12.ความหวังเดียว

1920 คำ
นักบุญแอนด์สันยกอ่างน้ำมาให้เลลีอาล้างหน้า “ขภัยด้วยที่นี่ไม่มีสตรีเลย…ไว้ตอนเย็นข้าจะไปหาสตรีชาวบ้านมารับใช่ท่าน” เลลีอาไม่ได้ตอบ เธอกำลังรีบล้างหน้า อย่างรวดเร็ว ฮาลัว….เขาถูกแทงที่หัวใจ….แม้ยังไม่ตายแต่ทว่าสาหัสยิ่ง ส่วนท่านเลออน ก็อาการย่ำแย่ เขาถูกปีศาจกัด ทั้งยังถูกร่ายคำสาปอีก สถานการณ์ตอนนี้ เลลีอาเรียกได้เต็มปากว่าแสนจะย่ำแย่ ท่านโปปเลออนมีพลังสูงส่งไร้เทียมทานแต่ทว่าเขาต่อสู้อยู่ผู้เดียว……ฝั่งปีศาจเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ฝั่งเรากลับล้มตาย สูญหายและลดจำนวนลง เธอสบตาของนักบุญแอนด์สันราวกับเขาเห็นเธอเป็นความหวังหนึ่งเดียวในตอนนี้ ก่อนท่านเลออนจะสลบไปเขาได้ร่ายเวทย์ปิดกั้นเอาไว้ ไม่ให้ปีศาจออกไปนอกอาณาจักรเดอนีเซียได้ ฉันสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาจากกระโจม ด้านนอกมีปีศาจบินว่อนไปหมด ผู้คนที่รอดชีวิตอยู่ต่างหวาดกลัวและฝันหนีดีฝ่อ ยังโชคดีที่ปีศาจพวกนั้นเข้ามาในเขตเวทมนต์ลวงตาของท่านเลออนไม่ได้ พวกมันได้แต่เดินไปเดินมาเพื่อหาร่องรอยของมนุษย์ “เรียกประชุมนักบุญที่เหลือที!!!” เลลีอาเดินเข้ามาในกระโจมเธอนั่งลงบนเก้าอี้ นักบุญแอนด์สันนำโจ้กและน้ำมาให้ลีอา “ทานก่อนเถิดท่านลีอา….ตอนนี้พวกเราเหลือท่านเป็นความหวังเดียวแล้ว…..” เลลีอามองหน้านักบุญแอนด์สัน ก่อนเธอจะตักโจ้กนั้นใส่ปาก ตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจจะมานั่งกินข้าวเข่นนี้เลย เธอเป็นห่วงฮาลัว ไหนจะอาการท่านเลออนอีก นักบุญราวสิบคนทยอยเข้ามานั่งในกระโจม “เอาล่ะ….ข้าเป็นเพียงนักบุญหญิงที่พึ่งบวชทุกคนไม่ต้องเกรงใจข้าถึงเพียงนั้น” “ท่านเลลีอา…..ได้โปรดอย่าลดตัวเช่นนี้ ท่านคือความหวังเดียวของพวกเรา ขอเพียงท่านสั่งมา จะให้พวกเราไปตายก็ย่อมได้…” เลลีอายกมือขึ้นกุมขมับ “มีนักบุญเหลือรอดกี่คน” นักบุญที่เข้ามาเงียบกริบ “….ท่านเลลีอานี่คือนักบุญที่เหลือรอดทั้งหมดแล้วครับ” นักบุญแอนด์ก้มลงกระซิบบอกเธอ เราจะสู้กับกองทัพปีศาจนับพัน…..ด้วยนักบุญสิบคนเนี่ยนะ? เลลีอาหลับตา เธอถอนหายใจ “เราจะเเบ่งเป็นสามทีม….นักบุญเคนคัดเลือกอัศวินฝีมือดีมาซักสองคน ส่งหมายไปยังพระราชวังให้ขอกำลังองครักษ์และอัศวินมาช่วยเหลือ” นักบุญเคนรีบลุกขึ้นไปตามคำสั่งของเลลีอา “ส่วนท่านนักบุญแอนด์สัน รวบรวมอัศวินและชาวบ้านที่พอจะสู้รบได้ แล้วรายงานจำนวนมาให้ข้า” “ครับท่านเลลีอา” นักบุญแอนด์สันเดินออกไปพร้อมกับนักบุญอีกคน “ที่เหลือตามข้าไปที่กระโจมคนเจ็บ….” เลลีอามาถึงก็ร่ายเวทย์รักษา ครั้งนี้สาหัสกว่าทุกครั้งเพราะบางคนถูกพิษเป็นเวลานาน ทำให้เนื้อส่วนนั้นเป็นสีดำและเป็นอัมพาต พลังรักษาของเธอสามารถรักษาได้แค่แผลที่เกิดขึ้นใหม่เท่านั้น “ท่านนักบุญหญิง….อย่าฝืนเลยครับ…ท่านทำได้เท่าที่ทำเถิด” นักบวชท่าทางอายุน้อยผู้หนึ่งยื่นมือมาจับแขนเลลีอาไว้ เธอค่อยๆ หยุดการร่ายเวทย์รักษาลง สถานการณ์เบื้องหน้าถือว่าดีขึ้นมาแล้ว พวกเขาอยู่อย่างไร้ความหวังมาสองสัปดาห์เต็ม ท่านเลออนก็อาการย่ำแย่ นักบุญฮาลัวก็อาการสาหัส ส่วนนักบุญหญิงเลลีอาก็ยังไม่ฟื้น ที่จริงแค่เลลีอามายืนอยู่ก็เรียกกำลังใจจากพวกเขาได้แล้ว….. “ใครพอจะสู้รบได้ไปหานักบุญแอนด์สัน ส่วนสตรีที่อาการดีขึ้นให้แบ่งเป็นสองกลุ่ม ผู้ใดสามารถทำอาหารได้ให้แยกไปดูแลเรื่องนั้น อีกกลุ่มไปช่วยหมอหลวงทำแผลที่ถูกพิษ” สายตานับรอยคู่มองเลลีอาด้วยความหวัง เธอเปรียบเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดแห่งนี้ “คนที่เหลือก็พยายามรักษาตัวเองให้หายดี….เราต้องการคนจำนวนมากมาช่วยงาน” เลลีอายิ้มส่งท้ายอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินไปกระโจมของฮาลัว “ลีอา…ฮืออออออ” ทันทีที่ประตูเปิด ปรากฏร่างขององค์ชายสี่ เจสก็วิ่งมากอดเลลีอา พร้อมทั้งร้องไห้ ดวงตาของเขาบวมเป่งจนปิดสนิท “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงห๊ะ!!!” “ลีอาข้าทราบข่าวว่าท่านอาจารย์บาดเจ็บ ข้ามาถึงท่านอาจารย์ก็นอนหายใจรวยรินเช่นนี้แล้ว ลีอา ทำยังไงดีข้าจะทำยังไงดี!!!” “ใจเย็นก่อนเจส เจ้าลองร่ายเวทย์รักษาดูรึยัง?” “ข้าร่ายเป็นร้อยรอบแล้วลีอา…..ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย…” เลลีอาเดินเข้าไปดูฮาลัว ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างเห็นได้ชัด แผลจากจากถูกแทงได้รับการรักษาแล้ว แต่ทว่าแทงถูกจุดสำคัญเลยทำให้เขาอาการหนัก เลลีอาร่ายเวทย์รักษาให้ฮาลัว บาดแผลที่ถูกแทงสมานกันอย่างรวดเร็ว ลมหายใจที่อ่อนแรงกลับมาหายใจอย่างสม่ำเสมอ แต่ทว่าใบหน้าซีดนั้นยังดูไม่ดีขึ้นเลย คงเพราะเขาเสียเลือดมาก จากการถูกแทง เลลีอาหยิบดาบสั้นมาจากบนโต๊ะ เธอกรีดลงที่ข้อมือตัวเอง เจสรีบวิ่งมาดึงแขนเลลีอา “เจ้าทำบ้าอะไรลีอา!!!” เจสแย่งมีดไปจากมือเลลีอา เลือดสีแดงสดไหลนอง เลลีอาใช้มืออีกข้าบีบปากฮาลัว ให้เขาได้กลืนกินเลือดที่ไหลจากข้อมือเธอ เจสชะงัก เขามองเลลีอาที่มีท่าทางเจ็บปวดอย่างเศร้าใจ เหตุใดเขาถึงอ่อนแอเพียงนี้ เขาได้แต่ยืนดูนางให้เลือดแก่อาจารย์เขาอย่างปวดใจ เขาไม่กล้าแม้แต่จะไปห้าม เพราะอาจารย์ก็สำคัญกับเขา เจสเหลือบมองเลลีอา มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบริเวณใบหน้างามนั้น “ท่านเลลีอาท่านทำอะไร!!!” นักบุญแอนด์สันที่พึ่งเข้ามา รีบวิ่งมาคว้ามือเลลีอาไว้แล้วนำผ้าเช็ดหน้ารีบห้ามเลือด “ท่านควรจะทราบไว้ว่าท่านสามารถร่ายเวทย์รักษาให้กับคนทั่วไปได้ แต่ท่านร่ายเวทย์รักษาตัวเองไม่ได้….แล้วก็ไม่มีใครร่ายเวทย์รักษาให้ท่านได้…เว้นแต่คนที่มีแก่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าท่าน” นักบุญแอนด์สันมองไปทางเจส เขาส่งสายตาไม่พอใจจนเจสต้องหันหน้าหนี “นักบุญแอนด์สัน…ข้าเลือกจะทำเช่นนี้เองไม่ได้มีใครขอร้องหรือบังคับ…ฮาลัวเป็นเพื่อนของข้า เขาสำคัญกับข้ามากจริงๆ” นักบุญแอนด์สันห้ามเลือดที่ข้อมือเลลีอา เขาเงยหน้ามองเลลีอาอีกครั้ง “อย่าทำเช่นนี้อีกท่านเลลีอา…หากนักบุญฮาลัวรู้เขาย่อมเจ็บปวดกว่าผู้อื่น…ท่านล้ำค่าเกินจะกรีดเลือดให้ผู้ใด…นักบุญฮาลัวปกป้องท่านแทบตาย..ท่านกลับเอาตัวเองมาเสี่ยงเพื่อเขา…อย่าดูถูกนักบุญฮาลัวเลยครับ” เลลีอาไม่ตอบ เธอมองไปที่นักบุญแอนด์สันอย่างเจ็บปวด ก่อนจะร้องไห้ออกมา หยาดน้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่งามนั้น…นักบุญเเอนด์สันเอื้อมไปกอดเลลีอาเบาๆ เธอร้องไห้เสียงดังแบบไม่สนใจใคร เลลีอาร้องไห้อย่างหนัก ชีวิตของเธอไม่เคยพบเจอเรื่องอะไรเช่นนี้….เธอไม่เคยเห็นปีศาจมากก่อน ผู้คนล้มตายลงต่อหน้าเธออีก เธอไม่เคยแบกความหวังของใครเช่นนี้มาก่อน เธอเป็นเพียงท่านหญิงที่อยู่ในคฤหาสน์เท่านั้น เรื่องราวมันหนักหนา มากเหลือเกินสำหรับเธอ ไหนจะยังอาการที่น่าเป็นห่วงของฮาลัวอีก หากฮาลัวเป็นอะไรไปเธอจะทำยังไง!!! คนที่เป็นความหวังของทุกคนเช่นท่านเลออน กลับมามีสภาพไม่ต่างจากเจ้าชายนิทรา คนที่เก่งกาจเช่นนั้นยังสู้ไม่ไหว แล้วเธอล่ะ??? เธอจะทำได้ไหม……??? องค์ชายเจสร้องไห้อีกครั้ง เขาร้องไห้ตามลีอา เขาทำอะไรไม่ได้…ทั้งที่ในตอนที่เขาถูกหมิ่นเกียรติ สตรีตัวเล็กๆ อย่างเธอกลับออกหน้าปกป้องเขา ยังจะท่านอาจารย์อีก….. ผ่านไปสักพักเสียงร้องไห้ของเลลีอา และองค์ชายเจสก็เงียบลง แอนด์สันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังเลี้ยงเด็กน้อยสองคนอยู่ “ท่านเลลีอา….หากร้องจนพอแล้ว รบกวนท่านไปดูท่านเลออนด้วย….” เลลีอาเช็ดคราบน้ำ เธอพยักหน้าแล้วเดินไปยังกระโจมท่านโปป “องค์ชายเจสอย่าหาว่าข้าหมิ่นเกียรติท่านเลย….แต่ในเวลานี้ท่านควรจะทำอะไรเพื่อฮาลัวบ้าง…ท่านควรจะเป็นตัวแทนในยามที่เขาไม่อยู่ มิใช่มาร้องไห้เป็นเด็กเช่นนี้” องค์ชายเจสเงยหน้ามองนักบุญแอนด์ ในสายตานั้นไม่ได้มีแววตาดูถูกเขาเลย “เช็ดน้ำตาแล้วออกไปทำให้อาจารย์ของท่านภูมิใจเถิด” ราวกับมีประกายไฟในตัวองค์ชายเจส เขาลุกขึ้นขอบคุณนักบุญแอนด์สัน ก่อนจะรีบออกไปสมทบกับอัศวินและชาวบ้าน เขาจะนำทัพออกรบกับปีศาจพวกนั้นเอง!!!!! เลลีอาเข้ามายังที่พักของท่านเลออน เธอเดินเข้ามาด้านในพบเขานอนอยู่ที่เตียง ผมยาวสีเงินดูยุ่งเหยิง เลลีอานั่งลงข้างเตียง เธอยกมือขึ้นกำลังจะร่ายเวทย์ มือของท่านเลออนยกขึ้นจับที่มือของเธอ “…ทำไมเลือดออก???” “ท่านไม่ได้หลับ?” “เปล่า….ข้าหลับ..” เลลีอาขมวดคิ้ว เธอมองใบหน้างดงามนั้นอย่างไม่เข้าใจ “…ลีอา…ข้านอนจนเบื่อแล้ว…” บนใบหน้าของเลออนปรากฏแววเจ็บปวดราวกับเขากำลังสู้กับบางอย่าง “อีธานร่ายคำสาปบนตัวข้า….” เลลีอามองหน้าท่านเลออนอีกครั้ง ใบหน้าเขาไม่ได้ฉายแววล้อเล่น “ข้าจะเข้าสู่ห้วงนิทราลึกขึ้น และนานขึ้นเรื่อยๆ” “มีทางแก้ไหมคะ…” “…..มี แต่ว่ายังหาไม่เจอ…เป็นห่วงข้างั้นเหรอ?” เลลีอาถอนหายใจ “ค่ะ เป็นห่วงท่าน ทุกคนที่นี่ก็เป็นห่วงท่านเลออนทั้งนั้น” เลออนมองใบหน้าเลลีอาอีกครั้ง เขายกมือเธอขึ้นพร้อมกับจูบเบาๆ บริเวณข้อมือที่เป็นแผล เลลีอาหน้าแดง ทว่าจู่ๆ เธอก็ไม่รู้สึกเจ็บตรงข้อมือแล้ว เลลีอาก้มมองที่ข้อมือ บนผ้าพันแผลนั้นไม่มีรอยเลือดแล้ว “ข้ามารักษาท่าน ไม่ได้ให้ท่านรักษา…ข้า” “….เพียงแค่เห็นหน้าเจ้าข้าก็รู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด” เลลีอาก้มหน้าลงซ่อนความเขินอายไว้ บุรุษผู้นี้ชอบทำให้ใจเธอเต้นแรงอยู่เรื่อย “….ลีอา…ข้าง่วงนอนอีกแล้ว” เลลีอาเหลือบมองใบหน้างดงามของเลออน เขาล้มตัวนอนลงและกำลังหลับตา “ข้าหวังว่าท่านจะตื่นมาโดยเร็ว” เลออนยิ้ม “ข้าก็หวังเช่นนั้น….” ลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลออนนั้นหลับแล้ว เลลีอามองที่ข้อมือตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้เลออน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม