7.พิเมร่า เดอนดีเซีย

1986 คำ
องค์หญิงพิเมร่าเป็นสตรีที่ดูสง่างาม ผมสีแดงนั้นถูกรวบขึ้นไว้ด้านหลังเพื่อโชว์ลำคอระหง นางแต่งกายด้วยผ้าเรียบๆ ทว่ากลับดูเข้ากับนางอย่างน่าประหลาด ใบหน้างามนั้นไร้ซึ่งการแต่งแต้ม ดวงตาคมกริบฉายแววเบื่อหน่าย การมางานเลี้ยงเช่นนี้ ให้นางจับดาบออกศึกยังจะดีกว่า แล้วยังสายตาน่าสะอิดสะเอียนของบุรุษในงานอีก พิเมร่ายกแก้วไวน์กรอกใส่ปากอย่างรวดเร็ว อื้ม….อย่างน้อยไวน์ที่นี่ก็รสชาติไม่แย่ “องค์หญิงดื่มมากจะเมาเอานะครับ” พิเมร่าเหลือบมองบุรุษแต่งตัวดีผู้หนึ่ง เธอถอนใจอย่างรำคาญ ไวน์พวกนี้ต่อให้เธอดื่มไปอาบไปก็ไม่เมา เธอออกสนามรบด้วยตัวเอง ทหารพวกนั้นกินเหล้าแทนน้ำด้วยซ้ำ พิเมร่าเดินออกมาโดยไม่ได้พูดคุยกับบุรุษผู้นั้นซักคำ ทำเอาผู้คนในงานจับกลุ่มนินทากันเงียบๆ เธอเดินออกไปด้านนอกระเบียง พิเมร่าวางแก้วไวน์บนโต๊ะ เธอหันหลังไปล็อคประตูพอหันมาจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ดันปรากฏร่างบุรุษผู้หนึ่ง เขามองเธอด้วยใบหน้าว่างเปล่า “ขออภัยข้าไม่นึกว่ามีคนอยู่…” “ไม่เป็นไรเลดี้อยู่ที่นี่เถอะ…ข้าขอตัว” บุรุษผู้นี้แทนตัวเธอว่าเลดี้ เขาไม่รู้ว่าเธอเป็นองค์หญิง? เข้าเอื้อมมือไปเปิดประตู ทว่าเปิดไม่ออก “เอ่อ…เลดี้กดล็อคประตูงั้นหรือ” เธอพยักหน้าเบาๆ พอเขาเห็นเธอพยักหน้าเขาก็ถอนหายใจ “เลดี้ไม่เคยมาที่นี่ใช่หรือไม่? ถ้าเลดี้กดล็อกประตูจะไม่สามารถเปิดจากด้านนอกได้ ต้องเปิดจากด้านใน….” พิเมร่าตกใจตามคำพูดของเขา เธอก้มมองไปเบื้องล่าง “เลดี้…อย่าบอกว่าจะกระโดดลงไปนี่เราอยู่บนระเบียงชั้นสามนะ” จริงๆ เขาไม่ต้องพูดก็ได้เธอเห็นประจักษ์แก่สายตาแล้วว่าบนนี้สูงแค่ไหน กระโดดลงไปเธอคงได้แขนขาหักเป็นแน่ “ข้าขออภัย…” เขาไม่พูดแต่กลับยกแก้วไวน์ของเธอขึ้นดื่ม “ข้ารับคำขอโทษของเลดี้เป็นไวน์แก้วนี้แล้วกัน” เธอส่งยิ้มน้อยๆ ให้เขา บุรุษผู้นี้ก็ถือว่าใช้ได้อยู่เหมือนกัน เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วมาคลุมไหล่ให้เธอ “อากาศยามค่ำคืนของที่นี่ค่อนข้างเย็น…แล้วชุดของเลดี้ก็….” เธอกระชับเสื้อคลุมเข้ากับตัวเอง พิเมร่าก้มหน้าน้อยๆ เธอรู้สึกว่าหน้าเธอกำลังเห่อร้อน คงจะเป็นเพราะดื่มไวน์ ดื่มไวน์ไปเยอะแน่ๆ “จะมีคนมาเปิดประตูไหม” “คงต้องรอซักพัก….ตอนนี้ทุกคนน่าจะให้ความสนใจกับองค์หญิงพิเมร่าอยู่” เธอเงยหน้ามองเขาทันทีที่มีชื่อเธอออกมาจากปากเขา “ข้าเองก็อยากเห็นหน้าองค์หญิงซักครั้ง…” เขาอมยิ้มอย่างเขินอายทันทีที่พูดจบ “องค์หญิงเป็นสตรีที่งดงามและแข็งแกร่ง ยามที่นางออกรบไม่มีครั้งไหนที่จะไม่ได้รับชัยชนะ” ในแววตาเขาปรากฏความชื่นชม มุมปากเขายกยิ้มน้อยๆ ยามที่กล่าวถึง เธอหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก “เลดี้ทำให้ข้าพลาดโอกาสที่จะพบสตรีในดวงใจนะ…” เขากล่าวทีเล่นทีจริง และหัวเราะออกมา “ท่านไม่เคยเห็นหน้าองค์หญิงเหรอ?” “ข้าเห็นนางแล้วแต่เห็นตอนนางสวมหน้ากากเหล็กไว้” พิเมร่าหน้าแดง ยามเธอออกรบเธอชอบสวมหน้ากากเหล็กไว้ เพื่อปิดบังใบหน้าและเป็นเกราะป้องกันด้วย เขาชอบเธอเหรอ? เขาเป็นคนแรกที่ยอมรับในตัวตนของเธอ….เขายังชื่นชมเธอเวลาเธอจับดาบออกรบทั้งที่ในความจริงแล้วล้วนไม่มีใครชอบสตรีที่ไม่มีความเป็นกุลสตรี ทุกคนล้วนชอบสตรีที่อ่อนหวาน บุรุษบางคนที่เข้าหาเธอก็เพราะว่าเธอเป็นองค์หญิงทั้งนั้น บุรุษผู้นี้ยอมรับในตัวตนของเธองั้นเหรอ พิเมร่าจ้องมองเขาด้วยแววตาปลาบปลื้ม เขามองหน้าเธอแล้วหัวเราะ “เลดี้ห้ามตกหลุมรักข้านะ….ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงพิเมร่าเท่านั้น” เสียงหัวเราะใสๆ ดังมาจากพิเมร่า เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างอารมณ์ดี พร้อมทั้งไม่ได้ปฏิเสธว่าตกหลุมรักเขา…. ค่ำคืนนั้นผ่านไปดวงหัวใจที่สั่นไหว เธอคุยกับเขามากมาย หลากหลายเรื่อง โดยยังไม่ได้เปิดตัวว่าเป็นองค์หญิง ราวเวลางานเลิกก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เปิดประตูให้ พวกเขาทั้งสองไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ ได้เเต่เอ่ยปากไล่ให้เธอออกมากนอกระเบียงไวๆ เธอและเขาเดินออกมานอกระเบียง พิเมร่าหันมองเขาก่อนจะกล่าวคำอำลา เขาพยักหน้าน้อยๆ ให้เธอ “อ๊ะ….อาาาา” เสียงครางแว่วออกมาจากหน้าระเบียง ทำให้เธอรีบหันหน้าหนีจากเขา ซ่อนใบหน้าที่เขินอาย แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หนุ่มสาวเมื่อครู่ที่เข้าไปช่างใจกล้ายิ่งนัก ไม่อับอายบ้างหรือไง บนระเบียงเนี่ยนะ!!!! พิเมร่าหลับตายกมือขึ้นปิดใบหน้าที่กำลังแดงก่ำพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง วันนี้องค์จักรพรรดิเรียกพบเธอ สาวใช้ข้างกายปลุกเธอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางให้มาเตรียมตัว เสื้อผ้าที่จะสวมใส่วันนี้ถูกส่งมาจากองค์รัชทายาทเจสัน ชุดสีชมพูที่สวยงาม เป็นชุดที่ใช้ผ้าชั้นดีในการตัด ดูสวยแต่ทว่าไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าอ่อนหวาน สาวใช้เปิดกล่องเครื่องประดับ ปรากฏเป็นทับทิมเม็ดใหญ่ พอใส่ออกมาแล้วงดงามยิ่งนัก ทับทิมสีเดียวกับสีผมของเธอ พิเมร่ารู้สึกว่าองค์รัชทายาทผู้นี้คงเป็นคนดีไม่มากก็น้อย เขาส่งชุดเเละเครื่องประดับที่ถูกใจเธอมาให้ ราวกับรู้ใจเธออย่างนั้น “งดงามมากเพคะองค์หญิง” ในกระจกเงาปรากฏสตรีงดงาม เธอเองก็ยังไม่เคยเห็นตัวเองในแบบนี้มาก่อน สาวใช้พาพิเมร่ามายังห้องโถงใหญ่เพื่อเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ “พิเมร่า….” เธอทำความเคารพเเล้วเงยหน้าขึ้น เบื้องหน้าคือชายชราท่าทางใจดี “เราและพ่อของเจ้าเคยออกรบด้วยกัน สมัยหนุ่มๆ เขานี่เก่งกาจอย่างหาตัวจับได้ยากผู้หนึ่งเลย” พิเมร่ายิ้ม องค์จักรพรรดิกล่าวถามถึงเสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเธอ พูดคุยเรื่อยเปื่อย จนเธอไม่รู้สึกเบื่อ เวลาผ่านนานกว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกที ก็มีบุรุษสองคนเดินเข้ามาในห้อง “มากันพอดี เราจะแนะให้รู้จัก นี่โอเว่น….” เธอหันไปมองบุรุษที่ชื่อโอเว่น เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาจนยากจะละสายตา บนใบหน้าเขาปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ ให้เธออย่างเป็นมิตร เธอเหลือบไปมองบุรุษอีกคน….. “!!!!!!” “ส่วนนี่องค์รัชทายาทเจสัน…” เป็นเขาบุรุษคนเมื่อคืน!!! เขาส่งยิ้มพร้อมทั้งหัวเราะน้อยๆ ให้กับท่าทางที่ตกใจของเธอ พิเมร่าก้มหน้าลงซ่อนอาการเขินอายไว้ “เรากล่าวตรงๆ เลยนะ….เราอยากได้องค์หญิงมาเป็นลูกสะใภ้ของเรา” เธอเงยหน้ามององค์จักรพรรดิ แล้วมองหน้าองค์รัชทายาท พิเมร่าอมยิ้มน้อยๆ ด้วยท่าทีเขินอาย องค์จักรพรรดิหัวเราะชอบใจที่ได้เห็นหนุ่มสาว หน้าแดง “พิธีสมรสจะจัดขึ้นอีกสองเดือน ขอองค์หญิงเตรียมตัวให้เรียบร้อย” เจสันมองมาทางพิเมร่า ทั้งสองสบตากันอยู่เนิ่นนาน “เอาล่ะ โอเว่นพาว่าที่เจ้าสาวของเจ้าไปยังคฤหาสน์เดอนีเซียเถิด ทำความรู้จักกันให้คุ้นเคยก่อนอภิเษก” “คะ?” พิเมร่าหน้าเสีย รอยยิ้มค่อยจางลงจากใบหน้า “เอาน่า…ไม่ต้องเขินอายไปเราเข้าใจดี” เสียงหัวเราะของชายชราดังขึ้นทั่วบริเวณ แต่พิเมร่ากลับไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอหูอื้อตาลายไปหมด พิเมร่าทอดสายตามองขบวนอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ องค์จักรพรรดิจัดงานให้อย่างสมเกียรติของเธอ เธอก้มมองดอกไม้ในมือด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ผ่านมาสองเดือนแล้วในคฤหาสน์เดอนีเซีย เมื่อเดือนที่แล้วมีพิธีแต่งตั้งแกรนด์ดยุคคนใหม่ โอเว่นได้รับตำแหน่งจากพ่อของเขา เธอแต่งงานพร้อมเตรียมตัวเป็นแกรนด์ดัชเชสเดอนีเซีย ขบวนอภิเษกเดินทางมาถึงโบสถ์มีท่านโปปทำพิธีให้ เธอเหลือบมองใบหน้าท่านโปปแล้วก็อดหายใจติดขัดไม่ได้ บนดินแดนนี้มีบุรุษที่งดงามเช่นนี้ด้วยเหรอ งดงามจนสตรีเช่นเธอกระดากอาย โอเว่นเห็นเธอกำลังตกตะลึงก็เดินมาควงแขนพร้อมกับดึงให้เธอเดินตามเขา เธอมองหน้าเจ้าบ่าวข้างกายอีกครั้ง โอเว่น เดอนีเซีย ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมาเขาดูแลเธอดี จนเกินคำว่าดีไปมาก เขาจัดหาคนรับใช้ยี่สิบคนให้ดูแลพิเมร่า เขารู้ว่าเธอชอบดอกลิลลี่ ทุ่งกุหลาบหน้าคฤหาสน์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นทุ่งดอกลิลลี่ อาหารทุกอย่างล้วนรังสรรค์อย่างปราณีต เสื้อผ้าก็มีช่างจากห้องเสื้อดังมาวัดตัวตัดให้ทุกอาทิตย์ พิเมร่าจำได้ว่าเธอไม่เคยใส่ชุดซ้ำกันเลย เครื่องเพชร เครื่องประดับหลายร้อยชุดถูกส่งมาให้เธอ ยังไม่รวมคอลเลคชั่นใหม่ที่ให้เธอเลือกอีก…. ชีวิตราวกับเป็นเจ้าหญิงในนิทาน งดงาม น่าทะนุถนอม แต่ทว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเธอ….. ชีวิตที่แสนเลอเลิศนี้ไม่เหมาะกับเธอ พิเมร่าไม่ชอบ สองมือคู่นี้มิได้อยากจับแก้วชายามบ่าย เธออยากจับดาบวิ่งไล่ฟาดฟันกัน ชีวิตเช่นนี้……น่าอึดอัด…น่าอึดอัดเหลือเกิน…. มือที่จับช่อดอกไม้กำแน่น โอเว่นยังคงส่งยิ้มให้เธอเหมือนเคย รอยยิ้มที่มั่นใจนั่น รอยยิ้มที่เขาคิดว่าเธอต้องชอบในสิ่งที่เขาทำโดยไม่ถามความเห็นเธอซักคำ รอยยิ้มน่าสะอิดสะเอียนนั่น!!! เธอเกลียด เธอเกลียดที่สุด!!!! งานเลี้ยงจัดอย่างยิ่งใหญ่ โอเว่นยังคงยุ่งอยู่กับการรับแขก ส่วนพิเมร่าเดินกลับห้อง เธอให้คนรับใช้ไปบอกกับโอเว่นว่าเธอเหนื่อยขอขึ้นไปพักก่อน พิเมร่าเหลือบมองชุดแต่งงานแสนสวยที่เธอถอดกองไว้ ชุดนี้ใช้เวลาทำหนึ่งเดือนเต็ม กว่าจะถักทอดิ้นทองและอัญมณีลงไปในชุดเสร็จ เป็นชุดแต่งงานแสนสวยที่ประเมินมูลค่าไม่ได้…. เธอสวมชุดใหม่ที่สะดวกสบายกว่าเดิม พิเมร่าใส่กางเกงแทนที่จะสวมกระโปรง เธอกะจะไปขี่ม้าเพื่อระงับสติอารมณ์สักหน่อย อากาศด้านนอกเย็นเยียบ…..เหมือนคืนนั้น…….. คืนที่เธอพบกับเจสัน พิเมร่าไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยอะไรกับเจสันเลยตั้งแต่มีคำสั่งแต่งงานจากองค์จักรพรรดิ พิเมร่ารู้ดีว่ามันไม่เหมาสม หรือไม่สมควรจะคิดถึงใครอื่นนอกจากว่าที่สามี เธอเดินไปเรื่อยๆ ถึงคอกม้า ลมเย็นที่ปะทะใบหน้ายามขี่ม้าทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลง ความตรึงเครียดที่มีรู้สึกดีขึ้น เธอจะทนอยู่กับโอเว่นได้ไหมนะ…. ทนไม่ได้แล้วจะทำยังไง? ในเมื่อการแต่งงานไม่ใช่แค่ตัวเธอแต่เกี่ยวพันไปถึงสองอาณาจักร ไม่ได้มีทางเลือกให้เธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พิเมร่าแหงนหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน เธอหลับตาลงทำใจซักพักแล้วขี่มากลับคฤหาสน์เดอนีเซีย “พิเมร่า?” เธอกำลังจูงม้าเข้าคอกก็พบกับเจสันที่กำลังให้หญ้าม้าที่คอก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม