บทที่5
ภาพเลือนราง
ผมเปิดรูปดูก็ไม่เห็นมันผิดปกติอะไรผมหรือมันกันแน่ที่เมากาว ผมตัดความรำคาญเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินคุยกับคุณลิสาจนมาถึงสระบัวข้างบ้านที่เชื่อมต่อกับคลอง
“คุณลิสาสนใจทำงานกับผมไหมครับ ตอนนี้เพื่อนผมมันกำลังทำงานเกี่ยวกับรายการลี้ลับ แต่ผมไม่ถนัดเท่าไหร่ผมเลยลงทุนอย่างเดียว”
“ฉันเป็นแค่นักเขียนค่ะ ถ้าเขียนบทละครก็พอได้อยู่แต่ปกติจะไม่รับงานแนวนี้ นอกจากถูกจริตสำนักพิมพ์ถึงจะถูกเอาไปตีพิมพ์เท่านั้นค่ะ”
ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันไปจนสิบทิศเริ่มมีอาการขนลุก ทั้งสองไม่รู้เลยว่าขณะที่พูดคุยกันนั้นร่างกายของสิบทิศกำลังถูกสวมกอดด้วยวิญญาณหญิงสาวคนนึง ใบหน้าซีดเซียวน้ำตาของเธอไหลออกมาเป็นสายเลือด ดวงตาจ้องมองไปที่อลิสาอย่างอาฆาต
วันต่อมา...
รถบรรทุกขับเข้ามาจอดอลิสาก็รีบเดินออกมาเพื่อสั่งงานให้คนงานช่วยกันขนย้ายของเข้ามา บางส่วนก็ยกขึ้นไปด้านบน สายตาของคนงานต่างมองหน้ากัน บางคนก็รีบวางของแล้วรีบขึ้นไปรอที่รถ บางคนที่คล้องพระก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
“เท่าไหร่คะพี่สแกนได้ไหมคะ”
“คุณสิบทิศจัดการเรียบร้อยแล้วครับคุณอลิสา พวกผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ สวัสดีครับ” คนขับรถมองขึ้นไปยังชั้นสองจากนั้นก็ทำหน้าตกใจอะไรบางอย่าง สองขารีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
อลิสามองขึ้นไปบนบ้านก็ไม่เห็นอะไร บ้านทรงไทยธรรมดาๆ ต้องกลัวอะไรขนาดนี้เลยหรือไงกัน
“บ้าชะมัด!”
บริษัทTECกรุ๊ปจำกัด
ผมนั่งฟังการประชุมที่กำลังพูดถึงงบประมาณในส่วนของไอ้ภัทรที่กำลังตั้งหน้าตั้งตากับโปรเจคใหม่ของมัน มันเป็นเพื่อนรักของผมที่ผมไว้ใจมาก บ้านของมันก็ทำงานให้ผมมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่จนมาถึงรุ่นผม มันก็ยังอยู่กับบ้านผมไม่ไปไหน
“คุณสิบทิศโอเคไหมคะ เรื่องงบประมาณดาวลงไว้ในหน้าสุดท้ายแล้วค่ะ”
ผมเปิดดูหน้าสุดท้ายผมไม่ได้ติดใจเรื่องจำนวนเงินแต่โลเคชั่นที่ผมอยากได้ ผมอยากได้บ้านของคุณอลิสาผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเปิดรูปให้ทีมงานทุกคนได้ดูแต่ภาพที่ผมถ่ายมามันกลับเบลอเหมือนมีเงาอะไรบังทุกรูป
“เรื่องโลเคชั่นเดี๋ยวช่วงบ่ายผมจะพาคุณพีรภัทรไปดูเองครับ เรื่องงบประมาณทำเรื่องมาให้ผมได้เลย ผมอนุมัติ”
พนักงานทุกคนยิ้มหน้าบ้านเพราะทุกคนดูจริงจังกับโปรเจคนี้มาก ผมเองก็เกิดสนใจขึ้นมาแล้วสิ อยากกลับไปบ้านหลังนั้นราวกับว่ามีคนกำลังรอคอยผมอยู่
ช่วงบ่ายของวันนั้น ผมขับรถพาไอ้ภัทรมายังบ้านทรงไทยของคุณอลิสา ทันทีที่รถผมเข้ามาจอดคุณลิสาก็ออกมาต้อนรับผมสองคน เธอน่ารัก สดใส ยิ้มสวยเล่นเอาไอ้ภัทรเขินไปด้วยเลย
“คุณลิสาครับนี้พีรภัทร เพื่อนของผมเอง”
“สวัสดีค่ะคุณพีรภัทร”
“ครับ เรียกภัทรเฉยๆ ก็ได้ครับ”
พวกเราทั้งสองคนเดินตามคุณอลิสามาถึงต้นไทร ดูเหมือนว่าไอ้ภัทรมันจะรู้สึกแปลกๆ ผมเองก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน เหมือนมีใครกำลังมองผมอยู่ตลอดเวลาเลย ผมมองขึ้นไปบนบ้านตรงหน้าต่างก็เห็นผู้หญิงคนนึงกำลังยืนหวีผม สายตาก็มองมาที่ผมแต่พอไอ้ภัทรเรียกผมก็สะดุ้งจนมันเองก็ตกใจกับผมด้วย
“เหม่ออะไรของมึงไอ้สิบทิศ”
“เปล่า...” ผมหันมามองหน้าคุณอลิสาเธอเองก็ตกใจที่จู่ๆ ผมก็ดุไม่มีสมาธิ
“ไหวไหมคะคุณสิบทิศ เข้าไปนั่งพักในบ้านกันไหมคะ”
“ก็ดีครับ สงสัยอากาศร้อนไปหน่อย”
เพียงแค่เข้ามาในบ้านผมก็รู้สึกเหมือนจะวูบจนไอ้ภัทรมันต้องมาพยุงตัวผมไว้ ผมเห็นคุณอลิสาเธอตกใจมากรีบหายาดมและหันพัดลมมาเปิดให้ผม แต่ภาพเลือนรางที่ผมได้เห็นนั้นคือผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของคุณอลิสาต่างหาก
“ไอ้สิบทิศ!!” เสียงของพีรภัทรทำให้สิบทิศลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิบทิศมองไปรอบๆ จนเห็นคุณอลิสานั่งอยู่ข้างๆ จึงถอนหายใจออกมา
“ไปหาหมอไหมคะคุณสิบทิศ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมคงเป็นลมแดดวันนี้อากาศร้อนอบอ้าวด้วย ขอโทษที่รบกวนคุณอลิสาอีกแล้วนะครับผมนี่ไม่ได้เรื่องเลย”
ทั้งสองสบตากันจนเกิดประกายวิวับพีรภัทรจึงกระแอมเพื่อเรียกสติเพื่อนที่กำลังสบตากับสาวสวยอย่างคุณอลิสาโดยไม่สนใจตนที่นั่งอยู่เลย
“ขอโทษค่ะ” อลิสารีบก้มหน้าลงเพื่อเก็บอาการของตัวเองทำให้สองหนุ่มแอบอมยิ้มออกมา
“คุณลิสาครับผมชอบที่นี่นะครับ อยากใช้พื้นที่ตรงศาลาริมน้ำ ต้นไทร แล้วก็ห้องโถงด้านในผมรู้สึกถึงความขลังถ้าได้ถ่ายทำน่าจะถูกใจคนดู” มันต้องถูกใจสิเพราะผมเห็นเงาดำๆ ตลอดเวลา อาจจะเป็นเจ้าของบ้านผมรู้ทันทีว่าบ้านหลังนี้มันต้องมีประวัติ รูปที่ไอ้สิบทิศถ่ายมาแล้วมีเงาดำๆ ก็คงเป็นเงานี้แหละ แต่ถ้าผมพูดไปคุณลิสาน่าจะกลัว ผมเลยเลือกที่จะไม่พูดดีกว่า
“ได้เลยค่ะคุณภัทร ให้ทีมงานมาเตรียมสถานที่ได้เลย แต่ลิสาขออย่างเดียวนะคะ ห้ามต่อเติมอะไรแล้วก็รักษาความสะอาดให้ลิสาหน่อย ลิสานั่งทำงานอยู่ข้างบน ถ้าถ่ายช่วงกลางคืนก็ไม่เสียงดังโวยวายนะคะ”
“ได้เลยครับ รายการที่ผมจะถ่ายเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าของแขกรับเชิญครับ ไม่ใช่ล่าท้าผียังไงพรุ่งนี้ผมจะพาทีมงานมาดูสถานที่จริงนะครับ อีกเรื่องนึงเรื่องค่าใช้จ่ายคุยกับไอ้สิบทิศเลยนะครับ”
“ค่ะ”
พีรภัทรขอตัวออกไปถ่ายรูปเพื่อปล่อยให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน บรรยากาศที่นี่มันน่ากลัวจริงๆ ถ้าได้ถ่ายแล้วมีเงาหรืออะไรติดไปก็คงจะดี
‘มากันครบแล้วรึพวกมึง!!’
สายลมพัดหวนอยู่รอบตัวของพีรภัทรพร้อมกับร่างของผีสาวที่นั่งห้อยขาอยู่เหนือหัวของพีรภัทร สายตาก็จดจ้องพีรภัทรด้วยความอาฆาต
แปะ แปะ เสียงหยดน้ำหยดใส่พีรภัทรแต่เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เห็นอะไร แต่ขนกายกลับลุกชันเหมือนสัมผัสอะไรบางอย่างได้
“เจอของแรงแล้วสิกู” เสียงพึมพำของพีรภัทรดังขึ้นจากนั้นชายหนุ่มก็เดินกลับไปหาเพื่อนรักเพื่อขอตัวกลับไปคุยกับทีมงานต่อ