คลินท์เดินออกมาจากห้องทำงานเกือบจะห้าทุ่ม แต่ความสงบเงียบซึ่งดูผิดปกติไปทำให้ชายหนุ่มต้องเรียกหาเลขาหนุ่มที่เฝ้ารอคำสั่งสุดท้ายอย่างเช่นทุกคืนก่อนที่จะกลับไปพักผ่อน
“นิลินหลับแล้วเหรอ”
“เปล่าครับ คุณนิลินออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยครับ”เบนลีกล่าวรายงานอย่างนอบน้อม
“อะไรนะ จนป่านนี้แล้วยังไม่กลับอีกเหรอ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า”
ชายหนุ่มรู้สึกตกใจเมื่อคิดถึงเรื่องร้ายๆที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอ แต่แล้วความห่วงใยของเขาก็ต้องถูกพับเก็บแทบจะทันทีที่เลขากล่าวรายงานเพิ่มเติม
“ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณนิลินหรอกครับ คนของเรารายงานมาว่าคุณนิลินกำลังดูหนังอยู่กับเพื่อนครับ”
“ดูหนังกับเพื่อน จนป่านนี้เนี่ยนะ!”
คลินท์ถามเสียงดัง ใบหน้าหล่อเหลาเข้มขึ้นตามอารมณ์ที่เริ่มกรุ่นๆ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหล่อนบอกว่าจะรีบกลับ แต่ดูเหมือนรีบกลับของเธอจะสวนทางกับเวลาที่เธอพูดถึงอย่างสิ้นเชิง
“ท่านจะให้คนของเราตามตัวกลับมาเลยไหมครับ”
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้ดูหนังไป ขอแค่อย่าไปก่อเรื่องที่ไหนก็พอ”
“ครับท่าน…เอ่อ…แล้วท่านจะทานอะไรไหมครับ ผมจะสั่งมาให้”
“ไม่ต้อง นายกลับไปพักเถอะ ถ้าฉันอยากทานอะไรจะจัดการเอง”
คลินท์ปฏิเสธพลางส่ายหน้า ก่อนจะเดินเลยเข้าห้องนอนใหญ่พร้อมบ่นกับตัวเอง
“ไม่รู้ว่าฉันคิดถูกหรือคิดผิด ที่ปล่อยเธอออกไปข้างนอก ไม่น่าหลงกลเธอเลย ยายเด็กแสบ!”
คลินท์บ่นอย่างหงุดหงิด เพราะตอนนี้เหมือนจะถูกเด็กหลอกให้เสียแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของเธอเพราะเขาเองเป็นคนรับเธอมาอยู่ด้วย ทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่เคยให้ใครมาอยู่ด้วย แม้แต่คู่หมั่นเขาก็จะเรียกพบเธอมาในยามที่ต้องการใช้ประโยชน์เท่านั้น
ทางด้านพลอยไพลิน ตอนนี้กำลังเดินออกจากโรงหนังด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เพราะวันนี้เธอใช้เวลากับห้างสรรพสินค้าทั้งวันด้วยบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินของชายหนุ่มอย่างมีความสุข หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าจนเต็มไม้เต็มมือการ์ดทั้งสองแล้วก็ต่อด้วยหาอะไรอร่อยๆทาน และตบท้ายด้วยดูหนังเรื่องที่เธออยากดู
“ดูหนังผีไปแบบนี้ แล้วคืนนี้แกจะนอนคนเดียวได้เหรอยายพลอย”
ไข่มุกเอ่ยถามเพื่อนสาวหลังจากที่ทั้งสองเลือกดูหนังผีจบลง ซึ่งเป็นรสนิยมของทั้งสองที่ชอบดูหนังแนวสยองขวัญ แต่หลังจากดูจบนี่สิ ต้องกลายเป็นปัญหาทุกที ปกติถ้าพลอยไพลินอยู่บ้านก็จะให้พี่เลี้ยงมานอนด้วย แต่ตอนนี้มันไม่ปกติเพราะหญิงสาวไม่ได้อยู่บ้าน
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีเพื่อนนอนแล้ว”
เสียงหวานใสตอบเพื่อนสาวพร้อมกับคิดถึงบุคคลที่เธอพูดถึงด้วยใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ้ม
“แกอย่าบอกนะว่าจะนอนกับเสี่ย!”
“ใช่! นอนกับป๋าแหละปลอดภัยสุด แกก็รู้นี่ว่าเขาเป็นอะไร รับรองฉันไม่ถูกกวนแถมยังหลับสนิทถึงเช้าเลย”
ท่าทางมั่นอกมั่นใจของเพื่อนสาวทำให้ไข่มุกคลายกังวลลง
“งั้นก็ขอบใจมากนะสำหรับเสื้อผ้ารองเท้าที่แกซื้อให้วันนี้”
ไข่มุกเอ่ยอย่างซึ้งใจ เพราะพลอยไพลินไม่เพียงแต่จะช้อปในส่วนของเธอ แต่เพื่อนสาวยังใจดีช้อปเผื่อเธอด้วย โดยเฉพาะเสื้อผ้าสวยๆราคาแพงหูฉี่ที่เธอคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้สวมใส่
“ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่ และอีกอย่างแกก็สมควรจะได้รับ อย่าลืมสิว่าผู้หญิงต้องคู่กับสิ่งสวยๆงามๆ”
“แต่เชื่อเถอะว่าถ้าฉันกลับถึงบ้านแม่ต้องด่าแน่ๆ”
“แกก็บอกคุณน้าไปสิว่าเป็นของขวัญย้อนหลังวันเกิดจากฉัน รับรองคุณน้าไม่ด่าหรอก”
หลังพูดจบสองสาวก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลอยไพลินแนะนำแบบนี้ และก็ดูเหมือนจะใช้ได้ผลทุกครั้งไป
หลังจากส่งเพื่อนสาวถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว พลอยไพลินก็กลับคอนโดโดยมีการ์ดทั้งสองตามประกบไม่ห่าง โดยที่เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าตลอดเวลามีชายฉกรรจ์อีกกลุ่มที่บิดาของเธอส่งมาตามเธอเช่นกัน แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่ามองดูเธออยู่ห่างๆเท่านั้น เพราะยังหาจังหวะชิงตัวเธอไม่ได้นั่นเอง
“มีอะไรหรือเปล่านิลิน ถึงได้มาเคาะประตูผมดึกๆ”
คลินท์เปิดประตูห้องนอนออกมา พร้อมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมายืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง เขาคิดว่าเธอยังไม่กลับมาซะอีก เพราะเบนลีเพิ่งรายงานว่าเธอกำลังดูหนังกับเพื่อน ก่อนที่จะกลับไปพักผ่อน
“หนูขอมานอนกับป๋าได้ไหมคะ”
“มานอนกับผม”
คลินท์เลิกคิ้วถามด้วยความตกใจเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบกวาดมองร่างอรชรตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่ไว้วางใจสักเท่าไหร่ เพราะชุดนอนผ้าลื่นสายเดี่ยวสีครีมคลุมถึงเข่าแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน ไม่รู้ว่าเธอต้องการยั่วเขาหรือต้องการแกล้งเขากันแน่ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เธอทำได้สำเร็จเพราะตอนนี้ร่างกายเขากำลังตื่นอย่างเงียบๆภายใต้ร่มผ้าหนา
“ค่ะป๋า พอดีหนูไปดูหนังผีมาก็เลยไม่กล้านอนคนเดียว คืนนี้ขอมานอนด้วยนะคะป๋า นะๆๆๆ”
คลินท์อยากจะปฏิเสธหัวชนฝาแต่เมื่อเห็นแววตาออดอ้อนราวกับแมวน้อยที่ทำตาเชื่อมอ้อนเจ้านายหัวใจของเขาก็อ่อนยวบทันที และคำพูดที่ตั้งใจจะปฏิเสธกลับกลายเป็น
“เอ่อ…ก็ได้”
ตอบออกไปแล้วอยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด หมดกันไอ้คลินท์ แล้วคืนนี้จะอดใจไหวไหมเนี่ย
“ป๋าน่ารักที่สุดเลย”
พลอยไพลินบอกพร้อมกับยิ้มหวานให้คนน่ารักโดยไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มสว่างไสวนั้นจะไปกระตุกหัวใจของชายหนุ่มอย่างรุนแรงชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน คลินท์เพิ่งตระหนักได้ว่า…เธอคนนี้ยิ้มสวยกว่าใครๆที่เขาเคยพบเจอ แถมยังดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาและจริงใจจนเขาไม่กล้าคิดหักหาญน้ำใจเธอได้ลง
“ป๋ารู้ตัวหรือเปล่าคะ…ว่านอกจากป๋าจะมีหน้าตาที่ดีมากแล้ว ยังเป็นผู้ชายอบอุ่น ใจดีอีกต่างหาก ผู้ชายแบบนี้แหละที่อยู่ในสเปกของผู้หญิงหลายๆคน หนูกล้าฟันธงได้เลยว่าหากมีผู้หญิงได้ลองอยู่ใกล้เกินครึ่งวันเป็นอันต้องหลงเสน่ห์ป๋าทุกราย”
เมื่อได้ขึ้นมานอนบนเตียงกับเขาแล้วพลอยไพลินก็เอ่ยขึ้นขณะที่จ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างจริงจัง นิ้วเรียวถือวิสาสะจับแก้มสากบี้ไปมาด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยว เห็นหนวดเคราเขาทีไรทำให้คิดถึงน้องหมาที่บ้านทุกที ไม่รู้ว่าป่านนี้มิกกี้สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวจิ๋วที่เธอทั้งรักทั้งหวงเป็นยังไงบ้าง รู้งี้ก่อนออกจากบ้านน่าจะเอามาด้วย จะได้ไม่ต้องทนคิดถึงอยู่แบบนี้
“เพราะรู้ตัวไงถึงได้ตั้งกฎไว้ว่าห้ามตกหลุมรักผมเด็ดขาด! หวังว่าคุณจะจำข้อตกลงของเราได้นะนิลิน”
คำตอบที่ไม่คิดจะถ่อมตนแถมคำถามเหมือนต้องการย้ำสติเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกหน้าชาวาบขึ้นมา แต่ด้วยการที่เธอไม่ชอบปิดบังความรู้สึกเลยบอกกับเขาไป
“หนูยอมรับนะคะว่าชอบป๋าตั้งแต่ครั้งแรกพบ แต่ความรู้สึกตอนนี้มันน่าจะเป็นหลงมากกว่า ป๋าไม่ต้องกังวลหรอกน่าว่าหนูจะหลงรักป๋า เพราะถ้าหนูเกิดรักป๋าขึ้นมาจริงๆหนูก็ถอยเองแหละ”
“ให้มันจริงเถอะ แล้วก็หยุดบี้แก้มผมได้แล้ว มันเจ็บ”
“ก็ป๋าน่ารักนี่ เห็นหน้าป๋าทีไรคิดถึงมิกกี้ทุกที”
“มิกกี้! ใครคือมิกกี้”
คิ้วดกขมวดถามด้วยความสงสัยทีแรกเขาเข้าใจว่าเป็นคนรักของเธอหรือไม่ก็ผู้ชายที่เธอกำลังดูใจตามประสาวัยรุ่น แต่แล้วคำตอบที่ได้รับกลับทำให้แทบสำลักน้ำลายตัวเอง
“น้องหมาที่บ้านค่ะ มีขนปุยๆนุ่มๆน่ารักน่าเอ็นดู…”
“นี่เอาผมไปเทียบกับหมาเลยเหรอ ให้ตายเถอะนิลิน คุณคิดได้ยังไงเนี่ย!”
คลินท์อยากจะจับลำคอระหงมาบีบให้หายแค้นแต่ดวงตากลมโตที่มองเขากลับเต็มไปด้วยความเดียงสา ใสชื่อไร้จริตมารยาใดใด ทำให้เขาทำเธอไม่ลง
“ทำไมละคะ น่ารักดีออก”
‘น่ารักกับผีน่ะสิ’
“ตั้งแต่นี้ไปห้ามคุณมาบี้หน้าผมอีก เพราะผมไม่ใช่น้องหมาของคุณ”
คลินท์ตออกคำสั่งน้ำเสียงขุ่น รู้สึกหงุดหงิดที่หญิงสาวเอ็นดูเขาเหมือนน้องหมาที่บ้าน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกรู้สากับเสียงดุๆนั้น เพราะนอกจากจะไม่แสดงท่าทีเกรงกลัวแล้วยังเบียดตัวเข้ามาหาอกกว้างพร้อมสอดแขนเล็กรัดเอวสอบเขาไว้อย่างถือวิสาสะ
“หลับได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะป๋า คืนนี้ขอนอนกอดป๋าได้ไหมคะ”
‘ทำขนาดนี้แล้วยังต้องขออีกเหรอ ยายตัวแสบ!’
คลินท์คิดค้อนในใจขณะหลับตาลงอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับความดื้อรั้นปนขี้อ้อนของคนตัวเล็ก แต่กระนั้นก็ยังส่งเสียงในลำคออนุญาตเบาๆ
“อืม”