปิดประตูเดินเอาชุดราตรีสีชมพูอ่อนๆ ไปวางทิ้งไว้บนเตียงนอนหนานุ่ม
ที่ฉันเรียกลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อว่าคุณอา เพราะฉันนับถือคุณอาปืนเหมือนคนในครอบครัวเลย ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นหน้าคุณอาปืนแล้ว แถมคุณอาปืนยังนิสัยดีมากๆ ช่วยปกปิดเรื่องที่ฉันแอบไปแข่งรถกับคุณพ่อคุณแม่อยู่บ่อยๆ
แกร๊ก~
"..." ฉันยืนนิ่งไปทันทีเมื่อเปิดประตูห้องพักออกมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็พบกับพี่วิลเซอร์ที่เปิดประตูห้องพักออกมาพอดี แต่สิ่งที่ฉันตกใจก็คือห้องที่พี่วิลเซอร์พักอยู่ถัดไปจากห้องที่ฉันพักเพียงสามห้อง
"..." พี่วิลเซอร์มองหน้าฉันแวบนึง ไล่สายตามองชุดเกาะอกราตรีสีชมพูอ่อนที่มีความยาวถึงเข่าด้วยสายตาเปิดเผย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากเดินผ่านหน้าฉันไป
"คนอะไรขี้เก๊ก" ฉันจิ๊ปากว่าออกไปเสียงแผ่วเบา หมุนตัวเดินไปที่ลิฟต์ ก่อนจะไปหยุดชะงักอยู่หน้าลิฟต์เมื่อเห็นว่าพี่วิลเซอร์อยู่ในนั้น
ฉันก็ลืมนึกไปว่าพี่วิลเซอร์ต้องเดินมาที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปงานที่จัดอยู่ที่ชั้นบนสุด ให้ตายสิ ทำไมฉันไม่รอให้เขาไปก่อนนะ
"จะไปไหม" พี่วิลเซอร์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ จนฉันสะดุ้งเล็กน้อย แต่ฉันควรไปดีไหมหรือจะรอให้พี่วิลเซอร์ไปก่อน แต่สุดท้ายฉันก็ต้องยอมก้าวขาเดินเข้าไปในลิฟต์เมื่อเจอสายตาของพี่วิลเซอร์ที่มองมา
"..." ฉันยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง มองไปที่หมายเลขของลิฟต์เพียงนิด เพราะฉันยังไม่ได้จะขึ้นไปที่ชั้นบนแต่ฉันจะลงไปหาคุณพ่อคุณแม่ก่อน
"กด"
"คะ?" ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่วิลเซอร์ทันทีเมื่อพี่วิลเซอร์เอ่ยขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมาอีก แต่กับเบือนสายตาไปที่หมายเลข "ลินยังไม่ได้จะขึ้นไปที่งานเลี้ยงค่ะ ลินจะลงไปหาคุณแม่ก่อน พี่วิลไปชั้นบนก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลินลงมาอีกที"
"ชั้นไหน?"
"คะ?" ฉันอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อพี่วิลเซอร์เอ่ยขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรจากปากพี่วิลเซอร์อีกเช่นเคย เจอเพียงสายตานิ่งๆ ของเขา ฉันว่าคำถามพี่วิลเซอร์น่าจะถามฉันว่าคุณแม่พักอยู่ชั้นไหนนะ "ชั้นเก้าค่ะ"
"..." ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากของพี่วิลเซอร์ เขาเอื้อมมือไปกดที่ชั้นเก้า ฉันจึงรีบละสายตาจากใบหน้าของพี่วิลเซอร์หันไปมองที่บานประตูลิฟต์
ลิฟต์เป็นสิ่งที่เงียบอยู่แล้ว แต่พอเจอพี่วิลเซอร์เข้าไปจากที่เงียบก็กลายเป็นอึดอัดด้วย แต่ฉันว่าฉันพักที่ชั้นสิบสามนะ ทำไมมันถึงช้าขนาดนี้ ฉันจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่วิลเซอร์อีกครั้ง ก็เห็นว่าเขามองหน้าฉันอยู่ ฉันจึงรีบก้มใบหน้าลงทันที ก่อนที่ลิฟต์จะเคลื่อนตัวมาเปิดที่ชั้นเก้า
"ละ..ลินไปก่อนนะคะ" ฉันหันไปบอกพี่วิลเซอร์ตามมารยาท แต่พี่เขากับนิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรออกมา ฉันจึงรีบก้าวขาเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก รีบเดินไปที่ห้องพักของคุณพ่อคุณแม่ทันที