นักบุญแอนด์สันยกอ่างน้ำมาให้เลลีอาล้างหน้า
“ขภัยด้วยที่นี่ไม่มีสตรีเลย…ไว้ตอนเย็นข้าจะไปหาสตรีชาวบ้านมารับใช่ท่าน”
เลลีอาไม่ได้ตอบ เธอกำลังรีบล้างหน้า อย่างรวดเร็ว
ฮาลัว….เขาถูกแทงที่หัวใจ….แม้ยังไม่ตายแต่ทว่าสาหัสยิ่ง
ส่วนท่านเลออน ก็อาการย่ำแย่ เขาถูกปีศาจกัด ทั้งยังถูกร่ายคำสาปอีก
สถานการณ์ตอนนี้ เลลีอาเรียกได้เต็มปากว่าแสนจะย่ำแย่
ท่านโปปเลออนมีพลังสูงส่งไร้เทียมทานแต่ทว่าเขาต่อสู้อยู่ผู้เดียว……ฝั่งปีศาจเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ฝั่งเรากลับล้มตาย สูญหายและลดจำนวนลง
เธอสบตาของนักบุญแอนด์สันราวกับเขาเห็นเธอเป็นความหวังหนึ่งเดียวในตอนนี้
ก่อนท่านเลออนจะสลบไปเขาได้ร่ายเวทย์ปิดกั้นเอาไว้ ไม่ให้ปีศาจออกไปนอกอาณาจักรเดอนีเซียได้
ฉันสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาจากกระโจม ด้านนอกมีปีศาจบินว่อนไปหมด ผู้คนที่รอดชีวิตอยู่ต่างหวาดกลัวและฝันหนีดีฝ่อ
ยังโชคดีที่ปีศาจพวกนั้นเข้ามาในเขตเวทมนต์ลวงตาของท่านเลออนไม่ได้ พวกมันได้แต่เดินไปเดินมาเพื่อหาร่องรอยของมนุษย์
“เรียกประชุมนักบุญที่เหลือที!!!”
เลลีอาเดินเข้ามาในกระโจมเธอนั่งลงบนเก้าอี้ นักบุญแอนด์สันนำโจ้กและน้ำมาให้ลีอา
“ทานก่อนเถิดท่านลีอา….ตอนนี้พวกเราเหลือท่านเป็นความหวังเดียวแล้ว…..”
เลลีอามองหน้านักบุญแอนด์สัน ก่อนเธอจะตักโจ้กนั้นใส่ปาก
ตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจจะมานั่งกินข้าวเข่นนี้เลย เธอเป็นห่วงฮาลัว ไหนจะอาการท่านเลออนอีก
นักบุญราวสิบคนทยอยเข้ามานั่งในกระโจม
“เอาล่ะ….ข้าเป็นเพียงนักบุญหญิงที่พึ่งบวชทุกคนไม่ต้องเกรงใจข้าถึงเพียงนั้น”
“ท่านเลลีอา…..ได้โปรดอย่าลดตัวเช่นนี้ ท่านคือความหวังเดียวของพวกเรา ขอเพียงท่านสั่งมา จะให้พวกเราไปตายก็ย่อมได้…”
เลลีอายกมือขึ้นกุมขมับ
“มีนักบุญเหลือรอดกี่คน”
นักบุญที่เข้ามาเงียบกริบ
“….ท่านเลลีอานี่คือนักบุญที่เหลือรอดทั้งหมดแล้วครับ”
นักบุญแอนด์ก้มลงกระซิบบอกเธอ
เราจะสู้กับกองทัพปีศาจนับพัน…..ด้วยนักบุญสิบคนเนี่ยนะ?
เลลีอาหลับตา เธอถอนหายใจ
“เราจะเเบ่งเป็นสามทีม….นักบุญเคนคัดเลือกอัศวินฝีมือดีมาซักสองคน ส่งหมายไปยังพระราชวังให้ขอกำลังองครักษ์และอัศวินมาช่วยเหลือ”
นักบุญเคนรีบลุกขึ้นไปตามคำสั่งของเลลีอา
“ส่วนท่านนักบุญแอนด์สัน รวบรวมอัศวินและชาวบ้านที่พอจะสู้รบได้ แล้วรายงานจำนวนมาให้ข้า”
“ครับท่านเลลีอา”
นักบุญแอนด์สันเดินออกไปพร้อมกับนักบุญอีกคน
“ที่เหลือตามข้าไปที่กระโจมคนเจ็บ….”
เลลีอามาถึงก็ร่ายเวทย์รักษา ครั้งนี้สาหัสกว่าทุกครั้งเพราะบางคนถูกพิษเป็นเวลานาน ทำให้เนื้อส่วนนั้นเป็นสีดำและเป็นอัมพาต
พลังรักษาของเธอสามารถรักษาได้แค่แผลที่เกิดขึ้นใหม่เท่านั้น
“ท่านนักบุญหญิง….อย่าฝืนเลยครับ…ท่านทำได้เท่าที่ทำเถิด”
นักบวชท่าทางอายุน้อยผู้หนึ่งยื่นมือมาจับแขนเลลีอาไว้ เธอค่อยๆ หยุดการร่ายเวทย์รักษาลง
สถานการณ์เบื้องหน้าถือว่าดีขึ้นมาแล้ว พวกเขาอยู่อย่างไร้ความหวังมาสองสัปดาห์เต็ม ท่านเลออนก็อาการย่ำแย่ นักบุญฮาลัวก็อาการสาหัส ส่วนนักบุญหญิงเลลีอาก็ยังไม่ฟื้น
ที่จริงแค่เลลีอามายืนอยู่ก็เรียกกำลังใจจากพวกเขาได้แล้ว…..
“ใครพอจะสู้รบได้ไปหานักบุญแอนด์สัน ส่วนสตรีที่อาการดีขึ้นให้แบ่งเป็นสองกลุ่ม ผู้ใดสามารถทำอาหารได้ให้แยกไปดูแลเรื่องนั้น อีกกลุ่มไปช่วยหมอหลวงทำแผลที่ถูกพิษ”
สายตานับรอยคู่มองเลลีอาด้วยความหวัง เธอเปรียบเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดแห่งนี้
“คนที่เหลือก็พยายามรักษาตัวเองให้หายดี….เราต้องการคนจำนวนมากมาช่วยงาน”
เลลีอายิ้มส่งท้ายอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินไปกระโจมของฮาลัว
“ลีอา…ฮืออออออ”
ทันทีที่ประตูเปิด ปรากฏร่างขององค์ชายสี่ เจสก็วิ่งมากอดเลลีอา พร้อมทั้งร้องไห้ ดวงตาของเขาบวมเป่งจนปิดสนิท
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงห๊ะ!!!”
“ลีอาข้าทราบข่าวว่าท่านอาจารย์บาดเจ็บ ข้ามาถึงท่านอาจารย์ก็นอนหายใจรวยรินเช่นนี้แล้ว ลีอา ทำยังไงดีข้าจะทำยังไงดี!!!”
“ใจเย็นก่อนเจส เจ้าลองร่ายเวทย์รักษาดูรึยัง?”
“ข้าร่ายเป็นร้อยรอบแล้วลีอา…..ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย…”
เลลีอาเดินเข้าไปดูฮาลัว ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด แผลจากจากถูกแทงได้รับการรักษาแล้ว แต่ทว่าแทงถูกจุดสำคัญเลยทำให้เขาอาการหนัก
เลลีอาร่ายเวทย์รักษาให้ฮาลัว บาดแผลที่ถูกแทงสมานกันอย่างรวดเร็ว ลมหายใจที่อ่อนแรงกลับมาหายใจอย่างสม่ำเสมอ แต่ทว่าใบหน้าซีดนั้นยังดูไม่ดีขึ้นเลย
คงเพราะเขาเสียเลือดมาก จากการถูกแทง เลลีอาหยิบดาบสั้นมาจากบนโต๊ะ เธอกรีดลงที่ข้อมือตัวเอง
เจสรีบวิ่งมาดึงแขนเลลีอา
“เจ้าทำบ้าอะไรลีอา!!!”
เจสแย่งมีดไปจากมือเลลีอา เลือดสีแดงสดไหลนอง เลลีอาใช้มืออีกข้าบีบปากฮาลัว ให้เขาได้กลืนกินเลือดที่ไหลจากข้อมือเธอ
เจสชะงัก เขามองเลลีอาที่มีท่าทางเจ็บปวดอย่างเศร้าใจ เหตุใดเขาถึงอ่อนแอเพียงนี้ เขาได้แต่ยืนดูนางให้เลือดแก่อาจารย์เขาอย่างปวดใจ เขาไม่กล้าแม้แต่จะไปห้าม เพราะอาจารย์ก็สำคัญกับเขา เจสเหลือบมองเลลีอา มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบริเวณใบหน้างามนั้น
“ท่านเลลีอาท่านทำอะไร!!!”
นักบุญแอนด์สันที่พึ่งเข้ามา รีบวิ่งมาคว้ามือเลลีอาไว้แล้วนำผ้าเช็ดหน้ารีบห้ามเลือด
“ท่านควรจะทราบไว้ว่าท่านสามารถร่ายเวทย์รักษาให้กับคนทั่วไปได้ แต่ท่านร่ายเวทย์รักษาตัวเองไม่ได้….แล้วก็ไม่มีใครร่ายเวทย์รักษาให้ท่านได้…เว้นแต่คนที่มีแก่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าท่าน”
นักบุญแอนด์สันมองไปทางเจส เขาส่งสายตาไม่พอใจจนเจสต้องหันหน้าหนี
“นักบุญแอนด์สัน…ข้าเลือกจะทำเช่นนี้เองไม่ได้มีใครขอร้องหรือบังคับ…ฮาลัวเป็นเพื่อนของข้า เขาสำคัญกับข้ามากจริงๆ”
นักบุญแอนด์สันห้ามเลือดที่ข้อมือเลลีอา เขาเงยหน้ามองเลลีอาอีกครั้ง
“อย่าทำเช่นนี้อีกท่านเลลีอา…หากนักบุญฮาลัวรู้เขาย่อมเจ็บปวดกว่าผู้อื่น…ท่านล้ำค่าเกินจะกรีดเลือดให้ผู้ใด…นักบุญฮาลัวปกป้องท่านแทบตาย..ท่านกลับเอาตัวเองมาเสี่ยงเพื่อเขา…อย่าดูถูกนักบุญฮาลัวเลยครับ”
เลลีอาไม่ตอบ เธอมองไปที่นักบุญแอนด์สันอย่างเจ็บปวด ก่อนจะร้องไห้ออกมา
หยาดน้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่งามนั้น…นักบุญเเอนด์สันเอื้อมไปกอดเลลีอาเบาๆ เธอร้องไห้เสียงดังแบบไม่สนใจใคร เลลีอาร้องไห้อย่างหนัก
ชีวิตของเธอไม่เคยพบเจอเรื่องอะไรเช่นนี้….เธอไม่เคยเห็นปีศาจมากก่อน ผู้คนล้มตายลงต่อหน้าเธออีก เธอไม่เคยแบกความหวังของใครเช่นนี้มาก่อน เธอเป็นเพียงท่านหญิงที่อยู่ในคฤหาสน์เท่านั้น
เรื่องราวมันหนักหนา มากเหลือเกินสำหรับเธอ ไหนจะยังอาการที่น่าเป็นห่วงของฮาลัวอีก
หากฮาลัวเป็นอะไรไปเธอจะทำยังไง!!!
คนที่เป็นความหวังของทุกคนเช่นท่านเลออน กลับมามีสภาพไม่ต่างจากเจ้าชายนิทรา คนที่เก่งกาจเช่นนั้นยังสู้ไม่ไหว
แล้วเธอล่ะ???
เธอจะทำได้ไหม……???
องค์ชายเจสร้องไห้อีกครั้ง เขาร้องไห้ตามลีอา เขาทำอะไรไม่ได้…ทั้งที่ในตอนที่เขาถูกหมิ่นเกียรติ สตรีตัวเล็กๆ อย่างเธอกลับออกหน้าปกป้องเขา ยังจะท่านอาจารย์อีก…..
ผ่านไปสักพักเสียงร้องไห้ของเลลีอา และองค์ชายเจสก็เงียบลง
แอนด์สันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลี้ยงเด็กน้อยสองคนอยู่
“ท่านเลลีอา….หากร้องจนพอแล้ว รบกวนท่านไปดูท่านเลออนด้วย….”
เลลีอาเช็ดคราบน้ำ เธอพยักหน้าแล้วเดินไปยังกระโจมท่านโปป
“องค์ชายเจสอย่าหาว่าข้าหมิ่นเกียรติท่านเลย….แต่ในเวลานี้ท่านควรจะทำอะไรเพื่อฮาลัวบ้าง…ท่านควรจะเป็นตัวแทนในยามที่เขาไม่อยู่ มิใช่มาร้องไห้เป็นเด็กเช่นนี้”
องค์ชายเจสเงยหน้ามองนักบุญแอนด์ ในสายตานั้นไม่ได้มีแววตาดูถูกเขาเลย
“เช็ดน้ำตาแล้วออกไปทำให้อาจารย์ของท่านภูมิใจเถิด”
ราวกับมีประกายไฟในตัวองค์ชายเจส เขาลุกขึ้นขอบคุณนักบุญแอนด์สัน ก่อนจะรีบออกไปสมทบกับอัศวินและชาวบ้าน
เขาจะนำทัพออกรบกับปีศาจพวกนั้นเอง!!!!!
เลลีอาเข้ามายังที่พักของท่านเลออน เธอเดินเข้ามาด้านในพบเขานอนอยู่ที่เตียง ผมยาวสีเงินดูยุ่งเหยิง เลลีอานั่งลงข้างเตียง เธอยกมือขึ้นกำลังจะร่ายเวทย์ มือของท่านเลออนยกขึ้นจับที่มือของเธอ
“…ทำไมเลือดออก???”
“ท่านไม่ได้หลับ?”
“เปล่า….ข้าหลับ..”
เลลีอาขมวดคิ้ว เธอมองใบหน้างดงามนั้นอย่างไม่เข้าใจ
“…ลีอา…ข้านอนจนเบื่อแล้ว…”
บนใบหน้าของเลออนปรากฏแววเจ็บปวดราวกับเขากำลังสู้กับบางอย่าง
“อีธานร่ายคำสาปบนตัวข้า….”
เลลีอามองหน้าท่านเลออนอีกครั้ง ใบหน้าเขาไม่ได้ฉายแววล้อเล่น
“ข้าจะเข้าสู่ห้วงนิทราลึกขึ้น และนานขึ้นเรื่อยๆ”
“มีทางแก้ไหมคะ…”
“…..มี แต่ว่ายังหาไม่เจอ…เป็นห่วงข้างั้นเหรอ?”
เลลีอาถอนหายใจ
“ค่ะ เป็นห่วงท่าน ทุกคนที่นี่ก็เป็นห่วงท่านเลออนทั้งนั้น”
เลออนมองใบหน้าเลลีอาอีกครั้ง เขายกมือเธอขึ้นพร้อมกับจูบเบาๆ บริเวณข้อมือที่เป็นแผล เลลีอาหน้าแดง ทว่าจู่ๆ เธอก็ไม่รู้สึกเจ็บตรงข้อมือแล้ว
เลลีอาก้มมองที่ข้อมือ บนผ้าพันแผลนั้นไม่มีรอยเลือดแล้ว
“ข้ามารักษาท่าน ไม่ได้ให้ท่านรักษา…ข้า”
“….เพียงแค่เห็นหน้าเจ้าข้าก็รู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด”
เลลีอาก้มหน้าลงซ่อนความเขินอายไว้ บุรุษผู้นี้ชอบทำให้ใจเธอเต้นแรงอยู่เรื่อย
“….ลีอา…ข้าง่วงนอนอีกแล้ว”
เลลีอาเหลือบมองใบหน้างดงามของเลออน เขาล้มตัวนอนลงและกำลังหลับตา
“ข้าหวังว่าท่านจะตื่นมาโดยเร็ว”
เลออนยิ้ม
“ข้าก็หวังเช่นนั้น….”
ลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลออนนั้นหลับแล้ว เลลีอามองที่ข้อมือตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้เลออน