บทที่8
สัมผัสที่ไม่ใช่เธอ
มันเหลือเชื่อมากเลยนะครับ เมื่อทีมงานชุดแรกกลับไปชุดที่สองก็เข้ามาเลยแต่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบ้านหลังนี้เฮี้ยนมาก ผมเลยปรามทีมงานไม่ให้พูดเพราะเกรงใจคุณลิสา หนึ่งในทีมงานคือน้องปุ๊ก น้องจะมีจิตที่สื่อถึงวิญญาณทุกคนมองหน้าน้องปุ๊กที่กำลังจะร้องไห้ เพื่อนๆ ของเธอเลยต้องรีบพามานั่งกับพวกผม
“พี่ภัทรเขาเศร้ามากเลย เขารอคอยมาเป็นร้อยปีแล้ว วิญญาณอาฆาตมากนะพี่ เขาไม่ยอมปล่อยผู้หญิงที่อยู่ในบ้าน”
“ฉิบหายและ”
ใช่ฉิบหายแล้วล่ะเพราะทีมงานชุดนี้ไม่รู้จักลิสา แถมผมยังไม่เคยบอกด้วยว่าลิสาอยู่ข้างในบ้าน
“แล้วเราจะปลดปล่อยเขาได้ไหมปุ๊ก” ภัทรถามรุ่นน้องด้วยความร้อนใจ
“ปลดปล่อยยังไงในเมื่อเขาไม่ไป เวรกรรมที่ทำด้วยกันมาต้องรอมันหวนกลับมาบรรจบกันอีกครั้งเพื่อแก้กรรม”
“ไม่เข้าใจ” ผมพูดออกมาเบาๆ เพราะผมไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อแต่มันแค่พิสูจน์ไม่ได้
“วิญญาณเจ้าของบ้านกับเจ้าของบ้านหลังนี้เขามีเวรมีกรรมกันมาตั้งแต่อดีตชาติค่ะพี่ บางทีกรรมใครก็กรรมมันเราก็ช่วยได้แค่ให้หนักกลายเป็นเบา สิ่งที่เขาต้องการคือชีวิต เขาไม่ได้ต้องการให้สมหวัง”
“อีผีระยำ!” ภัทรอุทานออกมาจนทุกคนพากันเงียบ ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ทุกคนเลยต้องรีบทำงานให้ไวที่สุด
ผมเดินเข้ามาด้านในเพื่อดูคุณลิสาตอนนี้เธอตื่นขึ้นมานั่งมองรอบๆ ห้องพอเห็นผมก็ถอนหายใจออกมา ผมเลยเข้าไปถามถึงอาการป่วยของเธอและเอากำไลในกระเป๋าเสื้อมาใส่ให้
“อะไรคะเนี่ย”
“กำไลปลุกเสกของหลวงพ่อไอ้ภัทรครับ ใส่ไว้ผมจะได้สบายใจ”
ผมสบตากับคุณลิสาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเมื่อช่วงบ่าย แววตานี้สิที่เป็นเธอไม่ใช่แววตาเมื่อตอนบ่ายเลย นี่ผมกำลังเจออะไรอยู่กันแน่
“เมื่อกี้ฉันฝันถึงนิยายที่เขียน ฉันคิดว่าฉันอาจจะทำงานมากเกินไปจนเก็บไปฝัน”
“คุณควรพักบ้าง ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้รู้สึกดีกับคุณนัก...” คำพูดมากมายมันจุกอยู่ในอกแต่ไม่กล้าที่จะพูดออกมา มันจะเร็วเกินไปไหม
“ปกติจีบผู้หญิงแบบนี้ทุกคนไหมคะ”
“ไม่ๆๆ ผมไม่เคยจีบผู้หญิงเลยจริงๆ นะครับ ผมเป็นคนบ้างานแต่ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกดีกับคุณขนาดนี้”
ดูเหมือนว่าการพูดคุยของทั้งสองจะทำให้ดวงวิญญาณของสาวปริศนาไม่พอใจนัก เธอกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง แต่คนที่ได้ยินคือน้องทีมงานที่นั่งสวดมนต์แผ่เมตตาจนเลือดกำเดาไหล ภัทรจึงต้องเบรกงานมาดูแล
‘เหตุใดท่านขุนถึงเลือกมันเจ้าคะ ทำไมถึงมองข้ามน้องไปฮือออ’
‘เพราะมึงคนเดียวอีอุษา กูจะไม่มีวันยอมให้มึงกับท่านขุนได้ครองรักกัน ไม่ว่าภพชาติใดกูก็ไม่ยอมกรี๊ดดดดด’
ปั้ง!! เสียงหน้าต่างปิดด้วยความแรงแม้จะไม่มีลม สิบทิศเริ่มไม่สบายใจจึงชวนอลิสาออกมาทานข้าวกับน้อง ๆ ทีมงาน ซึ่งเธอก็ตกลงอย่างน้อยจะได้พูดคุยเรื่องสถานที่ด้วย
มาถึงร้านอาหารสิบทิศก็ขยับเก้าอี้ให้อลิสานั่งจากนั้นก็ส่งเมนูให้เธอเลือก อลิสาเป็นผู้หญิงง่ายๆ เธอทานได้ทุกอย่าง ไม่เรื่องมากแถมคุยง่ายจนทีมงานทุกคนสนุกกับการทำงานในครั้งนี้
“อร่อยไหมครับ” ผมมองหน้าคุณลิสาที่กำลังยิ้มให้ผมจนน้องๆ พากันยิ้มตาม
“อร่อยค่ะ”
“คุณอลิสาไม่มีแฟนเหรอครับ” พีรภัทรหลอกถามสาวข้างกายเพื่อนเพื่อความแน่ใจแต่ดูเหมือนว่าสิบทิศเองก็อยากฟังมันอีกครั้งเหมือนกัน
“ลิสายังไม่มีแฟนค่ะ ทำแต่งานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เลย”
“เหมือนเพื่อนผมเลยนะครับ มันก็ไม่ยอมมีแฟน”
เป็นการชงที่ทำให้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน อลิสารีบก้มหน้าลงด้วยความเขินไม่ต่างจากสิบทิศที่หน้าแดงระเรื่อจนน้องๆ ต้องแซว
ถึงเวลาสิบทิศก็ขับรถมาส่งอลิสาแต่การมาส่งของสิบทิศในวันนี้ทำให้สิบทิศเห็นภาพบางอย่างจากหน้าบ้าน เงาสีดำกำลังนั่งมองตนกับอลิสาอยู่บนต้นไทรข้างบ้าน ชั่วพริบตาเงานั้นก็หายไป
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณสิบทิศ”
“ผมจะให้ทีมงานมานอนเฝ้าของที่นี่ หรือไม่ก็เป็นผมจะน่าเกลียดไหมเดี๋ยวค่าใช้จ่ายผมจะจ่ายเพิ่มให้”
สีหน้าของสิบทิศดูเป็นกังวลมาก อลิสาเลยมองเข้าไปในบ้านที่เปิดไฟอยู่ จิตใจเธอก็เริ่มกลัวเหมือนกันจากที่ไม่เคยกลัวสิ่งลี้ลับตอนนี้กลับไม่สบายใจทุกครั้งที่อยู่คนเดียว
“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเตรียมห้องไว้ให้”
“ครับ มีอะไรโทรหาผมได้ตลอดเลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ”
เศษใบไม้ที่หล่นลงมาติดบนผมของอลิสาถูกสิบทิศหยิบออกให้อย่างเบามือ ทั้งสองต่างหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้สบตากัน สิบทิศเห็นภาพแม่หญิงอุษาอยู่ในร่างของอลิสาแถมยังมีรอยยิ้มที่ซุกซน เช่นเดียวกับอลิสาที่จู่ๆ ก็เห็นภาพท่านขุนทับซ้อนกับคุณสิบทิศทั้งสองจึงต้องสลัดความคิด ก่อนที่สิบทิศจะขอตัวกลับ
วันต่อมา...
อลิสาตื่นขึ้นมาเตรียมห้องให้คุณสิบทิศซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ เธอจัดที่นอนเช็กความเรียบร้อยจนกระทั่งรถของสิบทิศขับเข้ามาเธอจึงรีบลงมาต้อนรับแล้วพาสิบทิศขึ้นมาดูห้องนอน
ทันทีที่สิบทิศก้าวขาขึ้นมาก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่ตนเห็นมันเหมือนในฝันแทบทุกอย่าง ภาพในฝันมันชัดเจนจนตนจำรายละเอียดทุกอย่างได้หมด ห้องที่ตนเคยนอนคือห้องทางซ้ายมือ
“ห้องด้านซ้ายเป็นห้องของลิสาส่วนคุณสิบทิศนอนห้องนี้นะคะ” ฉันพาคุณสิบทิศเข้ามาดูห้องนอนแต่เหมือนคุณสิบทิศจะอึ้งๆ กับบ้านหลังนี้ มันอาจจะดูน่ากลัวไปบ้างแต่ฉันอยู่มาก็ไม่เห็นจะเจออะไรเลย
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ขาดเหลืออะไรบอกลิสาได้นะ เดี๋ยวลิสาจะจัดการให้ค่ะ”
“คุณลิสาเขียนนิยายไปถึงไหนแล้วครับ”
“ลิสาเขียนเกี่ยวกับดวงวิญญาณที่เฝ้ารอพระเอกกับนางเอกค่ะ ตอนนี้เขียนมาได้ครึ่งนึงแล้วเดี๋ยวลิสาเอามาให้อ่านนะคะ”
“ครับ” ผมมองคุณลิสาที่วิ่งลงไปข้างล่างช่างแสนซนจริงๆ แม่คุณเธอกลับขึ้นมาพร้อมไอแพดของเธอ ผมจึงได้ลองอ่านคร่าวๆ ก็ต้องตกใจ เพราะสิ่งที่เธอเขียนมันคือสิ่งที่ผมฝันเลย