bc

เด็กเสี่ย

book_age18+
3.1K
ติดตาม
8.0K
อ่าน
เศรษฐี
จบสุข
มาเฟีย
ดราม่า
หวาน
ชายจีบหญิง
ฉลาด
นักสืบ
like
intro-logo
คำนิยม

พลอยไพลิน สาวน้อยวัยมหาวิทยาลัย เลือกประชดบิดาโดยการไปเป็นเด็กเสี่ย!

คลินท์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อ และรวยติดอันดับโลกต้องการจ้างสาวมาตบตามารดา

โดยมีกฏข้อห้ามสำคัญ คือ 'ห้ามตกหลุมรักโดยเด็ดขาด!'

แต่งานนี้จะทำได้หรือเปล่าต้องมาลุ้นกันนะคะ

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ 1 : กลุ่มเป้าหมาย
ในห้องทำงานขนาดใหญ่ ของเจ้าของบริษัทยาสูบรายใหญ่ที่ครองตลาดระดับโลก ตั้งอยู่ใจกลางรัฐแคนเบอร์รา ของประเทศออสเตรเลีย กำลังร้อนระอุไปด้วยบทสนทนาดุเดือดระหว่างชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย กับนางแบบสาวชื่อดังอดีตคู่หมั้นที่เขาจัดการถอดแหวนหมั้นโยนลงขยะไปไม่ถึงห้านาทีก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่หายใจเข้าออกช้าๆเพื่อควบคุมอารมณ์เดือดดาลที่กำลังพลุกพล่านให้สงบลง “ออกไปจากห้องนี้ซะ อย่าให้ผมต้องถึงกับเรียกการ์ดมาลากตัวคุณออกไปเลย” เสียงทุ้มทรงอำนาจออกคำสั่งไร้เยื่อใยเป็นภาษาอังกฤษราวกับทั้งคู่ไม่เคยมีอดีตความทรงจำที่ดีต่อการมาก่อน นางแบบสาวรีบคว้ากระเป๋าถือใบหรูราคาเฉียดล้านที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกเตี้ยๆ ก่อนที่จะออกจากห้องทำงานขนาดใหญ่โดยไม่เอ่ยอะไรใดใดให้รำคาญใจอีก แม้จะรู้สึกมีใจให้บุรุษเพศรูปงามตรงหน้ามากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร เพราะเธอถูกจ้างมาเป็นคู่หมั้นตบตาครอบครัวของเขาแต่โชคร้ายที่เธอดันตกหลุมรักเขาจนเผลอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเกินหน้าเกินตาจนต้องถูกไล่ออกกลางคันอย่างที่เห็น   คลินท์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเจ้าของบริษัทผลิตและจำหน่ายยาสูบรายใหญ่ของโลก วัยสามสิบห้าปี เอนตัวพิงหลังกับเก้าอี้ในขณะที่หลับตาลงอย่างช้าๆด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไล่พวกผู้หญิงที่เขาจ้างมาอยู่ด้วยให้ออกไปจากชีวิของเขา เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำๆจนเขารู้สึกชินชาไปเสียแล้ว ชีวิตของเขาไม่ต่างจากวีดีโอที่ถูกเปิดดูจนจบแล้วกลับมาวนดูใหม่ เพราะมันเป็นอยู่แบบนี้ตลอดระยะเวลาเกือบห้าปีที่เขาถูกกดดันเรื่องแต่งงานอย่างหนักจากผู้เป็นมารดา เหตุผลที่เขาต้องเลือกใช้วิธีนี้ก็เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัว หรือผูกมัดชีวิตไว้กับใครอย่างจริงจังนั่นเอง ฉะนั้นทางเลือกเดียวที่เขาจะทำเพื่อให้มารดาสบายใจคือจ้างแฟนกำมะลอหรือแม้กระทั่งคู่หมั้นกำมะลอตบตาผู้เป็นมารดานั่นเอง แต่พวกเธอก็มักจะทำพลาดเสมอ โดยเฉพาะการทำผิดกฎร้ายแรงที่เขาตั้งให้ ข้อที่ว่า ‘ห้ามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ และห้ามตกหลุมรัก เขาอย่างเด็ดขาด!’ แรกๆพวกเธอก็ตกลงอย่างง่ายดาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีเลยสักคนที่จะทำตามข้อตกลงได้ บางคนแค่ระยะทดลองงานก็ไม่ผ่านเสียแล้ว เห็นทีงานนี้เขาต้องแก้ไขข้อบกพร่องพวกนี้เสียใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มสาวๆที่เขาเลือก บางทีอาจมีช่องโหว่ที่เขาอาจจะยังไม่ทันได้คิดก็เป็นได้ ‘จากผลการวิจัยกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานจะมีความต้องการแต่งงานมีชีวิตคู่มากกว่ากลุ่มผู้หญิงในวัยเรียน ปัจจัยหลักๆมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นและความมั่นคงในหน้าที่การงาน  ทำให้กลุ่มผู้หญิงวัยทำงานส่วนใหญ่ต้องการมีครอบครัวลงหลักปักฐานอย่างจริงจัง จะแตกต่างจากกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นหรือวัยเรียนที่พวกเธอต้องการเพียงรักสนุกแต่ไม่ผูกพันหรือต้องการสร้างครอบครัวอย่างจริงจัง’ สิ้นเสียงในโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนผนังมุมหนึ่งของห้องทำงาน ชายหนุ่มก็กดปิดจอพร้อมโยนรีโมทลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้บังเอิญขนาดนี้ เขากำลังคิดไม่ตกเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ แต่พอเปิดโทรทัศน์ก็มีรายการทีวีพูดถึงผลการวิจัยเรื่องนี้อยู่ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่มาได้จังหวะพอดี ระหว่างที่เขากำลังนั่งเคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเพื่อใช้ความคิดอยู่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ชายหนุ่มเพียงเอ่ยอนุญาตแต่ไม่ได้สนใจหันไปมองเพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร “ท่านครับ เครื่องบินพร้อมแล้วครับ” เลขาหนุ่มที่มีนามว่าเบนลีกล่าวรายงานหลังจากที่เข้ามาในห้องทำงานหรู “อืม…ฉันพร้อมแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้เลย” คลินท์เอ่ยพร้อมทรงตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วพลิกข้อมือดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาแบรนด์หรูเพื่อคำนวณระยะเวลาที่จะถึงจุดหมายในใจ   สิบชั่วโมงต่อมา ณ ประเทศไทย บ้านไม้สักหลังใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาที่สลับซับซ้อนทางตอนเหนือของประเทศไทย ในฤดูหนาวแบบนี้จะมีวิวทะเลหมอกให้ชมในทุกๆเช้า คนที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ถือว่าโชคดีที่ได้สูดดมกลิ่นไอของธรรมชาติพร้อมกับได้รับอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มปอดในทุกๆวัน ภาพการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่โผล่มาตั้งแต่เช้ามืดไม่ได้สร้างความตกใจหรือแปลกประหลาดใจให้กับคุณนายจันทร์วาด หญิงวัยหกสิบปีบริบูรณ์ที่ยังคงความสวยสมบูรณ์แบบทั้งรูปร่างหน้าตาและกิริยาอ่อนหวานตามแบบฉบับสาวเมืองเหนือเลยสักนิด เพราะนางคุ้นชินเสียแล้วกับการปรากฏตัวของลูกชายในวันคล้ายวันเกิดของนางแทบจะทุกปี และที่สำคัญ มักจะมาทันเวลาตักบาตรร่วมกับนางเสมอ แม้จะอยู่ห่างกันคนละซีกโลกก็ตามที เช้านี้ก็เช่นกัน หลังจากรับพรจากพระเสร็จแล้วคุณนายจันทร์วาดก็ต้องเงยหน้าหันมาทางลูกชายที่มีความสูงกว่านางหลายเท่า “แม่บอกแล้วไงว่าถ้ายังหาสะใภ้ให้ไม่ได้ ก็ยังไม่ต้องมาให้เห็นหน้า” คุณนายจันทร์วาดเอ่ยเป็นภาษาไทยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เพราะถึงแม้คลินท์จะเกิดและเติบโตมาในต่างแดน แต่เขาก็สามารถสื่อสารภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่ต่างจากเจ้าของภาษาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แม้ว่าหน้าตาของเขาจะออกไปทางยุโรปเสียมากกว่าก็ตามที “ใครว่าผมหาสะใภ้ให้คุณแม่ไม่ได้ละครับ” คลินท์เอ่ยกับมารดาด้วยน้ำเสียงอ่อน “หมายความว่ายังไง? ปีนี้หาสะใภ้ได้แล้วเหรอ ไหนล่ะอยู่ไหน?” คุณนายจันทร์วาดถามลูกชายด้วยอาการตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด พยายามกวาดสายตามองหาหญิงสาวที่ลูกชายกำลังกล่าวถึง “ไม่ใช่ตอนนี้ครับคุณแม่ ครั้งนี้ผมมาคนเดียว แต่คราวหน้าผมจะพาเธอมาด้วย” “นี่แกคงไม่ได้หลอกให้แม่ดีใจเล่นใช่ไหม คลินท์” คุณนายจันทร์วาดดักคอไว้เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดตุกติกอยู่ “โถ่…คุณแม่” นักธุรกิจหนุ่มผู้เก่งกาจในการเจรจาธุรกิจเป็นพันๆล้านถึงกับอ่อนอกอ่อนใจเมื่อเจอความฉลาดของมารดา เพราะแบบนี้สินะเขาถึงโกหกมารดาไม่เคยได้เลยสักครั้ง อย่าว่าแต่เขาเลยแม้แต่บิดาของเขาเองที่ว่าร้ายกาจแล้วยังต้องยอมแพ้ให้กับผู้หญิงคนนี้ แต่นั่นไม่น่ากลัวเท่ากับความใจแข็งของนาง เพราะหากทำให้นางโกรธหรือโมโหขึ้นมาแล้วละก็ อย่าหวังที่จะได้รับโอกาสเป็นครั้งที่สอง ซึ่งเรื่องนี้บิดาของเขารู้ดีกว่าใคร ย้อนไปเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก ได้ประมาณห้าขวบ เขาจำได้ว่าท่านทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขนาดขอหย่าขาดจากกัน มารดาของเขาเรียกร้องทะเบียนหย่าโดยไม่สนเลยว่าเขายังเด็กอยู่และต้องการครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนอย่างครอบครัวของเพื่อนๆคนอื่นเขา แม้ว่าบิดาและเขาจะวิงวอนให้มารดาเปลี่ยนใจแค่ไหนนางก็ไม่ยอม จนในที่สุดบิดาของเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้และเซ็นใบหย่าให้ ก่อนที่นางจะบินกลับประเทศไทยและมาอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอน โดยตัดขาดจากสามีอย่างถาวร ตอนนั้นคลินท์ยังเด็กมาก ได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของมารดาที่ทิ้งเขาและบิดาไป แต่เมื่อเติบโตพอที่จะรับรู้อะไรมากขึ้น เขาก็ได้รับรู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วที่มารดาตัดสินใจหย่าเพราะบิดาแอบไปนอกใจ เมื่อนางถูกหักหลังจากคนรักก็ไม่มีอะไรที่จะเชื่อใจอีกต่อไป และนั่นจึงทำให้เขาเข้าใจเรื่องทุกอย่างและให้อภัยมารดา แต่น่าเสียดายที่บิดานั้นไม่มีโอกาสได้แก้ตัว เพราะนางไม่ยอมให้โอกาสกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต วันที่บิดาของเขาจากไปเมื่อสิบปีก่อน มารดาเลยยอมเดินทางไปร่วมงานศพและอโหสิกรรมทุกสิ่งให้ และนี่จึงเป็นต้นเหตุที่คลินท์ถูกเลี้ยงและเติบโตอยู่ต่างแดน นานๆทีจะได้กลับมาหามารดาสักครั้ง เพราะธุรกิจที่เขาต้องรับช่วงต่อจากบิดานั้นหนักหนาเอาการ ยิ่งธุรกิจเติบโตมากเท่าไหร่เวลาพักผ่อนของเขาก็น้อยลงตามไปด้วยเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้คุณนายจันทร์วาดเข้าใจลูกชายดี นางจึงไม่เรียกร้องให้ลูกชายเพียงคนเดียวกลับมาดูแล หรืออยู่ใกล้ชิดในวัยที่เริ่มแก่ชราลง อีกอย่างถึงคลินท์จะไม่ได้อยู่ใกล้ แต่เขาก็จ้างคนรับใช้มากมายไว้ให้จนคุณนายก็แทบจะไม่ต้องหยิบจับหรือทำอะไรด้วยตัวเอง เรียกได้ว่าถึงตัวไม่อยู่ แต่หน้าที่ลูกของเขาไม่ได้ขัดตกบกพร่องเลยสักนิด “ถ้าคราวนี้ยังโกหกแม่อีกละก็ อย่าหวังว่าจะได้รับโอกาสอีก” คำพูดของคุณนายจันทร์วาดทำให้นักธุรกิจผู้ไม่เคยต้องเกรงกลัวอะไรถึงกับสะดุ้งโหยงและเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางเอาจริงของผู้เป็นมารดา ชายหนุ่มต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง เห็นทีงานนี้เขาจะล้อเล่นไม่ได้เสียแล้ว เพราะขืนขัดใจนางอีกแค่ครั้งเดียวมีหวังเขาอาจจะไม่ได้มาเยียบที่นี่อีกเลยก็เป็นได้ ‘หาสะใภ้ให้แม่ว่ายากแล้ว แต่หาคนที่ถูกใจตัวเองนี่สิยากยิ่งกว่า’ คิดแล้วคลินท์ต้องถอนหายใจอย่างหนักอก “ที่ผ่านมาเห็นควงแต่สาวต่างชาติ แต่ก็ไม่เห็นลงเอยกับใครได้สักคน ถ้าสาวผมบลอนด์ไม่ถูกใจ ก็หาสาวไทยเนี่ยแหละ” แม้จะไม่เคยบังคับลูกชายเรื่องสาวๆ แต่ก็แอบเชียร์สาวไทยให้กับลูกชายอยู่ลึกๆ “แต่คุณแม่ก็รู้นี่ครับว่าผมไม่ค่อยได้มาไทย จะให้หาสาวไทยในต่างแดนยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสุทรเสียอีก” คลินท์พูดความจริง พร้อมทำหน้าละห้อย ซึ่งคุณนายจันทร์วาดเองก็พอจะเข้าใจ นางได้แต่มองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายด้วยความเห็นอกเห็นใจ  “ก็ไม่แน่นะ มาคราวนี้อาจจะเจอก็ได้ ได้ข่าวว่าจะมาอยู่ไทยนานเป็นเดือนเลยไม่ใช่เหรอ” “เบนลีบอกแม่ใช่ไหมครับ ไอ้หมอนี่เก็บความลับไม่เคยอยู่เลยจริงๆ ” คลินท์บ่นถึงเลขาหนุ่มน้ำเสียงไม่จริงจังนัก เพราะเขารู้ว่าตลอดเวลาเลขาส่วนตัวคอยแอบรายงานความเคลื่อนไหวของเขาให้กับมารดาทราบมาโดยตลอด แต่ที่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็เพราะรู้สึกดีที่ได้รับรู้ว่าลึกๆแล้วมารดาก็รักและเป็นห่วงเขาไม่ต่างจากแม่คนอื่นๆเหมือนกัน “มาทำงานอยู่ไทยเป็นเดือนต้องปิดเป็นความลับด้วยเหรอคลินท์” “เปล่าหรอกครับ ผมแค่อยากมาเซอร์ไพรส์คุณแม่ แต่เมื่อคุณแม่รู้แล้วผมก็อดเซอร์ไพรส์เลย” “ไม่ใช่เพราะกลัวแม่จะจับคลุมถุงชนกับสาวไทยหรอกเหรอ” คุณนายจันทร์วาดดักคอเอาไว้พร้อมทำตาขวางไม่เชื่อคำพูดของลูกชายสักเท่าไหร่ “ไม่ว่าผมจะทำหรือคิดอะไร คุณแม่ก็รู้ทันไปเสียทุกเรื่องเลยนะครับ” “ก็ฉันเป็นแม่แกนี่ ไม่ให้รู้ทันลูกตัวเองแล้วจะให้รู้ทันใคร” แม้น้ำเสียงจะกระด้าง แต่ก็แฝงไปด้วยความอาทร

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook