เวลาต่อมา ณ ผับแห่งหนึ่ง
ฉันสามคนก้าวขาลงมาจากรถด้วยความมั่นใจก่อนจะเดินผ่านบรรดาเสือผู้หญิงและการ์ดหลายสิบคนเข้ามายังตัวผับ ที่นี่เป็นผับหรูที่อยู่ย่านธุรกิจกลางกรุงเทพ คนที่มาเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นมาเต้นหรือดื่มหรอกแต่เน้นมาหาเพื่อนคุยหรือเหยื่อมากกว่า
ฉันสามคนเดินตรงไปยังที่นั่งประจำที่เป็นเคาร์เตอร์บาร์ ตรงนี้วิวค่อนข้างดี เสียงเพลงไม่ดังมากจนเกินไปและสามารถมองเห็นบรรยากาศได้ทั่วทั้งผับ
" เอาเหมือนเดิมนะคะสุดหล่อ " ระหว่างที่รอน้องเดย์ ยัยหมวยมันก็หันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ส่งยิ้มมาให้พวกฉัน พวกฉันมาเที่ยวที่นี่บ่อยและทุกครั้งก็จะดื่มแต่ของเดิมๆ ไม่ "cosmo" ก็ "margarita"
เครื่องดื่มพวกนี้ไม่แรงจนเกินไปดื่มได้เรื่อยๆ ทั้งคืน ซึ่งบาร์เทนเดอร์ของที่นี่จะรู้ดีว่าพวกฉันแต่ละคนคออะไร
ทันทีที่เครื่องดื่มมาเสริฟฉันก็จัดการยกขึ้นดื่ม ดวงตาเฉี่ยวคม
ของฉันสำรวจบรรยากาศไปจนทั่วเพราะมักจะมีนักธุรกิจ ไฮโซน้อยใหญ่รวมทั้งเหล่าดาราหลายคนก็ชอบมานั่งมาดื่มกัน ฉันยังเคยถูกใจพวกเขาแล้วออกไปต่อกันที่อื่นเลย
พอนั่งกันได้สักพักยัยหมวยก็หันมาสะกิดฉันกับยัยปลายกใหญ่
" คนนั้นใช่เด็กหนุ่มที่ช่วยมึงไว้วันก่อนหรือเปล่าวะ " ฉันหันไปมองคนที่ยัยหมวยกำลังพูดถึง ผู้ชายสูงโปร่งยืนหันข้างให้ฉัน เขาถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนผู้ชายอีกหลายคน มือที่ยกแก้วเหล้าพร้อมกับกระดกมันลงไปกว่าครึ่งถึงจะดูขัดกับหน้าตาขาวใสสะอาดอยู่บ้างแต่ก็กร้าวใจฉันมาก
" หล่อเป็นบ้า! วันนั้นใส่ชุดนักศึกษาก็ว่าหล่อแล้วนะพอแต่งตัวแบบนี้แล้วหล่อขึ้นไปอี้กกก " ยัยหมวยชื่นชมเด็กหนุ่มคนนั้นจนฉันเริ่มหมั่นไส้ แต่ก็จริงอย่างที่ยัยหมวยพูด ผู้ชายอะไรแต่งแบบไหนก็ดูดีไปหมด
คนนี้แหละพ่อของลูกอิโซ!
" หล่อสิก็นั่นน่ะอนาคตผัวกุย่ะ " ฉันบอกพวกมันพลางยกแก้ว margarita แล้วซดรวดเดียวหมดก่อนจะหันไปสั่งบาร์เทนเดอร์ใหม่
" จ้าาาอิแร_! แต่มึงช่วยเบาๆ หน่อยมั้ยเดี๋ยวก็เมาก่อนได้กินเด็กมันหรอก " ยัยหมวยแย่งแก้วจากมือฉันไปขณะที่ฉันกำลังจะยกตามอีกแก้ว
" ก็คืนนี้กุอยากเมาเผื่อว่ากุจะคุยกับน้องมันรู้เรื่องไง " ฉันสลัดมือยัยหมวยออกก่อนจะแย่งแก้วของฉันกลับมาแล้วซดจนหมด
สีหน้าเย็นชาแบบนั้นยังคอยตอกย้ำฉันอยู่เลย
" พวกกุสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่าวะ " ยัยปลาจ้องหน้าฉันอย่างเอาคำตอบ ฉันเลยจำเป็นต้องเล่าเรื่องวันนี้ให้พวกมันฟังแล้วก็ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะเยาะ
" สุดยอด! น้องมันเจ๋งว่ะ ปฏิเสธมึงได้สะใจกุมากกก เอ้า!ไว้อาลัยให้กับเศษหน้าของอิโซหน่อย 5555 " เพื่อนรักฉันทั้งสองคนชนแก้วกันอย่างมีความสุข บนความทุกข์ของฉันเนี่ยนะ
" หัวเราะกันเข้าไปเลย คอยดูนะถ้าน้องมันตกเป็นของอิโซคนนี้เมื่อไหร่กุจะประกาศให้รู้ทั้งโลกเลย " ฉันย่นปากใส่เพื่อนตัวดีอย่างคนที่ไม่แคร์แล้วหันไปหาอาหารตาของฉันต่อ คุยกับพวกมันแล้วอารมณ์เสียมาก
แต่เดี๋ยวนะ เป้าหมายของฉันหายไปไหนแล้ว!
" สงสัยเด็กมันจะมีจิตสัมผัสเลยต้องรีบหนีมึงไปก่อนไง 555 " ยัยปลาก็เยาะเย้ยฉันต่อ อะไรกัน เด็กคนนั้นมีสัมผัสพิเศษจริงๆ น่ะหรอ บ้าไปแล้ว! ฉันจะไม่ยอมพลาดโอกาสเป็นครั้งที่สามเด็ดขาด
ฉันเดินตรงไปที่โต๊ะของเด็กคนนั้น ชื่ออะไรฉันก็จำไม่ได้ วันนี้ที่เพื่อนเรียกก็ไม่ทันจะได้ฟังให้ชัด
" นี่พวกนาย เพื่อนไปไหนแล้ว ล่ะ " ฉันกวาดสายตาไปที่เด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ พวกเขามองมาที่ฉันราวกับจะกลืนกิน คงเพราะชุดที่ฉันใส่มันทั้งสั้นแล้วก็เซ็กซี่
" ไม่ได้ยินที่ถามหรอ หรือว่าจำฉันไม่ได้ " ฉันย้ำคำถามอีกครั้ง ก็เด็กกลุ่มนี้เล่นมองฉันไม่ละสายตาเลย
" หมายถึงใครครับ อ้อนึกว่าใคร! พี่ที่เป็นเลสเบี้ยนนี่เอง พี่ถามหาไอ้ป่าเปล่าครับ " เด็กหนุ่มที่ขอโทษฉันวันก่อนโผลงขึ้นกลางวง ฉันก็ดีใจอยู่หรอกนะที่จดจำฉันได้แต่คำว่า "เลสเบี้ยน" นี่สิ รู้สึกไม่ชอบเท่าไหร่
แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รู้แล้วว่า...ผัวในอนาคตของฉันชื่ออะไร
" เพื่อนพวกนายชื่อป่าหรอ " ฉันถามเพื่อแน่ใจว่าฟังไม่ผิด คนอะไรชื่อป่า
" ครับ จริงๆ มันชื่อเจ้าป่า แต่พวกผมขี้เกียจเรียก มันเปลืองคำ " หนุ่มหน้าตาทะเล้นคนนึงอธิบายให้ฉันฟัง
เจ้าป่าอะไรกันมาเป็นเจ้าของชีวิตฉันไม่ดีกว่าหรอ
" มันกลับบ้านแล้วล่ะพี่ พรุ่งนี้มีสอบมันเลยต้องกลับไปอ่านหนังสือ พี่มีอะไรกับมันหรือเปล่าครับ " หนุ่มคนเดิมถามฉัน
" เพื่อนพวกนายลืมของไว้ที่ฉันน่ะ ฉันขอเบอร์หน่อยสิ จะได้เอาของไปคืน " ฉันชูกระเป๋าหนังสีดำแบรนด์เนม เป็นกระเป๋าที่เด็กคนนั้นทำหล่นเอาไว้ ความจริงฉันก็ตั้งใจจะคืนให้เลยแต่ฉันก็ดันถูกปฏิเสธกลางอากาศก่อนไง
" ฝากผมเอาไปให้มันก็ได้นะครับ "
" ไม่ได้หรอก ฉันอุตส่าเก็บเอาไว้ให้เพื่อนพวกนายก็ควรจะตอบแทนฉันหน่อยสิ "
" ก็ได้ครับ งั้นเอามือถือพี่มาดิ " แล้วเด็กหนุ่มคนนึงก็กดเบอร์มือถือให้ฉัน พอได้เบอร์มาแล้วฉันก็ออกมาจากร้านมาเลยแต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งไลน์ไปบอกเพื่อนฉันสองคนว่าฉันตัวขอกลับก่อน
จากนั้นฉันก็กดไปหาเป้าหมาย
" ครับ " แค่เพียงได้ยินเสียงผ่านสายโทรศัพท์ก็ทำเอาหัวใจของฉันเต้นระส่ำ อยู่ๆ ฝ่ามือที่ชุ่มเหงื่อก็เย็นเฉียบราวกับก้อนน้ำแข็ง
ฉันจะพูดอะไรดี ตื่นเต้นโว๊ยยย!!
" ถ้าไม่พูด ผมจะวางแล้วนะ " เป็นน้ำเสียงที่เย็นชามากเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา
" เดี๋ยวก่อน! ออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ย ฉันมีของจะให้ " ฉันรวบรวมสติแล้วใช้เสียงสองถามออกไปแบบรวบรัดตัดตอน
" โรคจิตสินะ " อยู่ๆ เสียงนุ่มทุ้มน่าฟังก็เงียบไปเลย ไม่ใช่ว่าน้องเขารอฟังฉันพูดหรอกนะแต่วางสายไปแล้วต่างหากล่ะ
ฉันโทรออกเบอร์เดิมอีกครั้งแต่ก็ไม่ยอมรับสายฉันเลย ฉันเดินลิ่วๆ ไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่เพื่อตั้งหลักก่อน หลังจากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งหน้าโทรไปที่เบอร์เดิม ฉันโทรเป็นสิบๆ ครั้ง โทรจนรู้สึกเมื่อยนิ้วมือ
จนในที่สุด.. ความพยายามของฉันก็สำเร็จจนได้
" ที่ผมไม่รับสายก็น่าจะรู้แล้วนะว่าผมไม่อยากคุย ถ้ามีอารมณ์มากผมแนะนำให้ไปซื้อกิน ไม่ใช่โทรมาโรคจิตใส่คนอื่นแบบนี้ แค่นี้.... "
" เดี๋ยวก่อนสิ! กระเป๋าสตางค์นายอยู่กับฉัน " ฉันโผลงขึ้นก่อนที่จะถูกตัดสายอีกครั้ง เมื่อกี้ฉันคงจะเสียงดังไปหน่อยคนที่มารอรถเมล์เลยพากันมองมาที่ฉันหมดเลย
" ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ได้ถูกลวงไปปล้นทรัพย์ " ฉันอยากจะโผล่ขึ้นจากจอมือถือได้แล้วกระโดดกัดลิ้นเจ้าเด็กนั่นให้ขาดไปเลย คนสวยหุ่นบอบบางอย่างฉันน่ะหรอจะมีใจคิดชั่วร้ายแบบนั้นแต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ไม่แน่
" ก็ตามใจ แต่จะว่าไปผู้ชายที่มีผมสีขาวโพลนไปทั้งหัวก็หล่อเอาการเลยนะแล้วเด็กผู้ชายที่เขาอุ้มอยู่นี่ใช่นายหรือเปล่า คนอะไรโตจนป่านนี้แล้วยังกล้าใส่กางเกงในถ่ายรูปอีก " ฉันนั่งจ้องรูปที่ถืออยู่ในมือแล้วแอบเขินแทนเจ้าตัวไม่น้อย เด็กผู้ชายที่ฉันพูดถึงคงเป็นคนที่ฉันคุยอยู่ตอนนี้แหละ
อร้ายยย! ออร่าความเป็นผัวเปล่งแสงตั้งแต่เด็กเลย
" จะให้ผมไปเอาที่ไหนครับ " นายนั่นถามฉัน
อะไรกัน หวงรูปขนาดนี้เลยหรอ น่ารักอ่าา
" ลาดพร้าว6 enyoy อพาร์ทชั้น3ห้อง507นะ ให้เวลาชั่วโมงนึงพอมั้ย "
" ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ " แล้วนายนั่นก็วางสายไปเลย
ส่วนฉันก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับกระเป๋าสตางค์สื่อรักแล้วก็นึกขอบคุณมันในใจ
ก่อนที่ฉันจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่
พอฉันบอกทางกลับห้องกับพี่โชว์เฟอร์ไปแล้วฉันก็จินตนาการถึงชุดนอนตัวโปรด...
คืนนี้จะใส่ชุดไหนดี เอาแบบที่ไม่ได้นอนน่ะ!