ตอนที่ 7

1006 Words
ทอฝันยิ้มเศร้ากับตัวเอง ก้อนสะอื้นจุกอยู่ตรงลำคอ ถ้าเขาจะพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าฟังกว่านี้สักนิด หรือตอบแชทเธอกลับมาก่อนที่เธอจะโทรหา ก็คงจะดีกว่านี้ ขณะที่เธอทั้งรัก ทั้งยอม พยายามถนอมความสัมพันธ์ไว้ให้คงอยู่ตลอดไป แต่อีกคนกลับมองว่าสิ่งที่เธอทำเป็นเรื่องกวนใจ ทำให้เขาเสียเวลา หรือที่เธอทำมันผิดจริง ๆ หรือเพราะเธอคิดมากไปเอง หรือเพราะที่ผ่านมา รักของเราไม่เท่ากัน 3 คนไม่สำคัญ หนึ่งสัปดาห์เต็มที่เธอไม่โทรหาเขา และเขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ทอฝันพยายามทำตัวให้ชิน บอกกับตัวเองว่า ทุกอย่างยังปกติ เธอกับเขายังคบกันและยังรักกันดี เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้แหละ เธอก็ยังอยู่ได้ แต่พอผ่านมาสองปี เธอจะให้สิ่งที่เคยเป็นมาตลอดเปลี่ยนแปลงไปแบบปุบปับก็คงไม่ได้ เธอควรรอ ควรให้เวลาเขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ ไม่ควรกวนใจทำให้เขาเสียสมาธิในการทำงาน “วันนี้ไปเปิดร้านสายนะเรา อู้เหรอ” “ฝันไม่ได้อู้สักหน่อย เฮียอย่ามาใส่ความฝันนะ แล้วทีเฮียล่ะ ทำไมยังไม่ไปทำงาน” ปลายฝันทำปากยื่นใส่พี่ชาย แถมมองค้อนเขาด้วย ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้าม เพื่อกินอาหารเช้าตอนสาย ก่อนไปเปิดร้าน แม้จะโตเป็นผู้ใหญ่ ทำงานหาเงินและรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว แต่เวลาอยู่กับพี่ชาย ทอฝันก็ยังทำตัวเหมือนเด็ก อาจจะเป็นเพราะพี่ชายเธอเองก็มักจะคิดว่า เธอยังเป็นเด็กหญิงทอฝันตัวเล็กที่เขาต้องคอยปกป้องดูแลเหมือนเมื่อวัยเยาว์ด้วยแหละ ทอฝันมีพี่น้องสองคน เธอเป็นลูกสาวคนเล็ก เฮียทิวเมฆ หรือ เฮียเมฆ เป็นพี่ชายที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ด้วยความที่มีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง เธอกับพี่ชายจึงสนิทสนมกันมาก เฮียเมฆทั้งรักทั้งห่วงใย และเอาใจเธอยิ่งกว่าป๊ากับม้าเสียอีก เวลาเธอโดนป๊ากับม้าดุ ถ้าเฮียอยู่ด้วย เฮียจะออกหน้ารับแทนทุกครั้ง เฮียเป็นเหมือนเกราะกำบังคอยคุ้มภัยให้น้องสาวคนนี้เสมอมา เฮียเมฆมีครอบครัวแล้ว เขาแต่งงานกับพี่ตันหยงเมื่อห้าปีที่แล้ว ทั้งสองมีลูกแฝดชาย 2 คนวัย 3 ขวบ...น้องแทน กับ น้องไท เด็ก ๆ กำลังน่ารัก ช่างพูดช่างจา และช่างอ้อนโกวฝันด้วย เฮียเมฆเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบและรับเหมาก่อสร้างหลายโครงการ ซึ่งเป็นกิจการที่ป๊าสร้างมาเองกับมือ พอป๊าวางมือจากตำแหน่งผู้บริหาร ป๊าจึงยกบริษัทให้เฮียเมฆบริหารจัดการต่อ ส่วนทอฝันนั้น ป๊าลงทุนเปิดคาเฟ่ให้ตามที่เธอต้องการ ทอฝันถือหุ้นบริษัทที่เฮียเมฆบริหารด้วยจำนวนหนึ่ง เธอจึงได้ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัททุกไตรมาส ซึ่งหากรวมทั้งปีแล้ว จำนวนเงินก้อนนี้มากกว่ารายได้จากการทำคาเฟ่ทั้งปีด้วยซ้ำ “เฮียหยุด เฮียจะพาหยงกับลูก แล้วก็ป๊ากับม้าไปเที่ยวพัทยา เฮียบอกฝันแล้วนี่ แล้วก็ชวนฝันแล้วด้วย แต่ฝันบอกว่าไม่อยากทิ้งร้านไปไหนนาน ๆ ไง” ทอฝันขมวดคิ้วมุ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกออกว่าเฮียเมฆเคยบอกเธอแล้วจริง ๆ ก็พยักหน้า “อาหารสำหรับคนตื่นสายค่ะ” ตันหยง...พี่สะใภ้คนสวยถือจานอาหารมาวางลงตรงหน้าน้องสามี “พี่หยงก็ ฝันไม่ได้ตื่นสายนะคะ ฝันแค่นอนเพลินไปหน่อยเท่านั้นเอง” เธอไม่ได้นอนเพลินหรอก เธอมัวแต่คิดถึงเรื่องที่กวนใจมาตลอดหลายวัน เลยนอนไม่ค่อยหลับมาหลายคืนแล้ว และเพราะความเพลียสะสมมาหลายวัน เมื่อคืนเธอจึงหลับนานกว่าปกติ เลยทำให้วันนี้เธอตื่นสาย “ไม่สายก็ไม่สายค่ะ ตกลงน้องฝันไม่ไปเที่ยวกับพี่กับเฮียจริง ๆ หรือคะ” “ไม่ล่ะค่ะ ฝันขอเฝ้าร้านดีกว่า ฝันกลัวรวยน้อยกว่าเฮีย” คนถูกน้องพาดพิงหัวเราะขำ เขาจับมือเมียที่ยังยืนอยู่ข้างโต๊ะมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างกัน “ปล่อยให้คนโสดทำงานไปเถอะจ้ะหยง เราสองคนพาลูกกับป๊าม้าไปพักผ่อนกันดีกว่านะครับที่รัก” เฮียเมฆมองเมียด้วยสายตาหวานเชื่อม แก้มของคนถูกมองแดงปลั่ง เธอขึงตาดุใส่สามี ก่อนจะหันมายิ้มให้น้องสาวของเขา “น้องฝันเปลี่ยนใจไปตอนนี้ยังทันนะคะ เราจะออกเดินทางกันตอนสิบเอ็ดโมงค่ะ” “ฝันขออยู่ทำงานแล้วกันค่ะพี่หยง ไม่อยากไปขัดคอใครบางคน เที่ยวให้สนุกนะคะ” เฮียเมฆหรี่ตามองน้องสาวอย่างจับผิด “บางทีเฮียก็สงสัยว่า น้องสาวเฮียแอบมีแฟนหรือเปล่า เพราะช่วงนี้เก็บตัวแปลก ๆ ชวนไปไหนก็ไม่ค่อยไป” “เปล่าสักหน่อย ฝันแค่อยากทำงาน” “ทำงานหนักก็ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ พักผ่อนเยอะ ๆ” “รับทราบค่ะ เฮียเลิกชวนคุยได้แล้ว ฝันจะกินข้าวเช้า” “กินเยอะ ๆ ซูบไปหมดแล้ว” “รู้แล้วน่า” ทอฝันรีบก้มหลบตาพี่ชาย เธอทำเหมือนตั้งใจกินอาหารในจาน แต่ความจริงแล้ว เธอไม่อยากให้เขาสังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าและในแววตาไปมากกว่านี้ เธอกลัวพี่ชายคาดคั้นถามเรื่องที่เธอปิดบังไว้ เพราะเธอไม่ยังกล้าบอกเล่าเรื่องราวของเธอกับจิรายุให้ใครฟังทั้งนั้น ถ้ายังไม่ได้รับความยินยอมจากเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD