bc

เกมลวงบ่วงแค้น

book_age18+
872
ติดตาม
2.7K
อ่าน
ล้างแค้น
จบสุข
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ฉลาด
นักสืบ
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
like
intro-logo
คำนิยม

เพราะเกาะกำลังจะถูกยึดพื้นที่ทำกิน ชาวบ้านบนเกาะเลยตั้งกลุ่มประท้วง ไม่ยอมให้มีการไล่ที่เพื่อสร้างรีสอร์ท

ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง ชาวบ้านบางส่วนจึงต้องใช้กฏหมู่ ด้วยการจับตัวลูกชายคนเดียวของทายาทรีสอร์ทพันล้านมาเป็นตัวประกัน

เด็กหนุ่มวัย 16 ปีจึงต้องมาผจญความยากลำบากบนเกาะ ถูกทรมานด้วยกันข่มขู่และทำงานสารพัด เพื่อรอให้บิดาเซ็นสัญญายินยอมยกเลิกการไล่ที่

แต่ผู้เป็นพ่อกลับไม่ได้สนใจกับความปลอดภัยของลูกชายคนเดียวของตระกูล แทนที่จะเซ็นสัญญา เขากลับสั่งคนเผาหมู่บ้านจนราบเป็นหน้ากลอง

เปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ทำให้ น้ำเหนือ เด็กหนุ่มวัย 16 พยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอด อย่างยากลำบาก วินาทีที่เสาต้นใหญ่กำลังจะล้มทับ กลับมีใครคนหนึ่งเข้ามาช่วยเขาได้ทัน

มุกดา มินรดา รักษ์ไท ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำสุดป่าเถื่อนนี้ เธอจึงเสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วย

แม้มินรดา จะช่วยเขาออกมาได้จนสำเร็จ

แต่ก็ไม่อาจมาเขาออกจากเกาะได้ ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือ น้ำเหนือกำลังถูกเปลวเพลิงคร่าชีวิตไป

เวลาล่วงเลยมา 13 ปี มินรดาเติบโตเป็นสาวแต่ชีวิตไม่ได้สุขสบายเพราะถูกแฟนหนุ่มหลอกให้ไปขายตัวไกลถึงอังกฤษ

หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายถูกนำตัวไปบำเรอเศรษฐีหนุ่มเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งต่อให้นอนกับเขาแทบทุกคืน เธอกลับไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยสักครั้ง

ตราบาปครั้งนั้นทำให้มินรดาต้องหนีกลับมาเมืองไทยเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ โชคดีที่เหมมันต์ พี่ชายลูกพี่ลูกน้อง พาเธอไปสมัครงานกับภีมวัฒน์ บริษัทยักษ์ใหญ่คู่แข่งของปราวัฒน์กรุ๊ป

งานของเธอคือการเข้าไปทำงานในปราวัฒน์กรุ๊ป เพื่อหลอกเอาข้อมูลมาให้ภีมวัฒน์ มากที่สุด

ไม่อยากจะคิดเลยว่า การตัดสินใจเข้ามาทำงานในครั้งนี้ เธอจะพบความจริงบางอย่างที่น่าตกใจเกี่ยวกับ

แพทริค เมดิสัน อัศวเรืองกุล

เจ้านายคนใหม่

จนเกมร้ายเกมรักที่พ่วงมาด้วยความแค้นต้องเริ่มต้นขึ้น

และใครกันแน่ ที่จะต้องพ่ายแพ้

กระอักเลือดตายก่อนกัน

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ (1)
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าย...คุณประณัย” เสียงหวานร้องดังออกมาไม่ เป็นภาษาเมื่อทุกส่วนบนร่างงามถูกลิ้นร้อนละเลียดไปตามเนินเนื้อนุ่มก่อนจะตวัดร่างบางระหงขึ้นมานั่งบนตักเพื่องามงับความเป็นชายของคนสูงวัยกว่า            ริมฝีปากบางเคลือบด้วยลิปสติกราคาแพง กระตุกยิ้มมุมปากค่อย ๆ ทิ้งตัวลงเพื่อกลืนกินแกนกายที่กำลังแข็งขืนช้า ๆ สายตาแห่งความปรารถนาจับจ้องใบหน้าของชายหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ อย่าท้าทายด้วยประสบการณ์ที่เจ้าหล่อนเองก็พอจะเจนจัดอยู่ไม่น้อยทำให้ร่างสูงที่รอคอยความสุขอยู่ใต้ร่างหลับตาพริ้มพึมพำออกมาแทบไม่เป็นภาษา            “อา...อย่างนั้นแหละ อื้ม...”            “ชอบไหมคะ” กันจิรา ดาราสาวแสนสวยที่หวังจะรวยทางลัดด้วยการคบหาแบบลับ ๆ กับนักธุรกิจที่อายุห่างกันเกือบสิบปี เพื่อวันหนึ่งหากอนาคตในวงการบันเทิงของเธอดับลง เธอจะได้มีที่พึ่งไว้เกาะกินในยามขัดสน            “ชอบสิจ๊ะ ชอบที่สุด...”            ประณัยเลื่อนมือหนาขึ้นไปลูบไล้ตามสีข้างบนผิวที่เนียนละเอียดก่อนจะบีบเฟ้นตรงเต้างามที่เจ้าหล่อนลงทุนไปเสริมมาจนเต็มไม้เต็มมือ            อารมณ์ปรารถนาที่ก่อกำหนัดขึ้นด้วยความคิดถึงโหยหาเพราะกันจิราต้องออกกองละครอยู่บ่อยครั้งมันยิ่งทำให้หล่อนร้อนแรงขึ้นจนความอัดอั้นที่จุกอยู่ตรงแกนกายมันพุ่งออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลให้คนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่เบื้องล่างต้องเป็นฝ่ายคุมเกม            “อ๊ะ ! จะทำอะไรคะ” หญิงสาวสะดุ้งนิด ๆ เมื่ออีกฝ่ายถอดถอนตัวตนออกก่อนที่เขาจะจับเอวบางแล้วหันหน้าไปที่กระจกตรงระเบียงหลังห้องที่เผยให้เห็นวิวทะเลอันดามันถึงร้อยแปดสิบองศา            ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อมองทอดออกไปจากระดับชั้นที่เธอกำลังเล่นระบำกามานี้ ยังเห็นพนักงานบางส่วนกำลังทำงานอย่างกระตือรือร้น หากมีบางคนเงยหน้าขึ้นมามองแล้วเห็นกิจกรรมสวาทครั้งนี้มันคงจะน่าอายอยู่ไม่น้อย            “ไม่ต้องห่วง พวกเขาไม่เห็นหรอก” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบบอกทางด้านหลังพลางขยับกายเข้าไปแนบชิดแผ่นหลังเปลือยเปล่า จับขาเรียวหนึ่งข้างยกสูงขึ้นก่อนที่เขาจะจับแกนกายสอดเข้าไปอีกครั้งจนสุดทาง            “อ๊ะ...ซี๊ด...”            “เป็นไง ชอบใช่ไหมล่ะ”            “อื้อ...ค่ะ ชอบมาก...” กันจิราหลับตาพริ้ม มือเรียวทั้งสองข้างดันกระจกเอาไว้ แม้เขาจะยืนยันว่ากระจกแบบนี้มันไม่สามารถมองเข้ามาได้ แต่ถึงกระนั้นหล่อนเองก็ยังรู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อย            เพี้ยะ !                “อ๊ะ ! ” ร่างบางผวาเฮือกเมื่อมือหนาฟาดลงบนสะโพกงามงอนนั้นสุดแรงจนเป็นรอยแดง ผมเผ้าที่สยายอยู่ทั่วแผ่นหลังถูกมือหนารวบไว้ออกแรงดึงเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้างามโฉบเฉี่ยวเงยขึ้น มองดูคล้ายกับกำลังขี่ม้าแสนพยศ            เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้องนานนับหลายนาที เมื่อคลื่นระลอกสุดท้ายกำลังจะถาโถมเข้าฝั่ง ประณัยจึงรีบถอดถอนตัวตนออกแล้วตวัดร่างงามให้นั่งลงคุกเข่าตรงหน้าเพื่อให้หล่อนจัดการกลืนกินทุกหยาดหยดเข้าไปในโพรงปากเล็ก ซึ่งกันจิราเองก็ไม่ได้ขัดขืน หล่อนเต็มใจใช้ลิ้นและริมฝีปากเล็ก ๆ ละเลียดดูดกลืนมันเข้าไปแต่ก็อดที่จะค้อนเขาเสียไม่ได้            “นี่คุณยังไม่เชื่อใจกันอีกเหรอคะ”            “ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะ” คนสูงวัยกว่าเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เห็นเจ้าหล่อนทำท่างอนแล้วหันไปทอดสายตามองวิวทะเลผ่านกระจกอีกครั้ง จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปสวมกอดร่างนั้นไว้จากทางด้านหลังเพื่อปลอบประโลม “คุณก็รู้นี่ว่าผมรักคุณมากขนาดไหน”            “แล้วทำไมคุณถึงยังไม่ยอมมีลูกกับกันสักทีล่ะคะ”            “คิดว่างอนเรื่องอะไร” ใบหน้าหล่อเหลาแม้จะเข้าสู่วัยฉกรรจ์วางบนไหล่เปลือยเปล่าของหญิงสาวเพื่อทอดมองไปยังวิวทะเลเบื้องหน้าของรีสอร์ทด้วยกัน “รอผมอีกหน่อยสิ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ยังไงรีสอร์ทที่นี่ก็ต้องเป็นของเราอยู่แล้ว”            “คุณก็พูดแบบนี้ตลอด พูดมากี่ครั้งแล้วคะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักที” กันจิราหน้าบึ้งเพราะกำลังตกอับ งานที่ทำมันเริ่มจะหดหายทำให้หล่อนต้องรีบหาที่พึ่งให้เร็วที่สุด            “ผมก็กำลังทำอยู่นี่ไง ผมต้องพิสูจน์ให้พี่วัฒน์เห็นว่าผมก็มีความสามารถ เขาจะได้เชื่อใจแล้วยอมยกรีสอร์ทรวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ให้ผมจัดการ”            “แล้วตาเหนือล่ะคะ ถ้าตาเหนือยังอยู่คุณคิดว่าพี่ชายคุณที่นอนร่อแร่ใกล้ตายจะยกทุกอย่างให้คุณเหรอ”            “ตอนนี้ตาเหนือยังเด็ก เขาจะมาเข้าใจอะไรกับการบริหารธุรกิจ ตอนนี้แหละผมต้องรีบพิสูจน์ตัวเองให้พี่วัฒน์เห็น” ใบหน้าของประณัยดูเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย เขาเองก็คิดไม่ตกขึ้นมาเหมือนกันเมื่อนึกถึงน้ำเหนือผู้เป็นหลาน ลูกชายคนเดียวของปราวัฒน์ เป็นเพราะเขาทำอะไรไม่เคยเป็นโล้เป็นพาย คนเป็นพี่จึงไม่ยอมเชื่อใจยกธุรกิจให้เขาดูแลสักที            “กันว่าแทนที่จะพิสูจน์ ทำไมคุณไม่จัดการทำอะไรที่มันเด็ดขาดได้แล้วล่ะคะ”            “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”            “ไม่รู้แหละค่ะ ยังไงคุณต้องรีบหาทางทำให้ทุกอย่างมาเป็นชื่อคุณให้ได้...”            ก๊อก ก๊อก ก๊อก            บทสนทนาเงียบหายไปเมื่อมีเสียงประตูดังขึ้น ทั้งสองจึงรีบผละจากกันก่อนที่ประณัยจะหันไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างไว้เพื่อจะออกไปเปิดประตู            “ว่าแล้วต้องเป็นแก” ร่างสูงเอนตัวพิงประตูห้องอย่างใจเย็นพลางปรายตามองน้ำเหนือ หลานชายเจ้าปัญหาที่กำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่หน้าห้อง “มีอะไรอีกล่ะ”            “นี่คุณอากำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ชาวบ้านกำลังตั้งกลุ่มประท้วงอยู่หน้ารีสอร์ท” เจ้าของดวงตาสีอำพันหรี่มองผู้เป็นอาด้วยความไม่ชอบใจ แม้อายุจะเพิ่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้นแต่เขากลับถูกบิดาสร้างความหวังเอาไว้เพื่อโตขึ้นจะได้เข้ามาบริหารดูแลกิจการของครอบครัว ส่งผลให้เขาต้องตามประณัยผู้เป็นอามาที่รีสอร์ทแห่งนี้ แทนที่จะได้ใช้เวลาช่วงปิดเทอมเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน            “พวกมันก็ไม่ได้มาครั้งแรกนี่ แกจะตีโพยตีพายไปทำไมกัน”            “เพราะพวกเขาไม่ได้มาครั้งแรกไง เราถึงต้องรีบจัดการ เพราะถ้าไม่รีบ พวกเขาก็ต้องมาอีก นี่คุณอาไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งหลับหูหลับตากันแน่ มิน่าล่ะคุณพ่อถึงไม่ยอมวางมือให้คุณอาสักที” เด็กหนุ่มตวาดลั่น ดวงตาสีอำพันตามแบบฉบับลูกครึ่งยุโรปที่ได้มาจากมารดาจ้องมองประณัยนิ่งอย่างไม่นึกเกรงทำให้คนที่โตกว่าถึงกับเลือดขึ้นหน้า            “นี่แก ! ”            “มีอะไรกันเหรอคะ” กันจิราที่แอบมองดูเหตุการณ์อยู่ในห้องเห็นท่าไม่ดีจึงแกล้งตีหน้าเป็นหญิงสาวแสนดีเดินเข้ามาห้ามเอาไว้เพราะเกรงว่าประณัยจะทำเสียแผนการฮุบสมบัติ “เสียงดังไปถึงข้างในเลย”            “ไม่มีอะไรหรอก คุณเข้าไปรอผมข้างในเถอะ” ประณัยเป็นคนตอบคำถามนั้นก่อนจะดันตัวหญิงสาวเข้าไปในห้อง แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากของน้ำเหนือ            “ทำอะไรกันอยู่นี่เอง ถึงว่าเสียงดังจนไม่ได้ยินอะไร”            “หุบปากของแกซะ ! ” ชายหนุ่มฉุนจัดยกมือขึ้นเตรียมตะบันหน้าหลานชายคนเดียวด้วยความลืมตัวแต่ก็ถูกกันจิราห้ามไว้เสียก่อน            “อย่าค่ะคุณประณัย ใจเย็น ๆ ก่อนสิคะ”            “ถ้าคุณอาไม่ว่าง งั้นผมลงไปเองละกัน เชิญทำต่อได้ตามสบาย ขอโทษด้วยที่ขึ้นมาขัดจังหวะ” น้ำเหนือโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินจากไปตามทางเดิน เมื่อลับหลังเด็กหนุ่ม ประณัยจึงหันไปเอ่ยถามกันจิราทันทีด้วยความไม่เข้าใจ            “คุณจะมาห้ามผมทำไม ไม่เห็นเหรอว่าเด็กนั่นมันตั้งใจจะถอนหงอกผม”            “เห็นสิคะ แล้วก็เข้าใจดีด้วย”            “แล้วคุณจะห้ามทำไม คุณน่าจะปล่อยให้ผม...”            “ก็เพราะคุณเป็นซะอย่างนี้ไงคะ คุณปราวัฒน์ถึงไม่ยอมยกธุรกิจให้สักที” หญิงสาวสวนกลับทั้งที่ประณัยยังพูดไม่ทันจบ เมื่อตั้งสติได้ กันจิราจึงรีบดึงตัวเขาเข้าไปคุยต่อในห้อง “คุณรีบแต่งตัวแล้วลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”            “นี่คุณจะให้ผมยอมทำตามที่เด็กเมื่อวานซืนนั่นบอกงั้นเหรอ”            “ใช่ค่ะ คุณเองก็รู้ไม่ใช่เหรอคะว่าชาวบ้านที่มาน่ะ เขาไม่ต้องการให้เราไปไล่ที่เขามาทำรีสอร์ท ถ้าเป็นอย่างนั้นโอกาสที่คุณจะพิสูจน์ให้พี่ชายคุณเห็นก็ต้องหายไปด้วย แล้วถ้าคุณปล่อยให้ตาเหนือลงไปคนเดียว คุณคิดเหรอว่าเด็กอย่างมันจะยอมไล่ที่พวกชาวบ้าน”            “จริงด้วย” ประณัยครุ่นคิด หลังจากที่ถูกกันจิราเรียกสติกลับคืนมาได้ เขาจึงรีบแต่งตัวแล้วลงไปด้านล่างเพื่อหาทางยุติการชุมนุมประท้วงทันที            “ออกไป ออกไป ! ”            “พวกเราไม่ต้องการรีสอร์ท ! ”            “พวกเรามาก่อน ทำไมต้องไล่พวกเราด้วย ! ”            “คิดว่ารวยแล้วจะมารังแกกันง่าย ๆ แบบนี้เหรอ ! ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.3K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.2K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
8.0K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook