ตอนที่ 4

1324 Words
ตอนที่ 4 “พี่ใหญ่ ไม่ไปไม่ได้หรือ ข้าไม่อยากหัวแตกนะ” รองแม่ทัพแกล้งเอ่ยออกมา แต่มีหรือว่าพี่ใหญ่ หรือไท่จื่อแห่งแคว้นหานจะยินยอม เขาชอบมากเวลาที่น้องสาวบุญธรรมจัดการกับเจ้าบุรุษปากสุนัขผู้นี้จนอยู่หมัด “ไม่ได้ คำสั่งของข้า เจ้ากล้าขัดเช่นนั้นหรือ หากเจ้าอยากขัดคำสั่งของไท่จื่อแห่งแคว้น มีโทษใดจงตอบข้ามา” คำกล่าวนั้นดูดุดันมากทีเดียว ไท่จื่อยืนหน้านิ่งบึ้งตึง พลางยืนกอดอกรอคำตอบของผู้เป็นญาติผู้น้องหรือน้องเขยผู้นี้ “เสด็จพี่ไท่จื่อ กระหม่อมขอร้องหละ ไม่เช่นนั้นฮูหยินคงเอาไม้ฟาดหัวของกระหม่อมแน่พะยะคะ” คำอ้อนวอนส่งไปถึงพี่ชายผู้สูงศักดิ์ ที่ยืนกอดอกมองเขาอยู่ แลดูว่าน่าจะมีแผนเป็นแน่ “ฮ่าๆๆ เจ้าบุรุษปากสุนัขกลัวภรรยาหรือนี่” คำกล่าวนั้นส่งผลให้ร่างหนาของแม่ทัพยืนเกร็งอยู่ชั่วขณะ พลันยกยิ้มเยอะหยันโชคชะตาของตนเองที่รักแม่แมวน้อยจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ................................................. จวนท่านแม่ทัพ ร่างบางกำลังง่วนกับการลงมือทำอาหารให้สามี นางเตรียมของชอบที่เขามักบ่นว่าอยากกินแต่มิมีใครทำอร่อยเท่ามารดาของเขา นางจึงได้ลงมือทำเผื่อว่าเขาอาจจะชอบ นางก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าฝีมือของนางพอจะเทียบเคียงกับมารดาของเขาหรือไม่ วันนี้อาหารก็จัดสำรับไว้รอสามีของตนเองกลับมารับอาหารเย็นพร้อมกันและตั้งโต๊ะ อาหารวันนี้นางทำเพียงสี่อย่าง ก็มีปลานึ่งบ๋วย ไก่ตุ๋นโสม ผัดผักกาดขาว เต้าหู้ยัดใส่ผัดใส่เห็ดหอมแดง อาหารเหล่านี้แม่ทัพใหญ่หรือสามีนางเปรยว่าอยากจะกินมาหลายวันแล้ว วันนี้กว่านางจะลุกเดินก็กินยาไปสองถ้วยเขาเล่นเสียนางไม่มีแรงจะดินเลย ปวดขาและปวดหลังเดินก็เหมือนคนพิการ โถชีวิตที่ถูกสามีเคี่ยวกรำช่างน่าสงสารเหลือเกินและนี่ก็มืดค่ำแล้ว นางนั่งรอเขาที่เรือนหลักห้องรับอาหารที่รายล้อมไปด้วยเหล่าต้นไม้เล็กๆ อีกทั้งดอกไม้ที่ปลูกไว้ก็ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ นางนั่งชเง้อคอยืดยาวมองทางของสามีว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเสียที เลยเวลารับอาหารแต่เขาก็ยังไม่มา เช่นนั้นแล้วนางจึงได้ลุกเดินเขาเรือนของตนเอง ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ จะมีใครเหมือนนางบ้างหรือไม่ นั่งคอยสามีแต่ละวันก็ไม่เคยจะโผล่หัวมาหานาง “อาปา ออกมา” ฮูหยินเอกของจวน นั่งอยู่ภายในเรือนนอนของตนเอง พลางเอ่ยเรียกเงาที่แฝงกายคอยอารักขานางที่จวน ซึ่งสามีของนางให้อาปาไว้คอยดูแลความปลอดภัยหากเกิดอันตราย อาปาก็พร้อมที่จะปกป้องดูแลนายหญิงของตนเอง “ขอรับ” เงาวูบหนึ่งเอ่ยออกมา พลันมายืนเบื้องหน้าก้มหน้าต่ำพร้อมด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำ “พาข้าไปหอบุหลัน” นางเอ่ยเสียงเรียบ และไม่ให้อีกฝ่ายเอ่ยปฏิเสธ “คือว่า ฮูหยิน” เขากำลังอ้าปากเอ่ย “หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าเป็นคนของข้าในเมื่อท่านแม่ทัพมอบเจ้าให้ข้า ข้าสั่งอะไรเจ้าก็ต้องทำ เข้าใจหรือไม่” คำเอ่ยแกมสั่งการไปในตัว นางลุกเดินออกจากเรือนของตนทันที อาภรณ์ที่สวมใส่ก็งดงามประดุจเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ ชุดสีชมพูกลีบบัวปักด้วยดิ้นสีทองและด้ายสีแดง อีกทั้งผีเสื้อที่ปักตรงชายกระโปรงยามเมื่อนางเดินกลับพลิ้วไหวเหมือว่าเหล่าผีเสื้อเหล่านี้กำลังขยับปีก รูปหน้าเรียว ดวงตากลมโตดูสุกสกาวเหมือนดวงดาราส่องแสงระยิบระยับยามค่ำคืน อีกทั้งพวงแก้มทาชาดสีชมพูอ่อน อีกทั้งปากบางเรียวสวยก็ทาชาดสีชมพูระเรื่อ คิ้วคมโก่งสวยรับดวงตา ผมเกล้าปักปิ่นมุขเรียบง่ายเพียงอันเดียว การเยื้องย่างก็ดูแล้วว่าเร่งรีบเพียงใด “ไอ้สามีชั่ว วันนี้ข้าจะเอาเลือดชั่วเจ้าออกมา” นางเอ่ยขึ้นให้อาปาได้ยิน คนเดินตามนั้นก็หน้าถอดสีไปหลายส่วน ฮูหยินไม่มีวรยุทธแต่เมื่อโกรธมักจะแผ่อายกดดันออกมาอย่างต่อเนื่อง อาปานึกถึงสภาพที่ท่านแม่ทัพเลือดตกยางออกก็หวาดกลัวขึ้นมาแล้ว คนภายนอกย่อมไม่มีใครรู้ว่าท่านแม่ทัพกลัวฮูหยิน ทันใดก็ถึงหน้าประตูจวน พร้อมอาชาสองตัวที่อยู่หน้าจวน ตามที่ฮูหยินเอกของจวนสั่งกับสาวใช้นางนามว่าเสี่ยวชุน เสี่ยวชุนผู้รู้งานก็จับอาชาให้เจ้านายด้วยสีหน้าระรื่นและคาดว่าท่านแม่ทัพหาเหาใส่หัวอีกแล้ว ไม่มีวันไหนที่ท่านแม่ทัพจะไม่ยั่วฮูหยินให้ก่นด่า หรือไม่ก็ลงไม้ลงมือ ฮูหยินผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน เป็นสตรีในห้องหอกลับหายไปในพริบตาเมื่อแต่งเข้าจวนของท่านแม่ทัพ ทั้งสองมุ่งหน้าสู่หอบุหลัน หอคณิกาอันดับหนึ่งของเมืองหลวง นางควบอาชาอย่างคล่องแคล่วชายกระโปรงกระพือขึ้นลงตามแรงควบม้า มีเรียวจับเชือกอย่างมั่นคง ส่วนเท้าของนางนั้นก็สะกิดอาชาที่นั่งอยู่บนอานอย่างรู้งาน ทั้งสองใช้เวลาราวสักสองก้านธูป (1 ก้านธูปคือ 15 นาที) ก็ถึงหอบุหลันแล้ว เถาม่านหลิว อายุ 17 ภรรยาแม่ทัพไร้พ่ายลงจากอาชาพลางดูอาภรณ์จัดให้เข้าที่และเดินเข้าด้านใน อาปาเงาที่ตามมาด้วยก็เอาอาชาไปผูกไว้ที่ฝากด้านหลังของหอบุหลัน ม่านหลิวเมื่อจัดอาภรณ์เข้าทีแล้ว นางก็เดินอย่างดงามอ้อนแอ้นตามทางเดินที่ปูด้วยผ้าสีแดง ประตูทางเข้าก็มีสาวงามเดินมาต้อนรับนางพลางเอ่ยถามว่ามาเป็นนักบรรเลงพิณใช่หรือไม่ นางยิ้มรับทันที นางขอเล่นสนุกก่อนก็แล้วกัน “ข้าชื่อลู่หลินนะ มีอะไรก็สอบถามได้” ลู่หลินสาวงามที่ต้อนรับเอ่ยขึ้น ขณะที่พา ม่านหลิวเข้าไปด้านใน ทางเดินกลางปูพื้นด้วยผ้าสีแดง สองข้างทางเดินประดับด้วยโคมไฟหลากสีส่องแสงสลัวดูงดงามยิ่งนัก เถาม่านหลิวมิเคยได้เข้ามายังสถานที่เช่นนั้นนางตื่นเต้นมากจนใจนั้นอยากกลับจวนแล้ว ผ้าคลุมผืนบางที่อยู่ในอกด้านในของเสื้อนางรีบนำมาปิดไว้ครึ่งล่างของใบหน้างามทันที ภายในแขนเสื้อนั้นมีกระดาษอยู่หนึ่งแผ่นนางเตรียมเอาไว้ให้สามีตัวดีของนางและคาดว่านางจะได้เป็นอิสระจากเขาเสียที หากถามว่านางรักเขาหรือไม่นางย่อมตอบได้คือรัก แต่การที่รักใครสักคนจะต้องทนนิสัยของเขาเช่นนี้หรือทำนางไม่มีความสุข ต้องนั่งชเง้อคอ มองทางสามีทุกวัน กลับมาก็ดึกดื่นมีแต่กลิ่นสุรา บางครั้งก็มีกลิ่นน้ำปรุงที่ส่งกลิ่นฉุนออกมาจากตัวเขา และเช่นนี้จะให้นางทนเพื่ออะไร เขารักนางบ้างหรือไม่ก็สุดจะรู้ได้ เนื่องว่าสมรสพระราชทานนั้นหากอย่าก็คงยากยิ่งนักแต่วันนี้นางจะประกาศให้ชัดเจนไปเลย อีกทั้งพี่บุญธรรมก็อีกคนที่ไม่ค่อยสนใจไท่จื่อเฟยของตนเอง และวันนี้นางจะจัดการทีเดียวทั้งสองไปเลย เถาม่านหลิวนางใหญ่มาจากไหนจึงริอาจจะทำเช่นนี้หรือ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD