ผู้ใดกันจะคาดว่าเด็กสาวที่เอาแต่ฟูมฟายเจ้าน้ำตาจะลุกขึ้นมายื่นข้อเสนออันใดเช่นนี้อย่างได้กล่าวถึงเซี่ยหย่งอี้เลยคาดว่าหากซูเยว่ผิงมาได้ฟังถ้อยคำก๋ากั่นจากเรียวปากงดงามเช่นนี้ก็อาจถึงขึ้นเป็นลมหมดสติล้มตึงทั้งยืนเลยก็เป็นไปได้ “หึ!…นับว่าฉลาดไม่น้อยนี่หรือ? …ที่แท้เจ้าโง่เขลาอย่างยิ่งจึงคิดจะไปจากข้าน่ะหาผิงหลัวเจ้ามิทราบหรือว่าอนุภรรยาที่ถูกปลดหากคิดจะมีบุรุษเลี้ยงดูเจ้าก็มีเพียงต้องเอาเรือนร่างไปเร่ขายยังหอคณิกาเท่านั้น” พอฟังคำว่าเร่ขายเรือนร่าง ซูผิงหลัวก็บังเกิดความคิดแสนร้ายกาจขึ้นมาบ้างในเมื่ออยู่กับเขานางก็ต้องเปลืองตัว สุดท้ายหนึ่งปีนางไปจากเขาเงินทองย่อมไม่มีหรือหากรับเพียงเงินรายเดือนของตำแหน่งอนุภรรยาก็คงไม่มากพอให้นางได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ดังนั้นพออีกฝ่ายมากระตุ้นเด็กสาวจึงคิดว่านางจะไม่ยอมขาดทุนเปลืองตัวไปเสียเปล่าเป็นแน่ “แล้วอีกข้อเล่า?” เซี่ยหย่งอี้ก็อยากทราบเช่นกั