ตรัยเริ่มสืบข้อมูลของหญิงสาวจากหมายเลขทะเบียนรถที่เธอนั่งออกไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เจ้าของห้องคือหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงอย่างปริญแล้วเหตุใดหญิงสาวจึงบอกกับเขาว่าห้องนั้นเป็นห้องที่เจ้านายให้อยู่อาศัยฟรีๆล่ะ นายปริญอะไรนี่ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลยเขากลัวหญิงสาวจะถูกหลอก
“หมอนี่แน่หรอ”
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกค่ะคุณตรัย”
“ผมขอบคุณมากสำหรับข้อมูลครับ คุณกลับบ้านเถอะผมไม่รบกวนเวลาของคุณแล้ว”
“ค่ะ”
อีกด้านกรรัมภายิ้มเต็มใบหน้าเพราะคนตัวโตบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยว ตั้งแต่ที่รู้ว่าตั้งท้องเธอก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเลยวันนี้เลยลุกขึ้นมาแต่งตัวสวยออกไปกับเขาสองต่อสอง แม้จะใช้เวลาขับรถหลายชั่วโมงแต่เขาก็ยินดีพาคนข้างกายไปเปิดหูเปิดตาที่ทะเล วินาทีที่เท้าเหยียบทรายกรรัมภารู้สึกว่าช่างสบายเหลือเกิน แม้จะรู้สึกเหนี่ยวตัวที่ถูกลมทะเลปะทะตัวแต่ก็รู้สึกมีความสุขมากกว่า ชายหนุ่มคอยเดินตามเธอไม่ห่างเพราะกลัวว่าหญิงสาวจะหกล้มแล้วเกิดอันตรายขึ้นได้
“ทำเหมือนพรีนเป็นเด็กสามขวบเลยค่ะ ดูสิคะน้องคนนั้นมองเราใหญ่เลย”
“ฮ่าๆ ก็ผมเป็นห่วงนี้ครับ”
“เรามาเอ่อ...ถ่ายรูปกันไหมคะ”
“ได้สิครับจะได้เอารูปนี้ไปอวดว่าพ่อพาแม่มาทะเลครั้งแรก” คำตอบของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงรู้สึกว่าคำพูดของเขามีอิทธิพลกับเธอเสมอ รอยยิ้มของเขาสดใสมาก ชายหนุ่มถือวิสาสะโอบไหล่บางเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น เธอสัมผัสได้ว่าหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่ต่างกัน
“ขะ ขอดูรูปหน่อยค่ะ”
“เป็นไงครับชอบไหมครับ”
“ชอบค่ะ คุณถ่ายรูปดีเหมือนกันนะคะ”
“มาครับโพสท่าเต็มที่เลยเดี๋ยวผมจะถ่ายให้เองครับ”
“ไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องเกรงใจเลยครับ” ภาพหนุ่มสาวกำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานตกอยู่ในสายตาของอรดี หล่อนรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครแต่หล่อนไม่รู้ว่าผู้หญิงที่คนตัวโตพยายามเอาอกเอาใจนั้นเป็นใคร หล่อนไม่รอช้าก้าวเดินไปหาคนทั้งคู่ทันทีเพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้วแม้เขาจะเอ่ยปากไล่เธอก็ตาม
“บังเอิญจังเลยนะคะที่มาเจอปริญที่นี่” ปริญเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงแหลมๆที่ไม่น่าฟังเอาเสียเลยช้าๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอรดี ผู้หญิงที่เขาไม่อยากจะเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยอีก
“เราไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มหันไปกุมมือคนข้างกายเตรียมจะพาเธอเดินหนีคนบ้าที่ตามราวีเขาอยู่ไม่เลิกถ้ามีโอกาส
“เดี๋ยวสิคะ เราไม่ได้เจอกันตั้งนานจะไม่ทักทายกันหน่อยหรอคะ”
“ไม่มีความจำเป็นครับ ขอโทษด้วยนะครับคุณกำลังกลัวเวลาส่วนตัวของผมกับภรรยานะครับ”
“ภรรยา? หึ อรดีไม่เชื่อหรอกนะคะว่าคุณจะคว้าแม่นี่มาเป็นเมียของคุณ”
“รู้แค่ว่าคุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินความคิดของคนอื่นก็น่าจะพอนะครับ”
“ปริญ! คุณยังปากร้ายเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“ขึ้นอยู่กับว่าคุยกับใครมากกว่าครับ” ทั้งสองตอบโต้กันอีกสองสามประโยคเขาก็พาเธอผละออกมาได้สำเร็จ อารมณ์ที่เคยดีๆกลายเป็นขุ่นมัว กรรัมภาอกมือขึ้นแตะที่อกแกร่งของเขาอยากให้เขาใจเย็นลงเสียหน่อย
“พรีนไม่รู้เลยนะคะว่าบทจะประลองฝีปากกันคุณก็ไม่เป็นรองใครเลย”
“นี่ผมกำลังถูกว่าหรือเปล่าครับ”
“เธอทำอะไรให้คุณโกรธขนาดนั้นละคะ เล่าให้พรีนฟังบ้างได้ไหม”
“ได้สิครับ เธอเป็นแฟนเก่าผมครับ อดีตคืออดีตครับ”
“คุณชอบผู้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวๆแบบนี้นี่เอง” กรรัมภาถามกลับยิ้มๆ แกล้งถามทั้งที่ในใจเธอรู้ดีว่าเขาเกลียดอรดีเข้าไส้แล้วล่ะ
“ผิดครับ เดิมทีเธอไม่ได้แต่งตัวแบบนี้แต่เธอพยายามเอาใจผู้ชายของเธอมากกว่า”
“ฝรั่งคนนั้นน่ะหรอคะ” เธอหมายถึงฝรั่งผิวขาวตาสีฟ้าแต่มีอายุคนนั้น ท่าทางเขาจะมีฐานะไม่น้อย
“ใช่ครับ รวมถึงผู้ชายคนอื่นๆของเธอด้วย อรดีนี่แหละครับที่ทำให้ผมทะเลาะกับสามีของหมอฟ้า” ชายหนุ่มบอกเรื่องในอดีตให้คนข้างกายฟังด้วยท่าทีสบายๆ
“จริงหรอคะ” หญิงสาวถามกลับตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายดีๆสองคนมาตกหลุมรักแม่นางแมวนี่ได้ยังไงนะเธอล่ะนึกไม่ออกจริงๆว่ามีตรงไหนน่าประทับใจ
“จริงครับ ตอบนั้นผมคงโดนของ”
“ฮ่าๆ คุณก็ว่าไปเรื่อย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับคำตอบของเขา
“อย่าไปสนใจดีกว่าครับ เมื่อยหรือยังครับ” ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงห่วงใย
“นิดหน่อยค่ะ”
“งั้นเรากลับไปพักกันก่อนดีกว่านะครับ ได้เวลาที่จะต้องดื่มนมแล้ว”
“ค่ะ แต่ขอพรีนส่งรูปไปอวดคุณแม่หน่อยนะคะ แม่น่ะไม่ค่อยมีเวลาให้พรีนเลยเพราะแม่มัวแต่สนใจที่ร้าน เห็นอย่างนี้แม่กับพ่อของพรีนเปิดร้านทองนะคะ พรีนแค่อยากออกมาใช้ชีวิตเองเพราะทรัพย์สินพวกนั้นไม่ใช่ของพรีน”
“ตามสบายเลยครับ” ชายหนุ่มจับจูงมือของกรรัมภาให้เดินเคียงข้างไปด้วยกัน ในใจของเขามีความสุขที่ได้ดูแลเธอแบบนี้ทุกวัน นึกไม่ออกเลยว่าถ้าเธอรู้ว่าเขาโกหกเธอจะโกรธเขาขนาดนั้นเพราะว่าเธอมีอะไรก็บอกกับเขาตรงๆตลอด