ความบังเอิญ
บทที่1
ความบังเอิญ
คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาและพรหมลิขิตไหม ฉันไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไงดี แต่การที่คนเราได้พบพานล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีบุญวาสนาร่วมกันมาทั้งนั้น หากหมดสิ้นบุญวาสนาก็ต้องจากกัน…อยู่ที่ว่าจะจากกันแบบไหนเท่านั้นเอง
อลิสา สาวสวยน่ารัก อนาคตไกล เธอมีอาชีพเป็นนักเขียนอิสระชีวิตของเธอกำลังไปได้สวยเพราะนิยายของเธอขายดีจนเธอมีเงินในบัญชีหลายล้านมาร่วมครึ่งปีแล้ว
ความฝันของอลิสาคืออยากมีบ้านที่อบอุ่น มีต้นไม้เยอะๆ เธอจึงเข้าไปดูในกลุ่มที่ลงประกาศขายบ้านและที่ดิน จนไปเจอบ้านทรงไทยโบราณ บรรยากาศรอบบ้านมีต้นไม้ปกคลุม แถมยังมีสระบัวในแบบที่เธอฝัน ราคาก็แสนจะถูกเธอจึงได้ทำการติดต่อขอเข้าไปดูบ้านหลังนี้กับเจ้าของโพสต์ที่ทิ้งเบอร์ติดต่อเอาไว้
"สู้เขาอีสามึงต้องทำได้ บ้านหลังนี้บรรยากาศเหมาะกับโปรเจคใหม่จริงๆ นิยายผี" เสียงเจื้อยแจ้วดังออกมาจากร้านสะดวกซื้อในยามค่ำคืน สายลมพัดผ่านปะทะผิวหน้าอย่างเย็นยะเยือก ชวนขนหัวลุก
วันต่อมา...
อลิสาเดินทางมาบ้านทรงไทยโบราณพร้อมกับเมย์ เพื่อนรักของเธอที่ทำงานอยู่สำนักพิมพ์ เมื่อรถยนต์ของเมย์ขับเข้ามาจอด สายลมราวกับพายุก็พัดเข้ามาทำให้หมวกของสองสาวปลิวไปตามลม
"เมย์มึงเข้าไปหาคุณบัวก่อนเถอะ เดี๋ยวกูไปเก็บหมวกแป๊บนึง"
"อืมเร็วๆ ล่ะ"
อลิสาเดินมาจนถึงต้นไทรก็พบว่าหมวกของเธอและหมวกของเมย์ปลิวมาอยู่ตรงโคนต้นไทร เธอจึงรีบเข้าไปหยิบแต่เพียงชั่วพริบตาอลิสาก็ต้องตกใจ
"เชี่ย!!!"
จากรากไม้กลายเป็นขาคนได้ไง หรือว่าฉันคิดไปเองหรือหิวจนตาลาย สายลมที่พัดย้อนมาทำให้ฉันต้องรีบกลับไปหาเพื่อนที่ยืนรออยู่โดยที่ไม่ยอมเข้าบ้าน
"มึงแน่ใจนะอีสาว่าจะซื้อที่นี่ กูรู้สึกอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ว่ะ" เมย์ทำท่าขนลุกซู่แต่ก็เดินตามเพื่อนเข้ามาหาเจ้าของบ้านที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
"คุณบัวสวัสดีค่ะ" สองสาวยกมือไหว้เจ้าของบ้านที่ยืนยิ้มหน้าบาน
"สวัสดีค่ะ น้องอลิสาใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
"แม่คะ!!!! อุ๊ยผี!!!!" เด็กสาววัย9ขวบวิ่งออกมาจากบ้านแต่เธอก็อุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นอลิสายืนอยู่ตรงหน้า
"ใยไหมเงียบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!!"
สองสาวมองหน้ากันด้วยความสับสน แต่คุณบัวก็ยังพาพวกเธอเข้ามาดูด้านใน ภายในบ้านดูทันสมัยไม่ได้มีแต่ของโบราณซะทีเดียว
"คุณบัวคะ คุณบัวอยู่ที่นี่มาตลอดเลยใช่ไหมคะ" อลิสาถามออกมาด้วยความสงสัยเพราะที่นี่ดูเหมือนไม่มีใครอยู่เลย แต่ทุกอย่างดันไม่มีผุพังแม้แต่นิดเดียว
"ปกติพี่ไม่ได้อยู่ที่นี่คะ พี่อยู่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัดแฟนพี่รับราชการอยู่ที่นั่น ส่วนบ้านหลังนี้ส่งต่อมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ทวดแล้วค่ะ เก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้มีแต่จะผุพังเอาเปล่าๆ"
สองสาวมองดูสภาพบ้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกแก้วหอมโชยมาตามลม เรื่องบรรยากาศถือว่าที่นี่เหมาะกับการทำงานของอลิสาเหลือเกิน ทั้งเงียบ ทั้งสงบ แถมไม่ร้อนเหมือนในเมืองอีกด้วย
“มึงกูว่ามันน่ากลัวเกินไป แถมยังอยู่หลังเดียวโดดๆ เลย มึงเป็นผู้หญิงนะอีสา” เมย์เตือนเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงเพราะการที่ผู้หญิงต้องอยู่ตามลำพังมันน่าอันตรายมาก
เหมือนว่าทั้งสองจะคุยกันถึงเรื่องความปลอดภัยจนคุณบัวเจ้าของบ้านแอบหวั่นใจว่าจะขายบ้านหลังนี้ไม่ได้แล้ว
“เอาไงดีมึงใจกูก็อยากได้นะกูรู้สึกถูกชะตากับที่นี่นะแต่เรื่องความปลอดภัยก็แบบที่มึงว่านั่นแหละ กูอยู่คนเดียวมันอันตราย”
“น้องอลิสาถ้าสนใจพี่จะลดราคาให้พี่คิดแค่7แสนถ้วน”
ราคาที่คุณบัวเสนอมาทำเอาอลิสาโอนไวทันที จาก1ล้านเหลือ7แสนใครไม่ซื้อก็บ้าแล้ว อลิสารีบขอดูสัญญาการซื้อบ้านหลังนี้ทันที เมย์จึงขอเดินดูรอบๆ บ้านอีกครั้งเพราะเธอรู้สึกอึดอัดจนไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ต่างกับอลิสาที่ดูถูกอกถูกใจกับบ้านนี้เหลือเกิน
หลังจากที่อลิสาเซ็นสัญญาซื้อบ้านเสร็จคุณบัวก็ส่งกุญแจบ้านให้พร้อมกับแจ้งเรื่องนัดการโอนบ้านกันอีกที สองสาวเลยมองคุณบัวที่อุ้มลูกสาวโยนเข้าไปในรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
“อีสากูว่ามีผีเมื่อกี้กูเจอผ้ายันแปะเต็มบ้านเลย อีสาคืนบ้านตอนนี้ยังทันนะมึง!!” เมย์เขย่าแขนเพื่อนด้วยความกลัวแต่อลิสากลับส่ายหัวให้กับความขี้ขลาดของเพื่อนสาว
“ไปกลับเดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้บริษัททำความสะอาดเข้ามาเคลียร์ของ ปิดนิยายเรื่องนี้ให้มึงเสร็จกูจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ โปรเจคต่อไปเป็นนิยายผีแค่คิดกูก็ได้กลิ่นเงินลอยมาแล้ว เฮ้อออ”
ฟิ้วววว
สายลมพัดหวนวนไปวนมาเล่นเอาเมย์ต้องรีบวิ่งขึ้นรถด้วยความเร็ว เมื่อทั้งสองออกมาจากบ้านทรงไทยแล้วภายในบ้านกลับมีเสียงหน้าต่างเปิดปิดดังปึ้งปั้งไม่หยุดหย่อน
วันต่อมา...
อลิสาให้บริษัททำความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดบ้านทั้งหลังแต่ว่าเธอไม่ได้ตามมาดูเพราะต้องเร่งปิดนิยายให้บ.ก. ทำให้คนทำความสะอาดแกะผ้ายันต์ที่ถูกแปะไว้ตามเสา ประตูห้องออกจนหมด
“พี่แจ๋วข้างบนเรียบร้อยไหมพี่ ผมจะได้ถ่ายรูปส่งให้เจ้าของบ้าน” พนักงานหนุ่มตะโกนถามพนักงานรุ่นพี่แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ตนเลยต้องขึ้นมาดู
ปึก! ปัก! ปึก! ปัก!
ตอนนี้สาวร่างท้วมกำลังรำไทยด้วยท่าทางอ่อนช้อยอยู่กลางห้องโถงแถมยังหันคอมายิ้มสยองให้รุ่นน้องที่ขึ้นมาดู ภาพเบื้องหน้าเล่นเอาพนักงานชายสั่นเป็นเจ้าเข้าจนคนอื่นๆ ต้องเดินมาดู
“เหี้ยพี่แจ๋วผีเข้าเหรอวะ!!”
“กูไม่ใช่อีแจ๋ว!!!!!!!”