ตอนที่ 8

1035 Words
เมื่อขับรถมาถึงลานจอดรถของตึก ทอฝันเลี้ยวรถเข้าจอดในช่องจอดประจำของเธอ ยังไม่ทันลงจากรถก็ได้รับข้อความในไลน์กลุ่มเพื่อนชวนไปกินอาหารมื้อค่ำวันนี้ ทอฝันอ่านข้อความแล้วลังเลใจว่าจะตอบรับหรือจะปฏิเสธดี เพราะช่วงนี้อารมณ์ของเธอไม่คงที่เท่าไร เธอไม่อยากพบปะพูดคุยกับใคร โชคดีที่ครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดกันตั้งหนึ่งสัปดาห์ เธอจึงไม่ต้องระวังสีหน้าแววตาเท่าไร เพราะไม่มีใครมอง เธอรู้ว่าป๊า ม้า พี่ชาย พี่สะใภ้เป็นห่วงเธอ เวลาเธอมีอะไรผิดปกติเล็กน้อย พวกเขาจะสังเกตเห็น และคอยถามไถ่เสมอ อย่างเมื่อเช้านี้ เฮียเมฆก็มองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ ยังดีที่พี่หยงอยู่ด้วย เฮียจึงไม่ได้ซักไซ้เธอมากเท่าไร แต่พอคิดไปคิดมา เธอคิดว่า ควรรับนัดเพื่อน ๆ ดีกว่า อย่างน้อยในช่วงเวลาที่อยู่กับเพื่อน มันอาจจะทำให้เธอลืมเรื่องว้าวุ่นใจตอนนี้ไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทอฝันจึงพิมพ์ข้อความตอบตกลงส่งไปในกลุ่มแชท หลังจากส่งข้อความแล้ว ทอฝันถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม้อยากปัดความคิดวุ่นวายในหัวออกไป แต่สุดท้ายเธอก็ยังวนเวียนคิดถึงเขาอยู่ดี ทอฝันจึงบอกตัวเองว่า ถ้าจะคิดก็ขอคิดในแง่ดีว่า เขาไม่ได้ไปเกเรที่ไหน เขาแค่งานยุ่งจนไม่มีเวลาว่างให้เธอก็เท่านั้น ในเมื่อเขาทำงาน เธอก็ต้องทำงาน ทำให้ยุ่งเข้าไว้จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ช่วงนี้เขาอาจจะไม่ว่างมาเจอเธอ ไม่สะดวกโทรหา ถ้าอย่างนั้นก็รอให้งานเบาบางลง แล้วค่อยเจอกันก็ได้ “ทำงาน !” ทอฝันบอกตัวเองด้วยน้ำเสียงขึงขัง เธอดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตูลงจากรถ เดินตรงไปยังร้านของเธอ เธอจะทำหน้าของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งในฐานะเจ้าของร้าน และคนรักของจิรายุ เมื่อเขายุ่งเธอก็จะไม่กวน ในฐานะคนรัก เธอจะส่งกำลังใจให้เขาอยู่ห่าง ๆ และอวยพรขอให้เขาทำงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แม้ค้างคาใจ แม้อยากพูดคุยให้เคลียร์ แต่เธอจะรอวันที่เขาโทรมาหา เพื่อจะได้พบเจอพูดคุยกัน ทอฝันคิดว่า หากได้อยู่กันลำพังในครั้งหน้า เธอจะพูดกับเขาเรื่องที่จะบอกให้คนอื่นได้รู้ว่า เธอกับเขากำลังคบหาดูใจกัน บรรยากาศร้านอาหารค่อนข้างเป็นส่วนตัว จารวี ชิดชนก และดอกสร้อยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทอฝันมาถึงร้านเป็นคนสุดท้าย เพราะเธอเพิ่งปิดร้านตอนหนึ่งทุ่ม “มาช้านะแก รู้ไหมว่าอีกสี่สิบห้านาที คุณภพก็จะมารับยัยจากลับบ้านไปเลี้ยงลูกแล้ว” ดอกสร้อยมองค้อนคนที่เพิ่งนั่งลงข้างเธอ “อย่าว่ากัน ฝัน...อย่าไปฟังนังดอก นี่ ๆ ฉันสั่งกับข้าวของโปรดแกไว้รอแล้ว กิน ๆ” จารวีห้ามศึกเพื่อน แล้วชักชวนกันรับประทานอาหารและพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ “ยัยจา...คุณภพเขาจะทำบ้านใหม่ให้พ่อกับแม่แกเหรอ” ชิดชนกหันไปถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกัน เพราะก่อนหน้าที่ทอฝันจะมา จารวีบอกว่าจิรายุกำลังจะสร้างบ้านหลังใหม่บนที่ดินเดิมให้พ่อกับแม่ “เปล่า...จิเป็นคนจัดการและออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด จิมันไม่ยอมรับเงินจากฉันกับคุณภพเลย แต่ระหว่างทำบ้านใหม่ พ่อกับแม่จะมาพักอยู่กับฉันก่อน” “อ้อ ! จิเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว หน้าที่การงานก็ใหญ่โตมั่นคงขนาดนั้น ก็คงอยากทำเองทั้งหมด จะได้ภาคภูมิใจว่า บ้านมาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แล้วนี่ เด็ก ๆ คงดีใจใหญ่เลยที่คุณตาคุณยายจะไปอยู่ด้วยใช่ไหม” “ดีใจมาก วางแผนจะไปนอนเพื่อนคุณตาคุณยายกันแล้ว” จารวีว่ายิ้ม ๆ ลูก ๆ ของเธอรอคุณตาคุณยายย้ายเข้าบ้านอย่างใจจดจ่อ โดยเฉพาะจันทร์จ๋า...ลูกสาวคนโตวัย 6 ขวบ ถามทุกวันว่าเมื่อไรคุณตาคุณยายจะมาอยู่ด้วย “แล้วจิมีแฟนหรือยังจา จะว่าไปน้องชายแกก็หล่อเหลาเอาการอยู่นะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องชายแก ฉันจับกินตับไปนานแล้ว” ดอกสร้อยว่าแล้วยิ้มพราว “นังดอก น้องนุ่งก็เว้นหน่อยเหอะ” ชิดชนกเบ้ปากมองแรงเพื่อนสาว “โอ๊ย ! นังชิด ถึงฉันอยากกินตับเขา เขาก็คงไม่ให้ฉันกินง่าย ๆ หรอก ตอนนี้เจ้าจิของยัยจาไม่ใช่เด็กหนุ่มไร้เดียงสาแล้วนะยะ แต่เป็นหนุ่มเต็มตัว หล่อเหลา สมาร์ต แถมยังดูภูมิฐาน หน้าที่การงานก็ดี อนาคตยิ่งไม่ต้องพูดถึง จิต้องเป็นหนุ่มนักบริหารที่เนื้อหอมสุด ๆ แน่ คงมีสาว ๆ มาต่อคิวรอให้กินตับเพียบ จิคงมองไม่เห็นหญิงชราสายเปย์อย่างฉันหรอก” “เออ...รู้ตัวก็ดี นังหญิงชราสายเปย์” ชิดชนกว่าแล้วป้องปากขำ ดอกสร้อยจึงขึงตาใส่เพื่อน จารวีหัวเราะขำเพื่อนสาวทั้งสอง ถ้าไม่มีโต๊ะอาหารขวางกั้น สองคนนี้คงวางมวยกันไปแล้ว “ฝัน...แกหิวจัดขนาดนั้นเลยเหรอ เอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน ไม่พูดไม่จา” ดอกสร้อยมองเพื่อนอย่างสงสัย ตั้งแต่มานั่งลง ทอฝันไม่พูดอะไรเลย เอาแต่สนใจกับข้าวบนโต๊ะเท่านั้น “ฉันเคยพูดทันพวกแกสองคนด้วยเหรอ” ดอกสร้อยยิ้มแหย แล้วส่ายหน้า “ไม่เคย” ตอบแล้วก็หันไปถามจารวีเรื่องของจิรายุใหม่ “แล้วสรุปว่า จิมีแฟนหรือยังเหรอจา” จารวีทำหน้าครุ่นคิด ขณะที่ยังไม่ได้เอ่ยตอบ ทอฝันก็เหลือบตามองเพื่อนด้วยสายตาหวาดระแวง หัวอกหัวใจเต้นระรัว เหมือนคนมีชนักติดหลัง กลัวถูกจับได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD