สองวันต่อมา...
บริษัทปุณณา จำกัด
ห้องประชุมใหญ่
"เจมส์เตรียมงานเป็นยังไงบ้างใกล้เวลาคณะผู้บริหารจะมาแล้วนะ?" น้ำหนึ่งถามเจมส์ผ่านไวเลสวันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของคณะผู้บริหารแล้ว น้ำหนึ่งและทีมต้องเตรียมงานตั้งเมื่อคืนนี้จนถึงเช้าและตอนนี้คณะผู้บริหารที่ร่วมประชุมก็ใกล้เดินทางมาถึงแล้ว
"เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ทีมงานเตรียมตัวสแตนบายเรียบร้อยแล้วถ้าคณะผู้บริหารเข้ามาจะมีการแจกของว่างก่อนและจากนั้นอีกประมาณ 10 นาทีการประชุมจะเริ่มขึ้นครับ" เจมส์ตอบกลับมา
"โอเคร! ดีมาก มิน..." ต่อไปก็เป็นมินที่ดูแลเรื่องอาหาร
"ครับพี่น้ำหนึ่ง?"
"อาหารเป็นยังไงบ้างแล้วก็แคร์...ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการแพ้อาหารไปแล้วใช่ไหม?" น้ำหนึ่งถามเพราะว่าเธอมอบหมายให้แคร์นั้นไปดูข้อมูลมาว่ามีใครแพ้อาหารประเภทอะไรบ้างมาแล้ว และแคร์ต้องให้ข้อมูลนั้นกับมินเพื่อเตรียมอาหารแยกไว้ต่างหาก
"ขะขอโทษค่ะพี่น้ำหนึ่ง!" แต่เสียงของแคร์ก็แทรกไวเลสเข้ามาด้วน้ำเสียงร้อนรน
"มีเรื่องอะไร?"
"แคร์ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้มาอาหารมาครับ" มินเป็นคนตอบปัญหาที่เกิดขึ้นมา
"ขอโทษจริง ๆ นะคะพี่น้ำหนึ่ง..."
"เดี๋ยวพี่ไปหานะมิน ส่วนแคร์ไปเตรียมสไลด์การพรีเซ้นกับจอยด้วย" น้ำหนึ่งต้องเก็บความโมโหเอาไว้ก่อนเพราะว่าตอนนี้มันเป็นเวลาแก้ปัญหามากกว่า น้ำหนึ่งรีบไปหามินที่ตอนนี้กำลังเตรียมอาหารอยู่ ดีที่ว่าตอนเช้านี้เป็นเพียงอาหารว่างเท่านั้นซึ่งเป็นขนมและกาแฟที่คณะบริหารสามารถเลือกทานเองได้แต่ว่าอาหารกลางวันนั้นจะเหมือนหรือว่าคล้ายกันเกือบหมดและตอนนี้อาหารก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย
ห้องเตรียมอาหาร
"พี่น้ำหนึ่งครับเราทำยังไงดีครับตอนนี้อาหารเตรียมไว้หมดแล้วด้วยและใครแพ้อะไรเราก็ไม่ทราบ ทำไมแคร์ทำงานได้แย่ขนาดนี้เนี่ย?!" มินเห็นหน้าของน้ำหนึ่งที่เดินเข้ามาก็รีบถามทันทีก่อนจะพูดจาอย่างอารมณ์เสียถึงแคร์ที่ไม่ได้ให้ข้อมูลกับเขาเลย
"ไม่เป็นไรใจเย็นก่อน" พรึ่บ! น้ำหนึ่งพูดและยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งให้มิน
"อะไรเหรอครับ?"
"มันเป็นข้อมูลของคณะผู้บริหารที่แพ้อาหารพี่ฝากมินจัดการหน่อยนะอะไรที่เป็นพิเศษของแต่ละคนก็แยกเอาไว้ต่างหากด้วย"
"พี่น้ำหนึ่งเอามาจากไหนครับ?"
