8 ไป๋ถังกรรโชกทรัพย์

1698 Words
ระหว่างทางที่ไป๋ถังกำลังเดินกลับบ้าน จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกเธอขึ้นมา "นี่ เสี่ยวไป๋ มาดื่มกับพี่ชายไหมจ๊ะ" เสี่ยวไป๋? นี่เขาเรียกเธออย่างนั้นหรือ ไป๋ถังหรี่ตามองอีกฝ่าย เธอพบกับใบหน้าซูบผอมของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ยืนมองเธอมาจากข้างในบ้าน ดวงตาของเขาจ้องมองเธอด้วยความลามก หญิงสาวกำหมัดแน่นแต่ใบหน้าที่แสดงออกเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างสดใส ดีมาก ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนต้องเสียอาหารให้เธอแล้ว! จากความทรงจำของร่างเดิม ชายคนนี้มีชื่อว่าจางตู้ เขาเป็นอันธพาลประจำหมู่บ้าน ตอนนี้อีกฝ่ายมีอายุเกือบสามสิบปี แต่ไม่เคยแต่งงาน เพราะด้วยนิสัยของเขาบวกกับหน้าตาและฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยมีเงิน จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานกับเขา เพราะเขาไม่ได้แต่งภรรยา เงินที่หามาได้จึงใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย เขามักซื้อเหล้ามาดื่ม เวลาเมาจะชอบไปนั่งใต้ต้นไทรใหญ่หน้าหมู่บ้านและหยอกล้อผู้หญิงที่เดินผ่านไปมา ทุกคนเกลียดเขามากและขอให้หัวหน้าหมู่บ้าน ไปตักเตือนเขาแต่ก็ไม่ค่อยได้ผล จางตู้มักจะแค่พูดจาลวนลามเท่านั้นโดยที่ไม่ได้ไปแตะต้องตัวใคร พฤติกรรมของเขาเพียงสร้างความรำคาญ ท้ายที่สุดผู้คนจึงทำได้เพียงเดินหนีให้ห่างเวลาที่เจอเขาเท่านั้น จางตู้เห็นไป๋ถังอยากจะได้สามีคนใหม่ที่เลี้ยงดูตัวเอง เขาจึงจับตามองไป๋ถังมานานแล้ว และทุกครั้งที่เขาเห็นเธออยู่คนเดียว เขามักจะพูดจาลวนลามแสดงความลามกใส่ แม้ไป๋ถังจะต้องการหาสามีใหม่ แต่ผู้ชายหน้าตาน่าเกลียดอย่างจางตู้ไม่มีทางอยู่ในสายตาของเธอ ทุกครั้งที่หญิงสาวได้เจอชายผู้นี้ เธอมักจะมองเขาด้วยความขยะแขยง แล้วรีบเดินจากไป แต่ไป๋ถังในวันนี้ไม่ได้ทำอย่างนั้น เธอจงใจเดินเข้าไปหาจางตู้ "คุณเรียกฉันเหรอ" จางตู้ไม่ได้คาดหวังว่า ไป๋ถังจะตอบสนองเขาในวันนี้ หลังจากรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาก็แสยะยิ้มออกมาอย่างหื่นกระหาย เขารีบเปิดประตูบ้านแล้วยิ้มจนเห็นฟันสีเหลือง มือก็กวักเรียกให้ไป๋ถังเข้าไปในบ้าน "เข้ามาข้างในสิ" มุมปากของไป๋ถังกระตุกเล็กน้อย "ได้" จางตู้รีบเปิดประตูออกให้กว้างที่สุด "เข้ามา เข้ามา" ด้วยความใจร้อนเขาทนรอให้ไป๋ถังเดินเข้ามาในบ้านไม่ไหว จึงรีบเอื้อมมือเข้าไปดึงตัวของไป๋ถังเข้ามา น่าเสียดายที่ก่อนที่มือของเขาจะแตะต้องตัวของหญิงสาว ไป๋ถังก็จับแขนของเขาแล้วทุ่มลงกับพื้นด้วยแรงทั้งหมดของเธอ หน้าอกของจางตู้กระแทกกับพื้นดินแข็งๆ ความเจ็บแล่นผล่านไปทั่วร่างกายจนเขาร้องโอดโอยออกมา หลังจากนั้นไป๋ถังหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆ แล้วยกขึ้นสูง เล็งไปที่กลางเป้าของเขาเตรียมจะทุบมันอย่างแรง จางตู้เบิกตากว้างด้วยความสยดสยอง พยายามขยับตัวหนี เขาตะโกนออกมา "หยุด! หยุด! อย่า อย่าทำข้า!" แต่ไป๋ถังยังคงไม่ไหวติง เมื่อเห็นว่าเป้าของเขากำลังจะโดนหินก้อนใหญ่ทุบลงไป จางตู้ก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง แต่ว่าท้ายที่สุด ก้อนหินก็ไม่ได้ถูกทุบลงไป ไป๋ถังมองไปที่จางตู้ด้วยสายตาที่ชั่วร้าย "ต่อไปยังคิดลามกกับฉันอยู่หรือเปล่า" "ไม่แล้ว" จางตู้รีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เขาไม่รู้ว่าไป๋ถังกลายเป็นคนดุร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยปกติเมื่อเขาพูดจาเจ้าชู้ใส่ เธอเพียงแค่กลอกตาใส่เขาเท่านั้น แต่ครั้งนี้เธอเหมือนปีศาจที่ดุร้าย จงใจทำร้ายส่วนสำคัญของเขา จางตู้รู้สึกหวาดกลัวมาก หากว่ากลางกายของเขาได้รับบาดเจ็บ จนไม่อาจทำเรื่องรักใคร่เช่นนั้นได้ เขาคงรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าจนไม่อาจมีชีวิตอยู่ไปอีก "ไป๋ถัง ผมผิด...ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ครั้งนี้ผมดื่มเหล้ามากเกินไปจนไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ขอให้คุณโปรดอภัยให้ด้วย!” “สำนึกผิดจริงหรือ” ไป๋ถังเหยียบนิ้วมือของเขาเอาไว้ ในมือยังคงโยนก้อนหินขึ้นลงเพื่อข่มขวัญอีกฝ่าย จางตู้เจ็บมาก เขาต้องการให้เธอปล่อยมือของเขาโดยเร็ว จึงรีบกล่าวประจบสอพลอ "ใช่...ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ คุณต้องการอะไรโปรดบอกมาได้เลย โอ้ย! โอ้ย!” "ถ้าอย่างนั้นเพื่อแสดงความจริงใจที่คุณสำนึกผิดต่อฉันจริงๆ เอาอาหารในบ้านมาให้ฉันยืมเดี๋ยวนี้" หน้าผากของจางตู้เต็มไปด้วยเหงื่อ เขารีบพูดทันที "ได้! ได้! ผมจะรีบเอามันมาให้คุณเดี๋ยวนี้!" ในที่สุดหญิงสาวก็ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ ไป๋ถังค่อย ๆ ยกเท้าขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ไปสิฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่ " หลังจากพูดจบเธอก็โยนก้อนหินในมือขึ้นลงเล่นอีกครั้ง "อย่าให้ฉันรอนานเกินไปนักล่ะ" จางตู้ตัวสั่นจนอยากจะร้องไห้ออกมา เขากุมหน้าอกที่เจ็บปวดของตัวเอง แล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรอนาน เมื่อไปถึงห้องครัวเขาตักแป้งข้าวโพดใส่ถุงกระดาษ ตักไปตักมาเขารู้สึกว่ามันเยอะเกินไปจึงรู้สึกเสียดายขึ้นมา เขาจึงเทแป้งข้าวโพดกลับไปในโถจนเหลือเพียงครึ่งถุง จากนั้นเขาก็รีบเดินออกมาส่งถุงแป้งข้าวโพดให้กับไป๋ถัง "ไป๋ถัง ผมไม่มีอาหารมากนัก มีเพียงแค่นี้" ไป๋ถังหยิบมันขึ้นมาและเปิดดู มันมีปริมาณไม่มากนัก ดูเหมือนจะได้เพียงแค่ครึ่งถุงเท่านั้น เธอเหล่ตามองไปที่จางตู้ "คิดว่าเท่านี้เพียงพอสำหรับฉันงั้นหรอ หรือว่าเมื่อสักครู่ฉันใจดีเกินไป " ไป๋ถังขว้างก้อนหินเฉียดผ่านเป้ากางเกงของเขาไปนิดเดียว "ผม ผม... ผมจะไปเอามาเพิ่มให้อีก" จางตู้รู้สึกหวาดกลัวมาก แต่ก็ไม่กล้าโต้แย้งอะไรออกมา เขาเข้าไปในครัวอีกครั้งและตักแป้งข้าวโพดมาจนเต็มถุง รวมทั้งมันฝรั่งอีกแปดลูก คราวนี้เขายื่นมันให้ไป๋ถังด้วยมือที่สั่นเทา ไป๋ถังสำรวจของภายในถุงกระดาษ แล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ "หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวจบลง ฉันจะเอาอาหารมาใช้คืนให้" "ไม่ ไม่ต้องคืน" จางตู้ไม่กล้าให้นางมารอย่างเธอชดใช้ เขารีบส่งเธอออกไปจากบริเวณหน้าบ้านด้วยความเคารพ ไป๋ถังแบกของที่ปล้นกลับบ้านด้วยหน้าตาชื่นมื่น เธอยืนอยู่หน้าบ้านจางตู้แล้วโบกมือลาเขา "จางตู้ขอบคุณมาก คุณเป็นคนดีจริงๆ" จางตู้ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ ไป๋ถังเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมาก หากว่าเห็นเธอครั้งหน้าเขาจะต้องอ้อมไปให้ไกลอย่างแน่นอน! เมื่อลู่หยางกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าในห้องครัว มีถุงแป้งข้าวโพด และมันฝรั่งวางอยู่ ชายหนุ่มก็ถามไป๋ถังด้วยความประหลาดใจ "คุณไปยืมอาหารมากมายมาจากไหน" ไป๋ถังออกมาต้อนรับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงของเขา "ไม่ได้ยืม มีคนให้ฉันมาเปล่าๆ แบบไม่ต้องคืน" "ไม่ต้องคืนหรอ...ใครใจดีขนาดนี้" ลู่หยางเดินเข้ามาพร้อมกับพวงปลาตัวอ้วนห้าตัวในมือ "อาหารในยุคนี้ มันมีค่ามาก มีคนให้คุณมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร” ไป๋ถังตาโตเมื่อเห็นปลา เธอยกมันขึ้นมาดูด้วยความดีใจ "สามี...คุณเก่งจังเลยนะคะจับปลามาได้ตั้งหลายตัวเลย" ลู่หยางพอใจที่ได้รับคำชมแต่เขายังไม่ลืมถามเธอเรื่องอาหารบนโต๊ะ "แล้วสรุปว่ายังไงอาหารนี้มาจากไหนกันแน่" หญิงสาวพูดอย่างไร้เดียงสาว่า "มีคนให้ฉันมาเพราะว่า...ฉันสวยไงล่ะ" ลู่หยางเม้มริมฝีปากของเขา และมองไปที่ไป๋ถังอย่างจริงจัง "อย่าโกหก ผมรู้ว่าเหตุผลนี้มันเป็นไปไม่ได้ บอกมาตรงๆ ว่าคุณไปทำอะไรถึงได้อาหารเหล่านี้มา " ไป๋ถังทำหน้ามุ่ย "คุณนี่มันไม่มีอารมณ์ขันจริงๆ" ลู่หยางจ้องเธอโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ไป๋ถังยอมจำนน "ก็ได้ ก็ได้ ถ้าฉันพูดออกไปคุณว่าอะไรไหมละ" "ผมไม่ว่าอะไรหรอก" หญิงสาวจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับเขาฟัง ลู่หยางได้ฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว จางตู้สมควรที่จะถูกจัดการในข้อหาลวนลามผู้หญิง และควรได้รับโทษตามเหตุที่กระทำผิด แต่ไป๋ถังใช้วิธีการข่มขู่และกรรโชกทรัพย์คนอื่นเช่นนี้ก็ไม่ถูกต้อง ลู่หยางถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย "นี่เป็นวิธีที่ทหารในยุคอวกาศของคุณจัดการกับคนที่ทำให้คุณขุ่นเคืองใจเหรอครับ" "หือ...ทหาร...ใครคือทหารเหรอ" ไป๋ถังอมยิ้มแล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง "คุณคิดว่าฉันเป็นทหารอย่างนั้นเหรอคะ" เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเธอ ลู่หยางก็งงงวย "คุณไม่ได้บอกว่าคุณมียานเกราะเคลื่อนที่...นี่มันควรจะเป็นอาวุธของทหารที่ใช้ต่อสู้กับศัตรูไม่ใช่เหรอครับ" ไป๋ถังหัวเราะออกมาเสียงดัง "ฉัน!" เธอยกนิ้วชี้มาที่ตัวเอง และพูดด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ "คือโจรสลัดแห่งอวกาศ!" "..." ลู่หยางที่เป็นทหารได้ยินแล้วแล้วถึงกับพูดไม่ออก!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD