บทที่7
ภาพซ้อน
ผมเดินออกมาหาไอ้ภัทรที่ทำหน้าตาตื่นเต้นดูจอไอแพดอยู่ พอมันเห็นผมก็รีบส่งไอแพดให้ผมดูเลย อะไรนมเหรอส่งมาในไลน์ก็ได้ประเจิดประเจ้อฉิบ
“ไอ้สิบทิศมึงดูอะไรนี่ก่อน”
“อะไรวะ นมเหรอ?”
“ส้นตีนเถอะ รูปที่ถ่ายจากบ้านคุณอลิสาไง”
ผมรีบรับไอแพดจากไอ้ภัทรมาดูแต่สิ่งที่มันซูมให้ผมดูก็คือภาพที่ถ่ายติดผมกับลิสาตอนยืนคุยกันอยู่ แต่ที่ต้องทำให้แปลกใจก็คงเป็นภาพที่มันซ้อนกัน ใบหน้าคล้ายกับลิสาแต่ในรูปลิสายิ้มให้ผมแต่ภาพซ้อนนั้นกลับไม่ยิ้ม ชุดที่ใส่ก็ไม่เหมือนกันเลย เหมือนผมเคยเห็นชุดแบบนี้ที่ไหนนะ
“กูว่าบ้านหลังนั้นมันต้องมีประวัติ แต่ดูๆ แล้วคุณอลิสาน่าจะจิตแข็งใช้ได้เลยนะถึงไม่เจออะไรพวกนี้”
“อาจจะไม่มีอะไรก็ได้” ผมตอบส่งๆ ไปจะบอกว่าเป็นการหักเหของแสงก็ไม่ได้เพราะในภาพมันชัดมาก ตั้งแต่ช่วงลำตัวขึ้นไปเหมือนมีอีกคนยืนซ้อนอยู่
“มึงไม่รู้สึกแปลกๆ บ้างเหรอ”
ทำไมผมจะไม่รู้สึกแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าผมบ้า ยิ่งลิสาผมยิ่งไม่อยากให้เธอรู้เลยเพราะเธออยู่คนเดียว หากเธอรู้อาจจะกลัวเอาได้
“ก็มีบ้าง”
“แต่เงาที่ซ้อนกันมันเหมือนฝาแฝดของคุณลิสาเลยนะ หน้าเหมือนกันมากเลย”
ฝาแฝดงั้นเหรอ? หรือว่ามันจะเกี่ยวกับความฝันของผม ผมคุยกับไอภัทรจนมันกลับไปแล้วกลับมานั่งนึกถึงความฝันของตัวเอง ใช่มันต้องเกี่ยวกันแน่ ๆ ผมลองทักไปหาลิสาซึ่งเธอก็ตอบกลับมา อย่างน้อยรู้ว่าเธอไม่ได้กลัวหรือขอความช่วยเหลืออะไรผมก็เบาใจแล้ว
วันต่อมา...
หลังจากที่ผมประชุมกับลูกค้าเสร็จก็รีบขับรถมาที่บ้านของลิสา วันนี้พวกทีมงานจะเข้ามาดูสถานที่จริงพอมาถึงผมก็เห็นรถไอ้ภัทรจอดอยู่แล้ว ส่วนลิสาคุยกับทีมงานอยู่ที่ศาลาผมเลยเดินเข้าไปหาเธอพร้อมขนมที่ผมแวะซื้อมา
“คุณลิสาครับผมซื้อขนมมาฝาก”
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ทีมงานจะอยู่เซตฉากตอนกลางคืนด้วยพรุ่งนี้คุณภัทรจะลองโปรโมททางเพจรายการ คุณสิบทิศจะอยู่ด้วยไหมคะ” แม้จะมีหลายคนที่อยู่ด้วยในคืนนี้แต่ฉันก็อยากได้คนที่พอไว้ใจได้อยู่เป็นเพื่อน
“ได้ครับเดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อน พรุ่งนี้วันหยุดของผมพอดี”
ผมสังเกตเห็นลิสาบีบนวดตัวเองบ่อยมากจึงหยิบยานวดในรถมาให้เธอ ใบหน้าของเธอดูเพลียๆ เหมือนคนไม่ได้นอนผมเลยตัดสินใจถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณลิสาไม่สบายหรือเปล่าครับ”
“ลิสาแค่เมื่อยๆ เพลียๆ ค่ะสงสัยนอนไม่สบายตัว ปวดแขนปวดขามากเลย”
“ไปหาหมอไหมครับเดี๋ยวผมพาไป”
“ไม่เป็นไรค่ะ ได้ยาทาแล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”
ผมเดินมาดูทีมงานของไอ้ภัทรที่ทำท่ากลัวๆ กับบ้านหลังนี้เลยเรียกไอ้ภัทรมาถาม ซึ่งมันบอกว่าทีมงานเจอผู้หญิงใส่ชุดไทยเดินผ่านกล้องแถมเห็นกันทุกคนด้วย
“กลางวันแสกๆ เนี่ยนะ ตาฝาดหรือเปล่า”
“ไม่ฝาดอ่ะ พวกมันเห็นกันหมดทุกคนเลยกูเลยให้ไปจุดธูปไหว้ถึงได้ทำงานกันได้เนี่ยแหละ คืนนี้ทีมเซตฉากจะเข้ามารอดูว่าพวกมันจะเห็นอะไรไหม แต่กูอะสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาแล้ว”
เรื่องนี้ผมพอรู้ว่าไอ้ภัทรมันมีความสามารถพิเศษเห็นสิ่งลี้ลับแต่ผมไม่คิดว่าที่นี่จะมี เริ่มเป็นห่วงลิสาแล้วสิอยู่คนเดียวอันตรายแย่เลย
ด้านอลิสาตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนคนไปออกกำลังกายหนักๆ มาปวดร้าวไปหมดทั้งตัวจึงปลีกตัวออกมานั่งทำงานและงีบหลับไปด้วยความเพลีย วิญญาณหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องจึงออกมามองร่างของเธอ
‘กูจะไม่มึงได้สมหวังไม่ว่าจะชาติไหน กูก็จะทำให้มึงเจ็บปานจะขาดใจ!!’
///สิบทิศ///
ผมมองเข้าไปในบ้านเห็นลิสาหลับไปแล้วจึงบอกให้ทีมงานเบาเสียงลงหน่อยแต่พอหันมาอีกทีคุณลิสากลับมายืนอยู่ข้างๆ ผมราวกับเธอหายตัวได้เล่นเอาหัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย
“คุณลิสา! ผมตกใจหมดเลย” ไม่มีเสียงตอบกลับแต่คุณลิสากลับนั่งลงช้าๆ สายตาก็มองไปที่ทีมงาน
“ไม่สบายไปนอนก่อนก็ได้นะครับเดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง เหลือเก็บภาพบรรยากาศอีกหน่อยก็เสร็จแล้ว”
“จะกลับเลยไหมเจ้าคะ”
“ฮะ?” ผมหูฝาดไปใช่ไหม ผมพยายามมองหน้าของคุณลิสาที่ดูเปลี่ยนไป ดวงตาของเธอไม่สดใสเหมือนเดิม
“ผมจะอยู่กับคุณก่อนครับเดี๋ยวกลางคืนอีกทีมจะเข้ามา คุณลิสาเข้าไปพักก่อนก็ได้นะครับเดี๋ยวผมจัดการทางนี้ต่อเอง”
“เฮ้ยไอ้สิบทิศ!”
ทันทีที่พีรภัทรก้าวขาเข้ามาอลิสาก็หันขวับไปมองตาขวางแต่พีรภัทรกลับรู้สึกถึงความผิดปกติทันทีจึงเดินเข้ามาดึงเพื่อนให้ออกมาจากตัวบ้าน สายตาก็มองไปที่ร่างของอลิสา
“อะไรของมึงเสียมารยาทกูคุยกับคุณลิสาอยู่!!”
“นี่ใส่ไว้กำไลปลุกเสก กูแจกทีมงานทุกคนแล้วส่วนอีกเส้นมึงเอาไปให้คุณลิสา ใส่เลยนะ!”
พีรภัทรย้ำชัดว่าให้ใส่เลย สิบทิศจึงรับกำไลมาสวมใส่ก่อนจะหยิบอีกเส้นเข้ามาเพื่อใส่ให้อลิสาแต่กลายเป็นว่าเธอเดินหนีเข้าไปในห้องเสียก่อน
“ไว้คุณลิสาออกมามึงค่อยใส่ให้เธอ แล้วอย่าถอดนะ”
“ไร้สาระ!” สิบทิศหันไปบ่นอุบแต่พีรภัทรกลับมองหน้าเพื่อนอย่างห่วงๆ เพราะเมื่อกี้ตนได้เห็นอะไรบางอย่างแล้วเลยเกิดความเป็นห่วงเพื่อนจึงต้องไปเอากำไลที่ตนเอาไว้แจกทีมงานมาให้เพื่อนใส่เอาไว้