สิ่งที่น้ำหนึ่งได้ยินทำให้เธอคิ้วขมวดทันทีและสงสัยว่ามันหายไปไหนแต่ว่าในความสงสัยของน้ำหนึ่งนั้นพอรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดเหมือนว่าจบงานเธอต้องมีการตักเตือนหน่อยแล้วละ ไม่อย่างนั้นก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าเธอไม่กล้าทำอะไร
"ใจเย็นนะไม่ต้องตกใจพี่เอางานทั้งหมดใส่กูเกิลไดร์ฟไว้แล้วเพราะงั้นเปิดงานผ่านไดร์ฟแล้วกันนะ" น้ำหนึ่งพูดกับจอยอย่างใจเย็นและลูบแผ่นหลังของเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ เมื่องานมันหายไปเป็นใครก็ต้องกังวลทั้งนั้นแหละ เนื่องจากมันเป็นงานสำคัญแต่เหมือนจะมีบางคนไม่ได้สนใจเลยว่างานวันนี้อาจจะพังได้เพราะความเอาแต่ใจและเด็กน้อยของเธอ
"เจมส์" น้ำหนึ่งเรียกผ่านไวเลสแต่ให้เจมส์ได้ยินคนเดียว
"ครับพี่น้ำหนึ่ง?" ปลายสายตอบกลับมาทันที
"ไปเปิดกล้องวงจรปิดหน่อยและดูว่าใครเอาแฟรชไดร์ฟของงานวันนี้ไป?" น้ำหนึ่งถามและเมื่อหันไปมองแคร์เธอก็หายไปแล้ว
"มีคนเอาไปเหรอครับ?"
"ใช่ เอาภาพมาให้ทีนะเพราะเหมือนว่าต้องมีคนโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้ว"
อีกด้าน...
ตึก ๆ ๆ ๆ ๆ
แคร์เดินกระทืบเท้าออกมาจากงานเพราะเหมือนว่าน้ำหนึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อีกแล้ว วันนี้เธอพยายามทำให้งานนี้ไม่เรียบร้อยเพื่อที่จะให้ปุณณ์ต่อว่าและตำหนิน้ำหนึ่งแต่ว่าไม่ว่าพยายามเท่าไหร่น้ำหนึ่งก็สามารถจัดการปัญหาได้ทั้งหมด นั่นทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก
ห้องน้ำ
"นังบ้าเอ๊ย!!" แคร์มองตัวเองในกระจกหลังจากที่พูดระบายอารมณ์ตัวเองออกไปในห้องน้ำไม่มีใครเธอเลยกล้าที่จะพูดอย่างนั้นออกมา
"คอยดูเถอะเมื่อไหร่ที่แกล้มฉันจะเหยียบแกให้จมเลย!!เก่งนักเหรอฮะอีบ้า ๆ ๆ !" และแคร์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาสรัลเธอจะถามเรื่องเงินที่เขาบอกว่าน้ำหนึ่งจะคืนว่าได้คืนหรือยัง?
ตรู๊ดดดดด!!
(ค้าบบบที่รักเหนื่อยไหมทำงาน?) ปลายสายรับด้วยน้ำเสียงสดใจและถามอย่างแสดงความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าวันนี้ทีมเลขามีงานใหญ่สรัลเลยรีบปากหวานใส่แคร์ทันที
"เหนื่อยค่ะ!!มากด้วย!!" และยิ่งเหนื่อยเป็นสองเท่าเมื่อเธอต้องคอยทำงานให้วุ่นวายอย่างระวังตัวไม่ให้ใครจับได้ว่าเธอสร้างเรื่อง
(โอ๋ ๆ แค่นี้ก็เก่งมากแล้วค่ะเดี๋ยวกลับมาแล้วพี่จะนวดและอาบน้ำให้นะคะหนูแคร์)
"ขอบคุณนะคะพี่สรัลแต่ว่าที่หนูโทรมาเนี่ยก็เพราะว่ามีเรื่องจะถามน่ะค่ะ"
(อะไรเหรอคะ? น้ำเสียงจริงจังเชียว?)
"เงินที่พี่บอกว่าพี่น้ำหนึ่งจะคืน...คืนหรือยังคะ?" แคร์ถามสรัล
(เอ่อ ยังเลย)
"ทำไมยังไม่ได้อีกคะพี่สรัลเงินมันไม่ใช่น้อย ๆ นะคะที่จะให้พี่น้ำหนึ่งเอาไปแถมมันยังเป็นเงินของคนเราสองคนอีกอะ!!" เมื่อได้ยินอย่างนั้นแคร์ก็โวยวายทันทีโดยไม่กลัวเลยว่าใครจะมาได้ยินเข้า
(คือว่าตอนนี้น้ำหนึ่งกำลังวุ่นวายกับงานประชุมหนูก็รู้นิพี่ถามน้ำหนึ่งแล้วหนึ่งบอกว่าจะคืนให้หลังประชุม หนูไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่ะหนึ่งรักพี่จะตายยังไงก็คืนอยู่แล้ว)ความจริงเขายังไม่ได้ถามเธอเพราะเห็นว่ากำลังยุ่ง ๆ เลยไม่อยากขัดจังหวะเพราะรู้ว่าน้ำหนึ่งเป็นคนจริงจังกับงานมาก ๆ
"หึ!!พี่น้ำหนึ่งรักพี่แล้วพี่รักเธอไหมคะ?"
(จะบ้าเหรอหนูแคร์?)
(ตอนนี้พี่รักหนูจะไปรักหนึ่งทำไมตอนนี้มันแค่ผลประโยชน์เท่านั้นแหละ ถ้าหนึ่งไม่มีประโยชน์พี่ก็เลิกไปนานแล้วหนูไม่ต้องกลัวว่าพี่จะยังรักหนึ่งหรอกพี่ไม่เคยรักหนึ่งเลยด้วยซ้ำ)
"ค่ะ ได้ยินอย่างนั้นก็สบายใจหน่อยแต่ไม่ว่ายังไงพี่ก็ต้องเอาเงินคืนมาให้ได้ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตามไม่อย่างนั้นแคร์จะทวงเอง!" ติ๊ด! แคร์วางสายจากสรัลก่อนจะกลับเข้าไปในงานประชุมอีกครั้งตอนนี้การประชุมช่วงบ่ายได้เริ่มขึ้นแล้ว
เวลาต่อมา...
งานประชุมผ่านไปด้วยดีแม้ว่าเบื้องหลังมันจะวุ่นวายและน้ำหนึ่งต้องวิ่งแก้ปัญหาไปทั่วงานแต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็จบอย่างสวยงาม เมื่อการประชุมจบลงก็มีการมอบของขวัญให้คณะผู้บริหารที่มาร่วมงานวันนี้ก่อนจะส่งกลับขึ้นรถไปจนหมด
"ขอบคุณมากนะคะที่มาวันนี้^^"
"คุณน้ำหนึ่งจัดการงานประชุมได้ดีมากครับสมแล้วที่เป็นเลขามือหนึ่งของท่านประธาน งั้นผมกลับก่อนนะครับ แล้วเจอกันครับท่านประธาน" เหล่าคณะผู้บริหารบอกลา
"เดินทางปลอดภัยครับทุกท่าน" ปุณณ์กล่าวลาก่อนจะมองรถหลายคันเคลื่อนที่ออกจากหน้าบริษัทปุณณา
"เฮ้อออ! เสร็จสักที" น้ำหนึ่งถอนหายใจและหันไปมองหน้าของปุณณ์ที่กำลังมองเธออยู่เช่นกัน
"วันนี้เหนื่อยน่าดูเลยนะคุณหนึ่งทำได้ดีมากครับ" ปุณณ์ไม่เขินอายที่จะเอ่ยชมเลขาของเขาเพราะเธอทำงานได้ดีจริง ๆ เขารู้ว่าวันนี้เธอต้องตามเก็บงานที่แคร์ได้ทำเอาไว้มากมาย
"ทุกคนช่วยกันต่างหากค่ะ วันนี้ตอนเย็นหนึ่งนัดน้อง ๆ ไว้ไปทานข้าวกันท่านประธานจะไปด้วยไหมคะ?" น้ำหนึ่งถามปุณณ์
"อืม ไปสิยังไงงานวันนี้ก็ไม่มีอะไรอยู่แล้วเดี๋ยวผมเลี้ยงเองไปเรียกทีมของคุณหนึ่งมาเถอะครับ"
"ค่ะ ^^" และน้ำหนึ่งก็ส่งข้อความหาทีมงาน SC เพื่อให้ไปที่ร้านได้เลย
"หนึ่ง!!" และเสียงสรัลก็ดังขึ้นทำให้น้ำหนึ่งและปุณณ์หันไปมองโดยพร้อมกัน
"สรัล...มีอะไรเหรอ?"
"เอ่อ สวัสดีครับท่านประธานผมขอตัวของน้ำหนึ่งสักครู่ได้ไหมครับ?" สรัลพูดกับปุณณ์อย่างสุภาพ
"เชิญครับ แล้วเจอกันที่ร้านนะครับคุณหนึ่ง" แม้ว่าภายในใจของเขาจะไม่ได้อยากไปและไม่อยากให้เธอคุยกับสรัลก็ตามแต่ว่าตอนนี้ทั้งคู่ยังคงคบกันอยู่จะเอาสิทธิ์อะไรไปห้ามได้ละ
"ค่ะท่านประธาน" และปุณณ์ก็แยกออกไปก่อน
"หนึ่ง..." เมื่อปุณณ์เดินไปไกลแล้วสรัลก็เรียกน้ำหนึ่งอีกครั้งภายในใจเขาค่อนข้างร้อนร้น
"มีอะไรเหรอสรัล?"
"เอ่อ ที่เราไปดื่มกันวันนั้นน่ะหนึ่งบอกว่าจะค*****นให้สรัลใช่ไหมแล้วจะได้เมื่อไหร่เหรอว่าจะถามหลายวันแล้วแต่เห็นว่าหนึ่งยุ่ง ๆ เลยไม่ได้ถามน่ะ"
"เงินอะไรเหรอ?" น้ำหนึ่งถามกลับไปตาใส
"กะก็ที่เราไปร้านมาดื่มมาดริ๊งวันนั้นหนึ่งบอกว่าจะจ่ายคืนให้ ๆ สรัลออกไปก่อน"
"อ่อออ หนึ่งพูดอย่างนั้นจริง ๆ " น้ำหนึ่งทำท่าทางคิดออกนั้นทำให้สรัลรู้สึกสบายใจขึ้นมา
"นั้นแหละ ๆ สรัลจะขอคืนเลยได้ไหมสรัลคิดว่าหนึ่งจะรูดแค่ค่าเครื่องดื่มไม่คิดว่าจะทิปเด็กเสิร์ฟด้วยเป็นแสนเลยนะหนึ่ง" สรัลหน้าซีดนิดหน่อยเมื่อพูดถึงเงินและเขาก็ไม่ได้อยากฟังแคร์บ่นแล้วด้วย
"หนึ่งก็คิดว่าสรัลจะไม่เอาซะอีก หลังจากรูดเสร็จหนึ่งก็ย้ำอีกครั้งว่าจะคืนให้แต่ว่าสรัลบอกว่าไม่ต้อง ๆ น่ะ ท่าทางจะเมามากจนจำไม่ได้เลยนะเนี่ย" น้ำหนึ่งโกหกตาใสอย่างสร้างเรื่อง
"สะสรัลพูดอย่างนั้นเหรอ?" เขาถามอย่างไม่มั่นใจ
"อืม! หนึ่งไม่ได้เมานะหนึ่งไม่โกหกหรอกและอีกอย่างเงินทิปให้เด็กเสิร์ฟสรัลก็เป็นคนให้เองหนึ่งไม่ได้ให้สักหน่อย"
"ไม่ ๆ ๆ ต่อให้สรัลเมาก็จำได้ว่าวันนั้นหนึ่งบอกว่าจะคืนนิ!!" เขาริ่มเสียงดัง
"ก็ใช่หนึ่งบอกแต่สรัลบอกว่าไม่ต้องคืนเอง หนึ่งก็เลยคิดว่าไม่ต้องคืนจริง ๆ ไม่คิดว่าจะมาทวงกันแบบนี้..." น้ำหนึ่งตีหน้าเศร้าทันที
"เอ่อ ก็ตอนนั้นสรัลเมาน่ะแต่ที่จำได้คือหนึ่งจะคืน"
"อ่อ...หนึ่งคิดว่าสรัลเป็นคนพูดจริงนะเนี่ยไม่คิดว่าจะกลับคำแบบนี้..." เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
"ก็คนมันเมาไง!!" สรัลเสียงดังใส่เธอ
"ฮึก! งะงั้นหนึ่งจะคืนให้แล้วกันไม่คิดเลยว่าสรัลจะคิดมากเรื่องเงินกับหนึ่งแบบนี้ทั้งที่เราเป็นแฟนกันแท้ ๆ เงินแค่นี้ถ้าเทียบกับที่หนึ่งเคยให้มันเล็กน้อยมากแท้ ๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกหนึ่งจะคืนให้..." น้ำหนึ่งพูดไปปาดน้ำตาไป
"เดี๋ยวผมคืนให้เองครับ ไม่ต้องร้อง" ปุณณ์ที่ไม่ได้ไปไหนตั้งแต่แรกเขาก็แสดงตัวออกมาและบอกว่าจะชดใช้ให้สรัลแทนเธอเอง
"ทะท่านประธาน"
"ผมก็ไม่คิดเลยนะครับเนี่ยว่าคุณสรัลจะคิดเล็กคิดน้อยกับแฟนตัวเองแบบนี้ด้วย"
"มันตั้งแสนนะครับท่านประธาน!"
"ได้ยินว่าคุณหนึ่งจองรถให้คุณราคาเป็นล้านแต่คุณกลับมาทวงเงินราคาหลักแสนเนี่ยนะครับ เป็นผม...ผมไม่ทำนะครับเนี่ย" ยิ่งปุณณ์พูดสรัลก็ยิ่งรู้สึกอับอาย
"งั้นหนึ่งต้องให้สรัลแล้วก็ได้! ยังไงเราก็ต้องแต่งงานกันนิเนอะเงินผัวก็เหมือนเงินเมียนั่นแหละ" สรัลพูดอย่างกัดฟันและมองหน้าของปุณณ์
"แล้วสรัลมีใช้เหรอ??" น้ำหนึ่งถาม
"มีสิ! ถึงจะไม่เยอะเท่าท่านประธานแต่สรัลเลี้ยงหนึ่งได้แน่นอน วันนี้จะไปงานเลี้ยงกับทีมใช่ไหม?"
"ใช่"
"งั้นก็กลับบ้านดี ๆ นะ สรัลคงไม่วางไปรับไปส่ง"
"ไม่เป็นไรหรอกสรัลก็กลับบ้านดีๆ นะ"
"ครับ" และสรัลก็เดินแยกออกไปจากทั้งสองคน น้ำหนึ่งและปุณณ์มองเขาที่เดินออกไปจนลับตา
"งั้นเราก็ไปกันเถอะครับคุณหนึ่ง"
"ค่ะ"