"ไม่มีอะไรที่พี่ไม่รู้หรอกนะและข้อมูลพวกนี้พี่ก็เตรียมเอาไว้เฉย ๆ ไม่คิดว่าจะได้ใช้ยังไงก็รบกวนเตรียมอาหารของคนที่แพ้อาหารเพิ่มเติมด้วยนะ เดี๋ยวพี่ต้องไปรับคณะผู้บริหารกับท่านประธานก่อน" หมับ! น้ำหนึ่งจับไหล่ของมิน
"ไม่ต้องเป็นห่วงครับเดี๋ยวผมจัดการเอง"
"ฝากด้วยนะมิน" และน้ำหนึ่งก็ออกมาจากห้องเตรียมอาหารของวันนี้แม้ว่าจะเธอจะรู้สึกหงุดหงิดก็ตามแต่ว่าต้องให้งานนี้ผ่านไปด้วยดีซะก่อน
เวลาต่อมา...
"สวัสดีครับครับเดี๋ยวเชิญทุกท่านทานอาหารว่างยามเช้าก่อนนะครับ เดี๋ยวอีกสิบนาทีค่อยเริ่มกันวันนี้สบาย ๆ หน่อยครับ" เวลานี้คณะผู้บริหารเริ่มทยอยกันมาแล้วและปุณณ์ก็ต้อนรับทุกท่านอย่างเป็นกันเอง แม้ว่าเขาจะเป็นประธานบริษัทก็ตามแต่กลุ่มคนตรงหน้าก็เป็นคนสำคัญที่ทำให้เขาได้เป็นประธานบริษัทเพราะได้รับการสนับสนุนจากพวกเขานั่นเอง
"วันนี้จัดการงานได้ดีตามเคยนะคะ" คุณหญิงโสภาเดินมาทักทาย
"ขอบคุณครับเพราะว่าทีม SC ของเราเลยทำให้การประชุมครั้งนี้เริ่มต้นได้ดีและหวังว่าจะสวยงามจนจมการประชุมน่ะครับ" ปุณณ์ไม่ลืมที่จะชมทีมงานของเขาที่ทำงานกันอย่างเต็มที่
"นั่นสินะเพราะว่าบริษัทเราได้คนทำงานเก่ง ๆ อย่างคุณน้ำหนึ่งด้วย เมื่อคืนคงนอนดึกน่าดูเลยสินะคะ" คุณหญิงโสภาหันไปพูดกับน้ำหนึ่ง
"นิดนึงค่ะแต่เพื่อให้งานราบรื่นหนึ่งเองก็ยินดีจะอดนอนค่ะ ถ้าหนึ่งไม่โทรหาคณะบริหารทีละคน..." น้ำหนึ่งปาดตามองแคร์ที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล
"ก็คงไม่รู้ว่ามีคณะบริหารตกหล่น หนึ่งต้องขอโทษด้วยนะคะที่แจ้งไปแบบกะทันหันเลย" น้ำหนึ่งยกมือไหว้ขอโทษคุณหญิงโสภา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะดีหน่อยที่ยังโทรมาช่วงกลางดึกถ้าเช้าเลยเนี่ยคงจะเตรียมตัวไม่ทัน"
"เดี๋ยวเชิญด้านในก่อนนะครับการประชุมจะเริ่มแล้ว" ปุณณ์พูดกับคุณหญิงโสภา
"ค่ะ" แล้วคุณหญิงโสภาก็เดินเข้าห้องประชุมไป
"มีเรื่องอะไรกัน?" ปุณณ์หันมาถามน้ำหนึ่ง
"พอดีว่าเมื่อวานนี้หนึ่งโทรหาคณะบริหารเพื่อคอนเฟิร์มอีกครั้งแต่ปรากฏว่าคุณหญิงโสภาเป็นรายชื่อตกหล่นน่ะค่ะ ท่านไม่ทราบว่ามีการประชุมวันนี้ดีที่หนึ่งโทรไปถามสอบก่อนไม่อย่างนั้น ไม่อยากจะคิดเลยคะว่ามันจะเป็นยังไง?" เพราะว่าคุณหญิงโสภาเป็นคณะผู้บริหารและผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัทเลยก็ว่าได้ถ้าท่านไม่พอใจหรือว่าโกรธบริษัทอาจจะมีปัญหาได้น่ะสิ
"ขอบคุณนะครับที่ทำงานให้ผมอย่างดี"
"มันเป็นหน้าที่ของหนึ่งอยู่แล้วค่ะ^^" น้ำหนึ่งยิ้มให้ปุณณ์
"งั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมตัวก่อนนะครับ"
"ค่ะ ตอนนี้จอยน่าจะกำลังรออยู่แล้วค่ะ" น้ำหนึ่งก็แยกกับปุณณ์และเดินไปหาแคร์ที่ยืนอยู่ทั้งที่ตอนนี้เขากำลังวุ่นวายกันทุกคนแต่ว่าเธอกลับมายืนอยู่ตรงนี้
"พี่น้ำหนึ่ง..."
"มายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้พี่ให้เราไปช่วยจอยไม่ใช่เหรอ?" น้ำหนึ่งถามแคร์
"เอ่อ จอยบอกว่าไม่เป็นไรค่ะเธอทำคนเดียวได้เพราะว่าแค่เตรียมสไลด์แคร์เลยมาต้อนรับคณะผู้บริหารช่วยน่ะค่ะ แล้วก็รอคุณพ่อด้วย"
"อ่า~ พ่อของแคร์เองก็เป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารสินะ" น้ำหนึ่งทำท่านึกอะไรบางอย่างออก
"ใช่ค่ะ^^"
"แถมยังถือหุ้นน้อยสุดด้วย" พอน้ำหนึ่งพูดแบบนั้นออกไปแคร์ก็หุบยิ้มทันทีเพราะรู้สึกไม่พอใจ
"พี่น้ำหนึ่งทำไมพูดแบบนั้นละคะจะถือหุ้นเยอะหรือน้อยแต่ก็เป็นบุคคลสำคัญไม่ใช่เหรอคะ?"
"พี่แค่แซวน่ะเพราะว่าวันนี้งานมันวุ่นวายเกินไปหน่อย ไหนจะรายชื่อไม่ครบ อาหารที่แพ้ไม่มีข้อมูลเตรียมไว้อีกนี่ขนาดยังไม่เริ่มยังเหนื่อยขนาดนี้ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรอีกเพราะงั้นพี่ก็เลยพูดหยอกขำ ๆ น่ะ ขอโทษนะถ้าทำให้ไม่สบายใจ"
"พี่เหนื่อยก็ไม่ควรเอาอารมณ์ลงคนอื่นสิคะ?"
"งานที่วุ่นวายมันก็เพราะใครละ?" น้ำหนึ่งมองหน้าของแคร์
"...!!"
"อย่าให้พี่พูดตอนนี้เลยมันจะดูไม่ดีแต่ว่าแคร์น่าจะรู้ตัวนะว่าทำอะไรเอาไว้" น้ำหนึ่งมองหน้าของแคร์อย่างไม่พอใจแบบเปิดเผย
"พะพี่น้ำหนึ่งแคร์ขอโทษ..." พอรู้ว่ากำลังโดนจับได้แล้วแคร์ก็รีบขอโทษด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
"เอาไว้คุยกับท่านประธานหลังจบงานแล้วกันนะ" น้ำหนึ่งพูดจบก็ออกมาจากตรงนั้นทันทีเลยเพราะว่าเธอไม่อยากมองหน้าของแคร์อีกแล้ว
และการดำเนินการประชุมก็เริ่มขึ้นซึ่งมันสามารถผ่านไปด้วยดีการเตรียมตัวตลอดเกือบ 1 เดือนของทีม SC สร้างความพอใจให้คณะผู้บริหารมาก ๆ ปุณณ์เองก็ทำหน้าที่ประธานบริษัทได้ดีเขานำเสนอแผนงานของปีนี้และปีหน้าได้อย่างมืออาชีพ
"รายได้ของเราปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 300% เลยครับและผมคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ขอบคุณคณะผู้บริหารและถือหุ้นที่เชื่อใจผมให้บริหารงาน ทำให้บริษัทเติบโตไปข้างหน้านะครับ ขอบคุณจริง ๆ "
"เราวางใจและคิดว่าเลือกถูกแล้วค่ะ" หนึ่งในคณะผู้บริหารพูดขึ้น
"ขอบคุณครับเดี๋ยวเราจะพักเที่ยงกันก่อน ทีม SC ได้เตรียมอาหารไว้แล้วยังไงก็พักเหนื่อยกันก่อนนะครับ"
แปะ! แปะ! แปะ! เสียงตบมือดังขึ้นเมื่อการประชุมครึ่งแรกจบลง...
"พี่น้ำหนึ่ง!" และจอยก็เข้ามาหาน้ำหนึ่งหน้าตาตื่นซึ่งทำให้น้ำหนึ่งคิดในใจว่า...'เรื่องอะไรอีกเนี่ย?'
"ว่าไงจอย?"
"แฟลชไดร์ฟการประชุมช่วงบ่ายมันหายไปค่ะ!"
"...!!!"