ด้านไป๋เหมยเหม่ยนั้นเมื่อกลับมาถึงร้านก็ไม่ได้พัก จวบจนยามบ่ายลูกค้าก็เริ่มบางตาลง ในขณะที่นางกำลังจะสั่งให้เฉียวเหลียนเก็บร้าน ก็มีบุรุษสองคนและสตรีอีกหนึ่งนางกำลังก้าวเดินเข้ามาในร้าน ผู้หนึ่งแต่งกายคล้ายคุณชายชนชั้นสูง ส่วนสตรีอีกนางก็แต่งกายราวกับคุณหนูสูงศักดิ์ อีกบุรุษอีกผู้หนึ่งก็สวมชุดคล้ายคนรับใช้ที่ติดตามมาดูแลเจ้านาย ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นจึงเอ่ยทันที
"ขออภัยด้วย ยามนี้หม้อไฟไม่เหลือแล้วเจ้าค่ะ"
จางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิงที่ปลอมตัวออกมาหาความสำราญนอกวังหลวงจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยคราหนึ่ง พบว่าสตรีนางนี้ค่อนข้างงดงามไม่น้อยเลย เขาได้ยินเสียงเล่าลือว่านางคือภรรยาที่ถูกสามีหย่า หย่าสามีของนางก็คือหยางเจ๋อหยวนนั่นเอง
ภรรยางามถึงเพียงนี้ก็ยังทิ้งขว้างได้ลงคอ เหลือเกินจริงเชียว!!!
ด้านจางหนิงหนิงก็จ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยแววตาที่เป็นประกายคราหนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
ร้านหม้อไฟคนงาม งามสมชื่อจริงๆ
ไป๋เหมยเหม่ยที่ถูกจ้องมองก็สงสัยไม่น้อย นางจึงขมวดคิ้วมุ่น
บุรุษที่ติดตามจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิงมาด้วยคือองค์รักษ์ของพวกเขา องค์รักษ์ผู้นั้นที่เห็นว่าไป๋เหมยเหม่ยจ้องเจ้านายตนจนเกินงาม จึงกระซิบถามจางจิ้งเฉวียนทันที
"นางมองเช่นนี้ไม่ปลอดภัย ควักลูกตานางเลยดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ
จางจิ้งเฉวียยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันขวับไปมององค์รักษ์ของตนคราหนึ่ง ก่อนจะถลึงตาใส่ องค์รักษ์ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะกระซิบถาม
"ไม่พอพระทัยหรือพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นปาดคอนางเลย"
องค์รักษ์ทำท่าจะควักมีดสั้นขึ้นมา จางจิ้งเฉวียนที่เห็นเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นตบศรีษะองค์รักษ์ของตนอย่างเต็มแรง ไป๋เหมยเหม่ยสะดุ้งคราหนึ่งพลางจ้องมองจางจิ้งเฉวียนอย่างไม่ละสายตา
"เอ่อ แม่นางอย่าใส่ใจ คนของข้าไม่รู้ความน่ะ"
"อ้อ"
จางหนิงหนิงที่เงียบอยู่นานจึงเอ่ยกับจางจิ้งเสวียนทั้นที
“นี่แฝดพี่ท่านห้ามชอบนางนะ ข้าจอง”
จางจิ้งเสวียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
“แฝดน้อง แม้แต่สตรีหม้ายเจ้าก็ยังไม่ละเว้นหรือ”
จางหนิงหนิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ย
“ไม่เป็นอันใด แปลกใหม่ดีข้าอยากลอง”
จางจิ้งเสวียนหมดคำจะกล่าว น้องสาวของเขาผู้นี้ดีไปเสียทุกอย่าง ยกเว้นเพียงนางมีใจชอบในสตรีเหมือนกันไม่พึงใจในบุรุษ แต่เขาชอบที่นางสามารถไปที่ใดกับเขาก็คือทุกที เป็นพี่น้องที่สนิทสนมกันเป็นอย่างมาก
จางหนิงหนิงถอนหายใจคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
" เห้อ น่าเสียดายแย่ หม้อไฟหมดแล้วหรือ ข้าได้ยินผู้คนร่ำลือกันปากต่อปากว่าหม้อไฟของแม่นางแม้จะเป้นร้านเล็กๆ แต่กลับรสชาติเทียบเท่ากับภัตตาคาร ข้าจึงอยากมาลองชิม"
ไป๋เหมยเหม่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
"หม้อไฟหมดแล้ว แต่ทว่ายังมีมันฝรั่งเส้นผัดพริก และมันฝรั่งทอด พวกท่านอยากลองชิมหรือไม่ วันนี้พวกท่านมาและไม่ได้กินหม้อไฟ เช่นนี้ข้าจะไม่คิดค่าอาหาร"
"จริงหรือแม่นาง"
"เจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นรบกวนแม่นางแล้ว"
จางหนิงหนิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานพลางจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยอย่างไม่ละสายตา
งดงามแล้วยังมีน้ำใจ น่าพาเข้าไปอยู่ในวังหลวงด้วยกันเหลือเกิน
ไป๋เหมยเหม่ยที่ไม่รู้ความคิดของจางหนิงหนิงก็ยิ้มออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
"เช่นนั้นโปรดนั่งรอสักครู่ เฉียวเหลียนนำชาชั้นดีมารับรองแขก"
ไป๋เหมยเหม่ยเอ่ยกับเฉียวเหลียนก่อนจะกลับเข้าไปในครัว ไม่นานก็นำอาหารมาวางตรงหน้าจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิง
จางจิ้งเฉวียนมองอาหารตรงหน้าคราหนึ่งด้วยความสนใจ ก่อนจะค่อยๆ ใช้ตะเกียบคีบอาหารเหล่านั้นเข้าปาก เขารู้สึกว่ามันช่างยอดเยี่ยมนัก เขาไม่เคยพบเจออาหารรสชาติแปลกใหม่เช่นนี้มาก่อน ด้านจางหนิงหนิงก็กินอาหารอย่างสำราญใจยิ่งนัก ก่อนจะเงยหน้ามาเอ่ยกับไป๋เหมยเหม่ย
"แม่นาง หากมีโอกาสข้าจะมากินอาหารที่ร้านเจ้าทุกวันเลย"
"เช่นนี้ขอบคุณพวกท่านมากแล้ว"
ไป๋เหมยเหม่ยเอ่ยขึ้นมา ก่อนจะกลับไปจัดการงานที้เหลือของตนต่อ นางนำน้ำซุปร้อนที่เหลือเทใส่หม้อใบเล็กๆ เอาไว้เพื่อเตรียมนำไปเททิ้ง ด้านจางจิ้งเฉวีียนเองก็เตรียมพร้อมที่จะกลับวังหลวงแล้ว อีกทั้งยังต้องลากตัวจางหนิงหนิงที่จ้องจะพุ่งเข้าหาไป๋เหมยเหม่ยให้กลับไปด้วยกัน แต่ว่าในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปจากร้าน ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขา องค์รักษ์เห็นเช่นนั้นก็รีบคุ้มครองเขาในทันที ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็ตื่นตระหนกไม่น้อย นางมองไปตามทิศทางที่ลูกธนุพุ่งเข้ามา ก่อนจะพบกับชายชุดดำผู้หนึ่งที่แอบปะปนอยู่กับเหล่าชาวบ้าน
นั่นคือนักฆ่าใช่หรือไม่? นางเคยเห็นในซีรี่ย์นักฆ่าจะชอบแต่งกายเช่นนี้
ใช่แน่ๆ ต้องป้องกันไว้ก่อนถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป!!!
ไป๋เหมยเหม่ยคว้ากะทะใบหนึ่งมาถือเอาไว้ เตรียมพร้อมเอามาป้องกันตนเอง นางไม่มีวรยุทธ์ มีเพียงการป้องกันที่เป็นพื้นฐานทั่วไปเพียงเท่านั้น
ไม่นานบุรุษชุดดำก็พุ่งเข้ามายังทิศทางที่พวกนางยืนอยู่ นางสังเกตเห็นว่าเป้าหมายของมันคงจะเป็นลูกค้าสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านของนาง มันกระทำการอย่างอุกอาจราวกับไม่เกรงกลัวที่ความตาย คงเตรียมมาแล้วว่าหากต้องตายก็จะลากคนทั้งหมดให้ตายไปพร้อมกับมันด้วย เช่นนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว จางจิ้งเสวียนที่เห็นเช่นนั้นจึงดันจางหนิงหนิงให้หลบไปอยู่ด้านหลังตนทันที
ไป๋เหมยเหม่ยที่เห็นเช่นนั้นจึงเขวี้ยงกะทะออกไปจนสุดแรง กะทะพุ่งเข้าไปฟาดที่กลางหน้าผากของนักฆ่าผู้นั้นจนมันมึนงงทำสิ่งใดไม่ถูก ก่อนจะหันขวับมาจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยแววตาที่เย็นเยียบ ไป๋เหมยเหม่ยถอยหลังหลายก้าวพลางจับมือเฉียวเหลียนเอาไว้ ยามนี้จางหนิงหนิงขยับเข้ามายืนอยู่ข้างกายนาง พร้อมกับจับมือนางเอาไว้แน่น ด้านจางจิ้งเฉวียนก็หันไปพยักหน้าให้ไป๋เหมยเหม่ยคราหนึ่งเป็นการขอบคุณ เขาขยับกายช้าๆ ก่อนจะพาตนเองไปบังตัวไป๋เหมยเหม่ยและจางหนิงหนิงเอาไว้ ไป๋เหมยเหม่ยคาดเดาอยางผิดๆ ถูกๆ ว่าจางจิ้งเฉวียนอาจจะเป็นคุณชายหรืออาจะเป็นเชื้อพระวงศ์ เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงดึงจิ้งเฉวียนมาไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ย
"หากท่านตายข้าคงชดใช้ไม่พอ ข้าเพิ่งเปิดร้านใหม่ไม่อยากให้ลูกค้ามาตายในร้าน"
จางจิ้งเฉวียนจ้องมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยความตื่นตระหนก สตรีนางนี้ไม่กลัวตายหรือไรกัน นั่นนักฆ่าเชียวนะ!!!
ไม่อยากให้ลูกค้าตายในร้าน แต่การที่นางทำเช่นนี้นางนั่นละจะตายก่อนลูกค้า!!!!!
ไป๋เหมยเหม่ยนั้นคิดต่าง บางคราหากนางตายในครั้งนี้อาจจะได้กลับไปยังโลกเดิมที่จากมา เช่นนั้นก็นับคุ้มค่าไม่น้อย แต่ทว่าจางจิ้งเฉวียนกลับเอ่ยทัดทานนาง
"ข้าเป็นบุรุษ จะให้เจ้ามาปกป้องได้เช่นไรกัน"
"พูดมากจริง ต่างคนต่างช่วยกัน ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ข้าก็ไม่ต้องการให้มีคนมาฆ่ากันตายในร้านข้า รับไปสิ!!!"
จางจิ้งเฉวียนจ้องมองกะทะที่ไป๋เหมยเหม่ยส่งมาให้คราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย
"เอามาให้ข้าถือไว้ทำไมกัน?"
"ถ้าเห็นมันขยับตัวเมื่อใดก็เขวี้ยงใส่หน้ามันเลย"
"เจ้าไม่เสียดายหรือ"
"เสียดายสิ แต่ค่อยคิดเงินกับท่าน"
จางจิ้งเฉียน "......."
ด้านจางหนิงหนิงนั้นไม่เอ่ยสิ่งใด นางลอบมองไป๋เหมยเหม่ยด้วยสายตาที่ชื่นชม
ฉึก!!!
"อ๊า!!!"
ในขณะที่จางจิ้งเสวียนและไป๋เหมยเหม่ยกำลังถกเถียงกันไปมา ก็ได้ยินเสียงนักฆ่าผู้นั้นแหกปากร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พลางทรุดลงไปกุมขาตัวเองเอาไว้ พวกนางจึงรีบหันไปมองทันที
นั่นมันพี่ใหญ่ของนางและจางเหยียนเหวยใช่หรือไม่!!
"จับตัวมันไปไต่สวนในคุกหลวง มันกล้าเข้ามาสังหารองค์รัชทายาทและองค์หญิงอย่างอุกอาจเช่นนี้ จะต้องมีคนในที่คิดไม่ซื่อเป็นแน่"
จางเหยียนเหวยเอ่ยก่อนจะสั่งให้ทหารจับตัวนักฆ่าผู้นั้นไปในทันที ไป๋เหมยเหม่ยถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหันมามองจางจิ้งเฉวียนและจางหนิงหนิง
องค์รัชทายาทและองค์หญิงเช่นนั้นหรือ?
ไป๋เหมยเหม่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะครุ่นคิดในใจพลางจ้องมองจางเหยียนเหวย
ท่าทางเมื่อครู่ช่างเท่เหลือเกินยามที่เขาทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนกับตอนที่แสดงซีรี่ย์ฉากดราม่านั่นมันช่างโดนใจนางยิ่งนัก
ราวกับว่านางข้ามภพมาเป็นนางเอกของเขาโดยเฉพาะเลย
เห้อ!!!!ข้าตายตาหลับได้เสียทีสินะชึวิตคอมพลีทขนาดนี้