บทที่2
ผีไม่มีจริง
กริ๊งงงงง!!!!!
เสียงโทรศัพท์ของอลิสาดังขึ้นในเวลา3ทุ่มตรง เธอกำลังเดินซื้อของอยู่แถวๆ หอพักจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เบอร์โทรของบริษัททำความสะอาดที่เธอได้จ้างไปทำความสะอาดโทรมาเวลานี้แสดงว่าพึ่งเสร็จหรือไง อลิสารีบดูเวลาก็แอบหวั่นใจ
การสนทนา
“สวัสดีค่ะ”
(คุณอลิสาครับ คะ..คืออ พวกผมยังทำงานไม่เสร็จนะครับ!!)
ตู๊ดๆๆๆ
จบการสนทนา
“อะไรวะ แล้วโทรมาทำไมจะมาโก่งราคากันเหรอ!!” ฉันรีบกดโทรกลับไปแต่กลับติดต่อไม่ได้ ไลน์ไปก็ไม่มีคนตอบ บ้าชะมัดสงสัยพรุ่งนี้ต้องไปดูเองแล้ว
วันต่อมา...
ฉันนั่งรถแท็กซี่มาจอดอยู่หน้าบ้านเพื่อมาดูความเรียบร้อยแต่เพียงแค่ลงมาเปิดประตูบ้านให้พี่แท็กซี่ พี่คนขับก็ขับหนีเฉยเลย แล้วฉันละ
“พี่คะเดี๋ยวรอก่อนค่ะ!!!!” นอกจากจะไม่หันมาแล้วยังขับหนีโดยไม่สนใจคนที่วิ่งตามเลย โอ๊ยย!!
ฉันตัดสินใจเดินเข้ามาในบ้านไอ้บริษัททำความสะอาดเฮงซวย นอกจากมันไม่เก็บของแล้วมันยังทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเอาไว้ให้ฉันดูต่างหน้าอีก เวรจริงๆ
บรรยากาศรอบๆ บ้านเริ่มมีลมไหวๆ พร้อมกับกลิ่นหอมของดอกแก้ว ฉันรู้สึกผ่อนคลายจังเลยรู้สึกอบอุ่น มีความสุขและเศร้าในเวลาเดียวกัน ฉันถือโอกาสเดินสำรวจรอบๆ บ้านอีกครั้ง ภาพในหัวที่เกิดจากจินตนาการก็ปรากฏ ฉันจึงรีบหยิบไอแพดมานั่งพิมพ์พล็อตนิยายที่ศาลาริมสระบัว
ภาพในหัวที่ฉันเห็นบ้านหลังนี้มีสองพี่น้องฝาแฝดกำลังร่ายรำต่อหน้าแขกชั้นผู้ใหญ่ น้องฝาแฝดชื่ออุษาและอัญชลี อัญชลีเป็นพี่สาวที่สวยและเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือน แถมยังรำสวยเป็นที่หนึ่ง ผิดกับอุษาที่แก่นแก้วเกินคน แต่เธอก็ยังพอมีพรสวรรค์ด้านการรำไทยอยู่บ้าง
งานเลี้ยงต้อนรับทศพล ลูกชายของท่านเจ้าเมืองที่ไปร่ำเรียนมาตอนนี้ก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลอยู่กรมพระคลัง สองสาวพี่น้องจึงต้องรับหน้าที่ต้อนรับและแสดงการร่ายรำจนคนในงานต่างชื่นชม
อลิสาเขียนออกมาได้อย่างลื่นไหลจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนตะวันตกดิน เธอจึงเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเปิดไฟจากนั้นก็โทรหาแท็กซี่เจ้าประจำให้กลับมารับเธอ แต่กลายเป็นว่าโทรศัพท์ของเธอไม่มีสัญญาณเลย
“เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย อย่าบอกว่าคืนนี้ต้องนอนที่นี่นะ ที่นอนก็ไม่มีอาหารก็ไม่มี ตายห่าแน่” ฉันเดินขึ้นมาชั้นบนก็พบว่าประตูห้องนอนไม่ได้ปิด สงสัยพวกคนทำความสะอาดทิ้งงานให้ฉันอีกแล้ว
เมื่อฉันเดินเข้าไปในห้องเพื่อเปิดไฟ ก็พบว่าห้องนี้มันสะอาดมากมีเตียงนอนสี่เสาแบบโบราณ ที่นอนเหมือนในละครย้อนยุคที่ฉันเคยดู สงสัยเป็นเซอร์วิสจากเจ้าของเก่าแน่ ๆ
“อย่างน้อยก็มีที่นอน”
อลิสาล้มตัวลงนอนบนที่นอนด้วยความเหนื่อยล้า เพียงแค่เธอนอนก็เหมือนถูกวางยาให้หลับใหลโดยมีเงาสีดำนั่งมองเธออยู่บนเตียง
วันต่อมา...
ชายหนุ่มผู้หลงทางกับGPSอย่างสิบทิศ นักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทยที่ถูกเพื่อนโทรตามให้ออกมาเจอกันที่ร้านเปิดใหม่ ตนจึงขับตามโลเคชั่นที่เพื่อนส่งมาให้ วันนี้มีการเซ็นเอกสารสำคัญตนจึงรีบขับรถออกมาโดยไม่รอคนขับรถเหมือนทุกวัน
รถยนต์แลมโบกีนี่สีแดงขับตามGPSมาจนถึงทางเข้า แต่สิบทิศกับงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อซอยที่เข้ามามันไม่มีบ้านคนเลย
(อีก400เมตรคุณจะถึงจุดหมายปลายทางของคุณ)
เอี๊ยดดดด!!
เสียงเบรกรถหัวทิ่มของสิบทิศทำเอาสิบทิศต้องรีบโทรหาเพื่อนแต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีสัญญาณ แต่ที่ซวยกว่านั้นคือจู่ ๆ รถก็ดับ มองไปทางด้านซ้ายก็เจอบ้านทรงไทยโบราณที่ดูสยองๆ เหมือนหนังผีที่เคยดู
“กูไม่ตลกนะเนี่ย เป็นไรวะจู่ ๆ ก็สตาร์ทไม่ติด!”
สิบทิศเดินลงมายืนมองรถของตัวเองและพยายามโทรหาเพื่อนแต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย จึงมองเข้าไปยังบ้านทรงไทยเผื่อจะมีคนอยู่ แต่เพียงแค่สิบทิศเดินมายืนอยู่หน้าประตู ประตูเหล็กเก่าๆ ก็เปิดออกช้าๆ เสียงเหล็กเสียงสีดัง เอี๊ยดดด พาให้สิบทิศแอบขนลุก
“ประตูไฟฟ้าเหรอ? ไม่นะสภาพแบบนี้น่าจะเกิดจากแรงโน้มถ่วง”
สิบทิศเดินเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือแต่จู่ ๆ ประตูเหล็กที่รั้วก็ปิดเองดัง ปึ้ง! ครั้งนี้ไม่ใช่แรงโน้มถ่วงแล้วล่ะ น่าจะแรงอาฆาต ขายาวรีบเดินกลับไปแต่อลิสาดันออกมาเสียก่อน สิบทิศเลยถอนหายใจพร้อมกับยิ้มให้เธอ
“ขอโทษที่มารบกวนนะครับ พอดีรถผมเสียผมหลงมาตอนนี้ติดต่อใครไม่ได้เลย ผมจะรบกวนคุณโทรหาเพื่อนผมให้หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ” อลิสาแอบหวั่นใจเพราะเธอกลัวว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเป็นมิจฉาชีพ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ก็กลายเป็นไม่มีสัญญาณไม่สามารถโทรออกได้
“ผมชื่อสิบทิศนะครับ เป็นประธานบริษัทTCEกรุ๊ปจำกัด นี่นามบัตรผม” ผมหยิบให้สาวสวยตรงหน้าเพราะเธอดูกลัวๆ อย่างน้อยผมก็ไม่ใช่มิจฉาชีพก็แล้วกัน
“ค่ะ ฉันชื่ออลิสาพึ่งมาซื้อบ้านที่นี่ได้ไม่กี่วัน เชิญมานั่งข้างในก่อนก็ได้ค่ะ วันนี้ฉันนัดเพื่อนเอาไว้เดี๋ยวสายๆ ก็คงมา ฉันจะให้เพื่อนไปส่งคุณ คุณจะได้ให้ช่างมาดูรถดีไหมคะ” บริษัทนี้ดังมากฉันรู้จักแต่พึ่งเคยเห็นท่านประธานก็วันนี้แหละ
“ขอบคุณมากครับ” ผมมองดูรอบๆ บ้านแล้วรู้สึกแปลกๆ มันแปลกตั้งแต่ผมก้าวเข้ามาแล้ว เหมือนมีคนจ้องมองผมตลอดเวลาเลย “คุณอยู่คนเดียวเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นนักเขียนนิยาย ฉันชอบอยู่กับธรรมชาติ ชอบอยู่เงียบๆ บ้านมันอาจจะดูน่ากลัวแต่ไม่มีอะไรค่ะ”
“ครับ เป็นผู้หญิงอยู่คนเดียวมันอันตรายนะครับ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันชอบยิงปืน ที่สำคัญฉันไม่ได้ตาขาวขนาดนั้น ผีไม่มีจริงหรอกค่ะ”
ปึ้ง!! เสียงที่ไม่เหมือนของตกแต่เหมือนเสียงกระทืบเท้าบนชั้นสอง ทำเอาสิบทิศสะดุ้งด้วยความตกใจ สิบทิศได้แต่มองไปรอบๆบ้านถึงแม้ว่าบรรยากาศมันจะดีแต่อยู่แบบนี้ก็ไม่ไหว ทั้งน่ากลัวทั้งอันตราย