นารีหลงไฟ

นารีหลงไฟ

book_age18+
93
ติดตาม
1K
อ่าน
ครอบครัว
ความลับ
like
intro-logo
คำนิยม

การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดมาจากความรัก แต่เกิดมาจากความจำเป็นที่ต้องทำ

หัวใจที่ปิดตายเพราะคนรักเสียชีวิตก่อนถึงวันแต่งงาน ทำให้เขาไม่สามารถรักใครได้อีก แต่มารดากลับอยากให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเลือกให้

เธอถูกตราหน้าว่าเป็นเมียแต่งเพื่อมาสะเดาเคราะห์ เพราะหากเขาได้แต่งงานกับเธอตามที่พระท่านว่า วิบากกรรมที่ต้องเจอก็จะหายไป

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทรักใต้เงาจันทร์
“อื้อ” เสียงครวญครางสอดประสานกันอย่างลงตัว ดั่งบทเพลงรักขับขานประสานเสียงด้วยนักร้องชายหญิงที่ซุ่มซ้อมกันจนลงตัว เกิดจากความรัญจวนที่โหมกระหน่ำใส่คนทั้งคู่อย่างเร่าร้อนในยามรัตติกาลที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง คืนเดือนหงายมีพระจันทร์ดวงโตส่องแสงสว่างลงมายังพื้นนำพาความสลัวมาเยือนคนทั้งคู่ เสียงพลุที่ดังขึ้นพร้อมกับแสงหลากหลายสีสว่างอยู่บนท้องนภาดังผสมผสานกับเสียงดนตรีเปิดเฉลิมฉลองในวันสุดท้ายของปีและต้อนรับวันแรกของปีซึ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วินาที ช่วยกลบเสียงร้องครางที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องอยู่หลังต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่หลังบ้านได้เป็นอย่างดี ร่างสูงเปลือยเปล่าอุดมไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นทั้งตัว เพราะเกิดจากการโหมงานหนักในไร่ กำลังโหมกระหน่ำตัวตนเข้าใส่ร่างงามที่นอนราบอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ด้วยความเสียวซ่าน ก่อตัวขึ้นเป็นเกลียวโอบรัดคนทั้งคู่ให้แนบแน่นจนแทบหลอมละลายกลายเป็นคนเดียวกัน ริมฝีปากหยักพรมจูบคลอเคลียดวงหน้าหวานไม่ยอมห่าง สูดดมความหอมจากพวงแก้มเนียนทั้งสองข้างอย่างลำพองใจ โดยไม่กลัวแก้มนั้นจะบอบช้ำแต่อย่างใด ก่อนจะวกเข้าหาเรียวปากอิ่มที่เผยอร้องคราง ประกบริมฝีปากเข้าหาสอดแทรกปลายสิ้นเข้าในโพรงปากหวานอย่างชำนาญช่ำชอง เกี่ยวตวัดรัดรึงลิ้นเล็กอ้อยอิ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนดุจไฟแผดเผาโดยช่วงล่างยังสอดประสานดุดัน สะโพกแกร่งขยับแรงเร็วขึ้นจนร่างงามที่รองรับความดุดันใต้ร่างสั่นสะท้านไปทั่วร่าง “อืม” ร่างงามบิดเร่าด้วยความทรมานเกิดจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้าใส่อยู่ในขณะนี้ จิกเล็บลงบนแขนแกร่งยามสะโพกแกร่งขยับกระแทกถี่เร็ว แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นไม่ติดพื้นเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลอยขึ้นจากพื้น อีกทั้งยังเหมือนมีมวลสารบางอย่างไหลวนในช่องท้องลงต่ำมายังกลางกายสาว เหมือนกำลังจะไหลออกมาด้านนอกในอีกไม่ช้า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ทำให้หญิงสาวร้อนรุ่มเหมือนถูกพิษไข้เล่นงาน จนอยากให้ชายหนุ่มพาเธอออกไปจากความทรมานที่แสนรัญจวนนี้เสียที “ระ เร็วอีกนิด ดะ ได้ไหมคะ” นารีกานต์ร้องขอเสียงกระเส่าใบหน้าสะบัดไปมา ดวงตาหลับพริ้มไม่กล้าลืมขึ้นสบสายตาคมของผู้ชายที่ถาโถมตัวตนเข้าสู่ร่างกายของเธอด้วยซ้ำ ได้แต่โอบกระชับร่างกำยำไว้แทน ริมฝีปากหยักยกขึ้นเล็กน้อยอย่างพอใจ รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะตรึงไว้อย่างนั้น ทำให้คนที่กำลังสุขสมกับความเสียวซ่านที่กำลังจะเดินทางไปถึงฝัน ถึงกับลืมตาขึ้นมองด้วยความฉงนกับการกระทำของคนด้านบน แต่เพียงครู่เดียวก็รีบหันหน้าหลบสายตาคมไปทางอื่น “มองหน้าฉัน อย่าเอาแต่หลับตา” อัคคีเอ่ยสั่งเสียงแหบพร่า เมื่อคนใต้ร่างเอาแต่นอนหลับตาไม่ยอมลืมตาขึ้นมองตัวเอง หรือหากลืมตาก็หันหน้าเมินมองไปทางอื่นเสียอย่างนั้น เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เริ่มบรรเลงเพลงรักจวบจนมาถึงช่วงสุดท้ายของเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งดูจะขัดใจชายหนุ่มไม่น้อย เพราะไม่มีใครเคยปฏิบัติแบบนี้กับเขาเลยสักคน คนถูกสั่งใบหน้าขึ้นสีเรื่อด้วยความอาย ทว่าก็ยอมหันกลับมาสบสายตาคมอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองจะเลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้แล้วก็ตาม และอีกอย่างคนที่อยู่ด้านบนยังได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธออีกต่างหาก “ฉัน ฉัน...” “ไม่มีอะไรต้องอาย ต่อไปนี้มีแต่ความอยากเท่านั้น ทำหน้าที่เมียที่ฉันซื้อมาให้คุ้มหน่อยสิ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็พาหญิงสาวเปลี่ยนท่วงท่า ดั่งเช่นเพลงที่เปลี่ยนทำนองเป็นจังหวะเร้าใจ อัคคีกดสะโพกแกร่งพาตัวตนลำใหญ่เข้าใส่ช่องทางรักคับแน่นอีกครั้ง ใบหน้าคมเงยขึ้นกรามขบกันแน่นจนเป็นสันนูน เมื่อภายในตอดรัดแน่นจนรู้สึกปวดขยับเอวสอบเร็วขึ้น ทำให้ร่างบางถึงกับโยกโย้ไปตามแรงกระแทก ปล่อยเสียงร้องครางออกมาเมื่อความรัญจวนตีวนเข้าสู่ร่างกาย “อื๊อ” เสียงครางที่ดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้อัคคียิ้มอย่างพอใจ กระแทกกระทั้นตัวตนเข้าใส่อย่างไร้ความปรานี ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเข่าของหญิงสาวจะเจ็บหรือไม่ เพราะเสียดสีกับพื้นไม้ไม่ได้มีผ้ารองแต่อย่างใด นารีกานต์เงยหน้ากัดริมฝีปาก ยันแขนสองข้างไว้มั่นตั้งรับความดุดันที่ถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งแทบครองสติไม่อยู่กับความแปลกใหม่ที่ได้รับ แม้จะพยายามกลั้นเสียงตัวเองไว้ แต่ความเสียวซ่านรัญจวนก็ทำให้เธอทนไม่ไหวปล่อยเสียงครางน่าเกลียดออกมาไม่ขาดสาย เธอรู้แล้วว่าการมีเซ็กซ์มันเป็นอย่างไรแม้จะเจ็บปวดในคราแรกจนน้ำตาเล็ด แต่พอนานไปกลับให้ความรู้สึกดีจนบอกไม่ถูกเช่นในขณะนี้ “อื้อ... คุณ...อ้า” เสียงหวานร้องครางออกมา เป็นเหมือนยากระตุ้นชั้นดี ทำให้อัคคีมีพละกำลังมากยิ่งขึ้นกระแทกตัวตนเข้าใส่จาบจ้วงรุนแรง และยังมีความรู้สึกอยากให้เสียงหวานนี้ร้องครางชื่อของตัวเองออกมาเสียอย่างนั้น คงไพเราะเสนาะหูชวนฟัง “เรียกชื่อฉัน ฉันชื่อไฟ...” เสียงแหบพร่าเอ่ยสั่งการชิดใบหูเล็ก ฝ่ามือหนาเอื้อมมาบีบเคล้นทรวงอกคู่งามที่กระเพื่อมขึ้นลงอย่างไร้ทิศทาง สร้างความเสียวซ่านให้หญิงสาวจนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ลมหายใจหอบกระเส่ารุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อถูกเติมเต็มความสุขทั้งบนและล่าง “อื้อ...คะ...คุณไฟ... ฉันจะไม่ไหวแล้วค่ะ มัน มัน” เอ่ยบอกออกไปถึงความรัญจวนใจที่ใกล้ถึงฝั่งฝันในอีกไม่ช้า เมื่อคนร่างสูงกระแทกตัวตนใส่ช่องทางรักทั้งเร็วและแรง “ไม่ไหวก็ปล่อยออกมา ฉันก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” สิ้นเสียงพูด จังหวะของเพลงรักก็ยิ่งเร่าร้อนรุนแรงมากขึ้นเป็นเท่าทวี เหมือนร่างกายของคนทั้งคู่กำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในไม่ช้า ไฟราคะแม้นจะเร่าร้อนรุนแรงแทบหลอมละลาย ทว่ากลับทำให้คนถูกแผดเผาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขจนแทบจะทัดทานต่อไปไม่ไหว เร่งจังหวะขยับบั้นท้ายเข้าใส่ในช่วงสุดท้ายเร็วยิ่งขึ้น “อ้ะ...คุณไฟ...สะ...เสียว...ไม่ไหว ไม่ไหวแล้วค่ะ” สิ้นเสียงพูดร่างบางก็ปลดปล่อยน้ำหวานออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างงามเกร็งกระตุกรุนแรง ดวงดาวพร่างพรายทอแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืน ช่างเป็นภาพที่สวยงามและมาพร้อมกับความสุขที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อนในชีวิต เมื่อส่งอีกคนถึงฝั่งวิมานความสุขได้สำเร็จ อัคคีจึงไม่รอช้าที่จะพาตัวเองไปยังวิมานแห่งนั้นเช่นกัน ขยับสะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นตัวตนเข้าออกรัวเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน เพราะความเสียวแล่นพล่านไปทั่วร่าง ความคับแน่นไหลมาจ่ออยู่ที่ปลายกระบอกปืนใหญ่ และในที่สุดก็ปล่อยสายน้ำอุ่นเข้าไปในแอ่งน้ำหวาน “อืม” ร่างสูงเกร็งกระตุกตามสัญชาตญาณของการปลดปล่อย กอดกระชับร่างบางที่แทบทรุดตัวลงนอนราบกับแคร่ไม้ไผ่ไว้แน่น ลมหายใจหอบกระเส่าด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนที่นารีกานต์จะทรุดตัวลงนอนเพราะเจ็บบริเวณหัวเข่า ทำให้ร่างสูงต้องล้มตัวลงนอนตาม พร้อมกันนั้นก็ถอดถอนตัวตนออกจากช่องทางรัก “อื้อ...อ๊ะ” นารีกานต์เผลอปล่อยเสียงร้องอันน่าเกลียดออกมาอย่างลืมตัว รีบเม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากันเมื่อสำนึกได้ว่าไม่น่าเผลอปล่อยเสียงนั้นออกมาอีก ขยับกายจะลุกขึ้นนั่งแต่กลับถูกวงแขนแกร่งรวบรัดเอาไว้ให้นอนลงตามเดิม “ปะ ปล่อยค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เมื่ออารมณ์พิศวาสเลือนหายไปความกระดากอายก็เข้ามาแทนที่ และคงไม่ดีแน่หากมีใครมาเห็นว่าตัวเองกำลังกกกอดอยู่กับผู้ชายในสถานที่โล่งแจ้งอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อัคคียันศอกกลับพื้นแคร่ใช้ฝ่ามือรองศีรษะเพื่อจะได้มองคนที่ทำเป็นเขินอายไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตากับเขาอยู่ในขณะนี้ ทั้งที่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมาเธอคือคนเริ่มก่อนแท้ๆ เธอคือคนที่เข้ามายั่วยวนเขาก่อน จนทำให้เกิดเรื่องเร่าร้อนขึ้น ครั้นมาตอนนี้กลับเขินอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นพร้อมทั้งเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “หึ แล้วทีเมื่อกี้ไม่กลัวมีคนเห็น” ประโยคแซวแกมจิกกัดทีเล่นทีจริง เรียกความอายให้โถมทวีเข้าใส่นารีกานต์มากกว่าเดิม ใบหน้าที่หันหนีไปทางอื่นหันกลับมามองเจ้าของคำพูดตาขวาง แต่เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนก็รีบหันหนีสายตาคมคู่นั้นกลับไปตามเดิม เมื่อเห็นอีกคนแทบจะมุดหน้าลงกับแคร่ไม้ อัคคีก็ไม่อยากจะทำให้อายมากไปกว่านี้ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งควานหาเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายทั้งของตัวเองและของหญิงสาวเก็บมาวางไว้ให้ “ใส่เสื้อผ้าซะ แล้วขึ้นไปหาฉันบนห้อง เรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสื้อผ้าที่ถูกโยนมาคลุมร่างบางเอาไว้ ก่อนตัวเองจะแต่งตัวและลุกเดินออกจากตรงนั้นไป นารีกานต์มองตามร่างสูงที่เดินฝ่าความมืดไปอย่างสับสน ความคิดวุ่นวายตีกันเวียนวนถึงเหตุผลที่ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนหน้า มีเรื่องต้องคุยกันอย่างนั้นเหรอ? นารีกานต์ทวนคำนี้ในใจ ก่อนจะรีบยันตัวลุกขึ้นควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ เพราะคงไม่ดีแน่หากมีใครมาเห็นเธอเปลือยเปล่านอนอยู่บนแคร่อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
11.4K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.2K
bc

ไฟรักซาตาน

read
53.1K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
10.8K
bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1K
bc

ยังเก็บดวงใจไว้ให้เธอNC25+++

read
9.2K
bc

Warning baby เมียห้ามเลิกรัก

read
3.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook