CHAPTER 4

1481 คำ
CHAPTER 4 “ฉันร้องไห้พอใจหรือยัง” และแล้วการยอมรับกับเขาเพื่ออยากให้เรื่องมันจบๆ ไม่อยากที่จะต้องมานั่งปะทะอารมณ์รุนแรงแทบบ้าคลั่งกับคนที่ไม่มีเหตุผลเหมือนเขาเพราะแอลสามารถขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ มาเป็นเรื่องใหม่เพื่อที่จะหาเรื่องได้ “หึ ร้องเพื่อ?” ทีแรกก็กะว่าจะไม่ตื่นหรอกเพราะได้นอนไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมาเพียงแต่ได้ยินเสียงของคนโง่ๆ สะอื้นแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นแหละถึงได้ลืมตาขึ้นมาอีก เสียงนั้นมันช่างขัดเคืองกับรูหูของผมเสียจริงด้วยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องตื่นมาพร้อมกับความหงุดหงิดแบบเต็มแก่ น้ำตามันเป็นสิ่งที่ผมไม่ปรารถนาเป็นอย่างยิ่งและมันก็รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงอ่อนแอพวกนี้ถึงมันจะน่าสงสารด้วยเพราะเป็นเสียงสะอื้นเบาๆ สื่อความคนที่เปล่งออกมามีความทุกข์ร้อนไม่สบายใจเพียงไหนแต่ในบางครั้งมันก็อาจจะเป็นเพียงความตอแหลจากใครบางคนเพื่อให้คนอื่นๆ ที่ได้ยินเกิดความสงสารหรือไม่ก็เรียกร้องความเห็นใจเท่านั้นและผมก็คิดว่ามันเป็นแบบหลังมากกว่า “ระ ก็ร้องให้กับความเจ็บปวด อึก ทะ ที่เมื่อไหร่ฉันจะหลุดพ้นยังไงล่ะ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสนิทมองไปยังแอลที่ยังจดจ้องเธออย่างไม่ละสายตาจึงทำให้สายตาทั้งสองต่างก็ฟาดฟันกันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชโดยไม่มีใครยอมใครในนาทีนี้ มันเป็นครั้งแรกด้วยที่ฉันกล้าทำแบบนี้กับคนอย่างเขาทั้งๆ ที่ไม่เคยกระทำมาก่อนตลอดตอนอยู่ด้วยกันความกดดันมันเสมือนเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ช่วยให้ความเกรงกลัวภายในจิตใจน้อยลง “…” มันก็ดีไม่น้อยที่โชคชะตาให้ผมได้เห็นอีกด้านหนึ่งของผู้หญิงที่ชื่อมิชาในอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดหกเดือนที่ผ่านมา แต่อย่าบอกนะว่านี่เป็นความโกรธของคนอย่างเธอบอกเลยว่ามันไม่ได้น่ากลัวแม้แต่น้อยถึงแม้จะมีสีหน้าจริงจังก็เหอะ “ไหนจะเป็นครั้งแรกที่ผู้ชายเลวๆ ชั่วช้าอย่างนายพรากไปจากตัวของฉันอีก ทะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะคนอย่างนายไงแอล คนอย่างนาย!” “เหรอ?” เป็นคำสั้นๆ ที่ไม่ได้แฝงความสงสารสำหรับผมมันมีแค่ความสังเวชที่ส่งผ่านจากแววตาสีนิลดำน่ากลัว ก็ดี ดีเหมือนกันรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาพูดเดี๋ยวจะจัดให้เอง “แต่ทุกคนมันก็มีครั้งแรกหรือไม่ใช่?” น้ำเสียงกวนอารมณ์คู่สนทนาดังขึ้นราวกับมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจสายตาแวววาวดูสดใสขึ้นเป็นเท่าตัวเพียงเพราะได้เห็นความเจ็บปวดของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าได้รูปสวยเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าน้ำตาเอ่อไหลอีกครั้งทั้งที่มันได้แห้งเหือดหายไปแล้วก็ตาม “…” ความปวดใจที่เหมือนกับมีใครเอาเหล็กรนไฟมาจี้ทั้งที่ยังร้อนๆ ปลุกความทรมานความปวดร้าวที่ต่างซุกซ่อนเอาไว้ให้รุกช่วงโชติอีกครากับเรื่องเก่าๆ “อีกอย่างเธอก็มีนินิชา...” “แอล!” ฉันพลาดแล้ว พลาดที่เอ่ยเรื่องแบบนี้ขึ้นมากับผู้ชายอย่างเขาผู้ชายที่เหมือนกับหมาป่านักล่าที่ไม่เคยกัดแล้วจะปล่อยไปง่ายๆ ถ้าเหยื่อของเขาไม่หายใจรวยรินอ่อนล้าหรือสิ้นใจต่อหน้าต่อตา บทเรียนที่กล้าไปต่อล้อต่อเถียงกับเขามันก็เกิดขึ้นแล้วทำไมฉันไม่คิด “ไม่ใช่สิ...จะพูดให้ถูกเธอเคยมีก่อนหน้าในหกเดือนที่ผ่านมาต่างหาก” รอยยิ้มเหยียดเผยอย่างไม่ปิดบัง “ย้ำนะว่าเคยมี” “ปล่อย..” ทำไมฉันจะไม่เข้าใจว่าคนชั่วร้ายตรงหน้าพูดขึ้นมามันหมายความเปรียบเทียบกับสิ่งไหนในตัวของฉันเอง ฉันรับรู้ในสิ่งที่แอลพูดขึ้นดีดีเยี่ยมด้วยซ้ำไป “จะรีบไปไหนล่ะ อยู่รื้อฟื้นหน่อยเป็นไร?” “…” “แต่ถ้ารื้อฟื้นก็โปรดทำความเข้าใจไว้ด้วยว่ามันอาจไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่นัก ไม่มีเลือดสีแดงจางๆ เปื้อนตรงผ้าปูที่นอนเหมือนครั้งนั้น...” นักล่าอยากผมไม่มีวันปล่อยผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเหยื่อหลุดไปง่ายๆ แน่ถ้าเหยื่อตัวนั้นไม่ได้แผลกับไปเป็นของขวัญฝากร่างกายถึงแม้ว่าร่างกายของจะดูบอบซ้ำจนเกินเยียวยาแล้วก็ตามเพราะว่าตอนนี้มันก็ดูเหมือนคนติดโรคด้วยซ้ำไปแต่ช่างแม่งสิใครสนล่ะ “พอ..ฉะ ฉันไม่อยากฟัง” “รับไม่ได้หรือไงว่าเธอไม่มีสิ่งนั้นแล้ว?” ผมไม่สนใจอะไรนอกจากเธอต้องฟังจนจบถึงแม้มิชาจะเริ่มดิ้นกายแค่ไหนเพื่อปลดฝ่ามือของผมออก “แต่เธอมีได้นะถ้าฉันทำฉีกขาด” “นะ นายมัน..” “มันชั่วเลวสารเลว ถุย!” คำนี้ฟังมาตลอดแล้วถ้าไม่ฟังวันหนึ่งก็ไม่ตายหรอก มิชาพูดใส่หน้าของผมทุกวันแล้ววันนี้ผมก็พูดขึ้นเองบ้างไง “…” “สนใจทำด้วยกันไหม?” “นายมันโรคจิตประสาทไปแล้วแอล!” ยิ่งเมื่อแอลใช้ลิ้นไล่เลียไปตามริมฝีปากของตัวเองพร้อมกับเริ่มขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของฉันเรื่อยๆ “ปล่อยฉัน อย่าเข้ามาใกล้!” “คิดว่าสั่งได้ก็ลองดูวะ” จบประโยคใบหน้าที่พระเจ้าช่างแต่งปั้นให้ดูดีราวเจ้าชายก็ซุกไซร้จมูกโด่งเป็นสันเข้ามาโลมเลียซอกคอขาวซ้ำด้วยริมฝีปากได้รูปจากนั้นลิ้นร้อนก็จัดการแทรกแซงออกมาจากริมฝีปากสัมผัสบริเวณกระดูกไหลปลาร้าวนไปเวียนมาจนสุดท้ายเขาก็เลือกจัดการฝังรอยฟันขาวลงไปในเนื้อนุ่มโดยปราศจากความปรานี “อือ..โอ้ยเจ็บ!” เสียงร้องโหยหวนของฉันเองออกมาค่อนข้างดังมากพร้อมทั้งร่างกายได้เข้าไปประชิดกับอกแกร่งของแอลทันทีถึงแม้มือทั้งสองข้างจะผลักเขาออกไปจากร่างกายมากเพียงความเจ็บปวดก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น “…” “โอ้ย...เจ็บ ปะ ปล่อย” “…” “ยะ หยุดนะ ฉันเจ็บ” หรือเขาจะไม่ต้องการให้ผลักร่างกายจึงเปลี่ยนเป็นการโอบกอดแล้วเปลี่ยนเป็นจิกเล็กเข้ากับเนื้อกลางแผ่นหลังของเขาบ้างเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่ได้รับมา หึ คิดจะแลกความเจ็บปวดที่ได้รับกับการใช้แรงเพียงเล็กน้อยที่ต่างระดมเล็บทั้งสิบนิ้วเข้ามาจิกลงไปยังเนื้อของผมงั้นเหรอเป็นการตอบโต้ที่สมน้ำสมเนื้อดีวะ แต่ทว่าผมไม่ทำอยู่จุดเดียวหรอกจึงเปลี่ยนที่กระทำเหมือนเดิมไปอีกข้างหนึ่งทำในลักษณะเดียวกัน “อ๊ะ แอลยะ หยุด” ตุบๆ จากการใช้เล็กจิกเข้ากลางหลังแต่ขณะนี้ฉันต้องเปลี่ยนเป็นตุบตีบ้างเพื่ออยากให้เขาหยุดทำร้ายทารุนร่างกายของตัวเองที่มันเจ็บปวดจนเกินไปแล้วและมันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป พึ่บ! ผมกระชากผ้าห่มที่ปกปิดอกใหญ่ได้รูปของมิชาออกหลังจากที่รู้สึกเบื่อกับการกัดบริเวณกระดูกไหลปลาร้าของเธอแล้ว ก็อย่างว่าความเบื่อหน่ายสำหรับผมมันเป็นสิ่งที่คู่กันอยู่แล้วไง ความเย็นของอากาศเข้ามากระทบเนื้อตัวที่เปล่าเปลือยของฉันทันใดที่ผ้าห่มถูกกระชากออกจากตัวเอง บรรยากาศในห้องนี้มันเย็นมากเพราะเจ้าของห้องเขาไม่ได้หวั่นไหวกับอากาศแบบนี้ แอลเป็นคนขี้ร้อนมากจึงธรรมดาที่เขาจะชอบอากาศหนาวจะเปลือยร่างกายบนก็ยังได้แต่ฉันไม่ไง “เอาผ้าห่มมานะแอล” “เปลือยแบบนี้ก็ดีนิ” ไม่ว่าเปล่าสายตาสีนิลดำก้มมองลงไปสำรวจเรือนร่างที่ทั้งคืนเขาเป็นเจ้าของถึงแม้จะมีรอยซ้ำรอยดูดปนกันไปหมดจนแทบแยกไม่ออกแต่มันก็ยังสวยไม่มีที่ติสำหรับผมอยู่ดี “ไม่ฉันไม่ชอบ” “แต่น่าเสียดายที่ชั้นชอบชอบมากจนไม่มีทางที่เธอจะได้ห่มผ้าแน่” ว่าแล้วความไวของร่างกายก็จัดการให้ร่างกายเล็กอยู่ภายใต้ร่างกายใหญ่ที่คร่อมเธออยู่ด้วยความง่ายดาย “ไม่มีทางมิชา...” “…” “หึ” ผมยังคงจับจ้องคนใต้ร่างที่ไม่ประท้วงอะไรเลยเพียงแค่นอนนิ่งๆ เท่านั้นเองนึกว่าจะพยศกว่านี้ด้วยซ้ำไป “เคยบอกแล้วว่าน้ำตาไม่ช่วยอะไร ไม่ช่วยให้ชีวิตของเธอดีขึ้นมิชา” “แล้วฉันอยู่กับนายชีวิตมันดีขึ้นไหม?” ฉันอยากถามเขาจริงๆ ถามแบบได้คำตอบกลับมา “นายทำแบบนี้กับฉันคิดว่าโบว์จะกลับมาหรือไง….”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม