เหอผิงฟาหยางยืนรอหวงหลานที่เพิงเก่าที่นางเคยให้เป็นที่ช่วยคน กลับไร้แม้เงาของหวงหลาน
“องค์ชาย นี่ก็เลยเวลามากแล้ว แม่นางน้อยหวงหลานคงไม่มาแล้ว”
“รออีกสักพักดีไหม บางทีวันนี้นางอาจมาสายๆ ”
“แต่นี่ก็ใกล้ยามเที่ยงแล้วหากองค์ชายชักช้า เกรงว่าจะไม่ทันเวลาดื่มชากับแม่นางหลงถานไป๋อี้ชิง”
“รอนางอีกสักครู่หากนางไม่มา ค่อยไปที่บ้านตระกูลหลงถาน”กงฉานเดินไปที่ ร้านซาลาเปาข้างๆ
“ท่านลุง แม่นางน้อยหวงหลานท่านรู้ไหมว่านางวพำนักที่ไหนกัน”
“ ใครๆ ก็รู้ว่า ไม่มีใครรู้ว่าแม่นางน้อยหวงหลานพำนักที่ไหน ครั้งหนึ่งเคยมีคนคิดสะกดรอยตามแต่ทว่ากลับถูก ท่านป้าหลิวเหยียนลงไม้ลงมือเสียปางตายตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สองคนแม่ลูกอีกเลย”
“แล้วรู้หรือไม่ ทำไมวันนี้แม่นางน้อยหวงหลานจึงไม่มา"
"นั่นอาจเป็นเพราะนางป่วยไข้ ปกติแม่นางน้อยหวงหลานไม่มาคนเดียวก็มากับมารดาหลิวเหยียน"
ฟาหยางขมวดคิ้ว
"ท่านลุง นางพำนักอยู่ที่แห่งใด"ลุงขายซาลาเปาส่ายหน้าช้าๆ
"องค์ชายไร้วาสนา ไม่ได้ชิดเชื้อมีเพียงวาสนาได้พานพบ"
"ข้าจะมาอีกทีวันพรุ่งนี้"กงฉานถอนหายใจ กับใบหน้าเศร้าหมองของเหอผิงฟาหยางที่แม้จะก้าวเดินนำหน้าแต่ภายในใจของฟาหยาง กงฉานรู้ดีว่าไม่มีทางยอมแพ้สิ่งใดง่ายๆ
บ้านหลงถาน
"คุณหนูรอองค์ชายอยู่นานแล้ว"ฟาหยางเดินตามสาวใช้เข้าไปข้างใน
เบื้องหน้านั่น องค์ชายใหญ่เหอผิงฟาหนาน นั่งหันหลังให้ฟาหยางที่ก้าวเข้าไปไป๋อี้ชิง นั่งหันหน้ามาสบตาฟาหยางพอดี นางกำลังบรรเลงเพลงกู้เจิ้งเพราะพริ้ง แต่ก็สะดุดหยุดลงทันที เมื่อเห็นว่าฟาหยางเข้ามา
ใบหน้าเผยรอยยิ้มสดใส
"องค์ชายรอง มาแล้ว"
ฟาหนานหันมามองเต็มตา
"นางชวน เจ้ามาด้วยหรือ"ไป๋อี้ชิงยิ้มหวานหยด
"ในเมื่อองค์ชายใหญ่ได้รับคำเชิญแล้วทำไมองค์ชายรองที่มีบุญคุณกับข้าจะไม่ได้รับคำเชิญเล่า"ฟาหนานยิ้มขมขื่นยอมนั่งลงโดยดีเข้าใจแล้วว่าไป๋อี้ชิงเชิญเขามาเพื่อจะทดสอบฟาหยาง
"ไป๋อี้ชิงรอองค์ชายตั้งแต่เวลาบ่าย นึกว่าป่วยไข้จึงไม่มาเสียแล้ว ชาที่ให้ไป ...ได้ดื่มหรือยังเป็นชาดีบรรเทาไอเย็นเข้าแทรกได้"กงฉานรีบเก็บห่อชาหลบด้านหลัง
"ดื่มไปบ้างแล้วชาของเจ้าช่วยได้มากข้าจึงมาถึงนี่ได้"
"ต้องไอเย็น เมื่อวานวันนี้ข้าได้ยินว่าองค์ชายรองฟาหยางระดมคนงมของขึ้นมาจากแม่น้ำ ไม่รู้ว่าเป็นของสิ่งใดกัน"
"พี่ใหญ่ช่างหูตากว้างไกล ของสิ่งนั้นข้าส่งคนงมมากมายหลายคนทว่ากลับไม่พบมันจึงเลิกล้มความตั้งใจ "โกหกหน้าตาย กงฉานก้มหน้ามองพื้น
"องค์ชายคงไม่ได้อยากได้ของชิ้นนั้นไปให้แม่นางน้อยคนเมื่อวาน"สายตาหวานตัดพ้อ
"ไม่...ข้าแค่รู้สึกว่าทำไมถึงได้หามันไม่พบทั้งๆ ที่ของนั่นเพิ่งจะจมลงน้ำได้ไม่นาน"โกหก
"หากองค์ชายคาใจ ไป๋อี้ชิงจะให้คนของไป๋อี้ชิงไปตามหาพ่อค้าหินสีคนนั้นซื้อหินสีแบบเดียวกันมาหลายอันหน่อย ราคาเพียงน้อยนิดหาใช่ของมีค่าไม่"ฟาหยางยิ้ม
"ข้า ไม่ต้องการมันแล้ว ตอนนี้ก็เลิกล้มความตั้งใจไปแล้ว มาวันนี้ตั้งใจมาดื่มชาแล้วเมื่อครู่ได้ยินเสียงกู้เจิ้งของเจ้าเพราะพริ้งอยากจะฟังไปพร้อมกับชาร้อนๆ ในเมื่อเร่งเดินทางมานี่เพื่อการนี้"
เปลี่ยนเรื่องพูดทำเอาไป๋อี้ชิงยิ้ม แก้มปริ รินชาลงจอกด้วยมือของตัวเองส่งให้ฟาหยางก่อนที่จะทรุดกายลงบรรเลงเพลงกู้เจิ้งหวานแว่วตามสายลม
"ฟาหนานยกจอกชาขึ้นจิบสายตาเขม่นมองท่าทีของฟาหยางที่มองไป๋อี้ชิงด้วยสายตาพึงพอใจ
บ้านป่า
"วันนี้เจ้าไม่ออกไปที่ตลาดมีเรื่องใดไม่สบายใจ"หลิวเหยียนถามหวงหลานด้วยเห็นว่าร้อยวันพันปีหวงหลานจะต้องไปที่ตลาดรอคอยใครสักคนมาเลิฟเรื่องนี้555 ไรท์ละเมอ
รอคอยใครสักคนมาขอร้องให้ช่วย
ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกหวงหลานมักจะพูดว่า การเฉยชาต่อชะตากรรมเลวร้ายของเพื่อนมนุษย์เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดเช่นกัน
"หากจะบอกท่านแม่ว่าข้าหลบเร้นกายจากใครบางคน"
"อืม แม่เข้าใจเจ้าดี"ไม่ถามต่อให้มากความ
"ท่านแม่ ข้าไม่เคยต้องลำบากใจเพียงนี้"
หลิวเหยียนยิ้ม
"หากใจเจ้าไม่อยากพบเขาก็เพียงแค่เร้นกาย แต่ลิขิตสวรรค์เราต่างรู้ดีว่าไม่ม่ทางฝืน...นอกจากจะหลบหลีกมันก็เท่านั้น"
วังหลวง
องค์ชายใหญ่เหอผิงฟาหนาน ประสานมือตรงหน้าฮ่องเต้
"เสด็จพ่อลูกมีเรื่องขอความเป็นธรรม"เหอผิงฉีปิงเงยหน้าขึ้นจากกองฎีกา
"มีเรื่องใดกันถึงร้อนรนเพียงนี้นี่ยามห้าย (21.00-22.59) เจ้าไม่รอถึงพรุ่งนี้"
"เสด็จพ่อลูกไม่อาจทนได้จนถึงพรุ่งนี้ ในเมื่อเจ้ารองฟาหยางหยามเกียรติของลูกยิ่งนัก"
"เช่นไรจึงกล่าวหาเจ้ารองว่าหยามเกียรติ"
"เจ้ารองอาศัยพลังเวท ให้แม่หมอที่ต่างร่ำลือเรื่องผูกด้ายชะตารักเกลียดผูกด้ายให้เขากับหลงถานไป๋อี้ชิงทำให้นางเปลี่ยนใจไปจากลูก"
"เหอผิงฟาหนาน ..เรื่องรักใคร่เช่นไรจึงจะบงการกันได้ หากนางมีใจให้กับเจ้าจริงเพียงแค่ผูกด้ายชะตาเหลวไหลนั่นคิดว่าจะทำให้นางเปลี่ยนใจจากเจ้าเชียวหรือ"
"เสด็จพ่อ.. แต่ผู้คนล้วนกล่าวขานว่า นางล้วนสามารถทำให้ผู้คนรักเกลียด”
“เหลวไหล อย่าได้นำเรื่องเหลวไหลแบบนี้มาบอกกล่าวข้าอีก”
“เสด็จพ่อในพระทัยท่านมีข้าบ้างหรือเปล่า ในพระทัยท่านนอกจากเหอผิงฟาหยางแล้วยังมีลูกคนนี้หรือไม่”เหอผิงฉีปิงสะบัดมือลงบนใบหน้า ฟาหนานอย่างแรง
“จำไว้ ลูกของข้าต้องอดทนห้ามอ่อนแอ ห้ามมีน้ำตา การจะเอาชนะทุกอย่างได้ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของจิตใจเท่านั้น”
ฟาหนานประสานมือตรงหน้า
“เสด็จพ่อตรัสถูกต้องที่สุด”
เช้าสดใส เหอผิงฟาหยางก้าวเดินยังที่เดิม ในเมื่อวานเพิงเก่าที่เดิมบัดนี้กลับมีร่างเล็กของหวงหลานนั่งอยู่ตรงหน้ารอยยิ้มสว่างสดใสของ ฟาหยางปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก
“หวงหลาน”
“คุณ ชาย..องค์ชาย มีเรื่องใดอีกจึงต้องแวะมาที่นี่”
“ขะขะข้า อือลืม กำลังคิดว่าเจ้าต้องป่วยไข้เพราะโดนไอเย็นเข้าแทรกความจริงตั้งใจนำชาขับไอเย็นมาให้เจ้าแต่เมื่อวานข้ามาแล้วไม่พบเจ้าวันนี้เลยไม่ได้หยิบติดมือมาด้วย”
“องค์ชาย ด้วยทุกอย่างที่องค์ชายร้องขอ หวงหลานทำให้องค์ชายจนสิ้นแล้ว บัดนี้เราสองคนนับว่าหมดสิ้นบุญคุณความแค้น เช่นนั้นอยากให้คุณชายช่วยทำตามสิ่งที่หวงหลานยึดมั่นมาตลอดนั่นคือ ไม่มีการสานสัมพันธ์ต่อไปกับคนที่มาขอให้ช่วย เพราะนี่คือหน้าที่ของหวงหลาน” ฟาหยางถอนหายใจ
เสียงฝีเท้ามือสังหารสี่ห้าคนวิ่งเข้ามาล้อมรอบ หวงหลานและฟาหยางไว้
“พวกเจ้าเป็นใคร”
“ย้ากกก”ไม่พูดพร่ำทำเพลงกระบี่ในมือฟาดเข้าใส่ โต๊ะไม้ตรงหน้า หวงหลานขาดเป็นสองส่วน ฟาหยางกระโดดเข้าคว้าเอวบาง ไว้ผลักร่างเล็กถอยห่าง
“หวงหลานเจ้าถอยไป”กางแขนออกป้องกันหวงหลานไว้ พาตัวเองเข้าขวางมือสังหาร เพียงคนเดียวไม่แน่ว่าจะเอาชนะมือสังหารได้
ฟาหยางไม่คิดจะหนีอยู่แล้ว ตั้งท่าเตรียมรับมือ เสียงคมกระบี่แหวกอากาศคราวนี้ เป้าหมายคืออกกว้างของฟาหยางที่พลิกตัวหลบ คมกระบี่ด้านหน้าได้ทัน คมกระบี่จากมือสังหารอีกคนด้านหลังสร้างบาดแผลสาหัสที่แผ่นหลังกว้างเลือดสีแดงสดไหลเป็นทางยาว หวงหลานถลาเข้าไปรับร่างสูงที่โงนเงนแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้า
“พวกเรามีคนร้าย กำลังจะฆ่าคน พวกเราช่วยกัน” ลุงขายซาลาเปาร้านข้างๆ คว้ามีดคว้าไม้และกระทั่งซาลาเปาขว้างใส่มือสังหารเหล่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างหยิบฉวยสิ่งของที่พอจะเป็นอาวุธวิ่งกรูกันเข้ามา มือสังหารหันรีหันขวาง เมื่อผู้คนในตลาดล้วนร่วมใจ เข้ามาช่วยหวงหลานและฟาหยาง นับสิบคน
“องค์ชาย องค์ชาย”หวงหลานมีสีหน้าตื่นตกใจอย่างที่สุด
“เจ็บเหลือเกินโอ๊ยๆๆๆ ทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของหวงหลานหลับตานิ่งสิ้นสติไปในอ้อมแขนของหวงหลานในทันที