แฟนหรอก เพราะงานยุ่งมาก สัปดาห์หน้าก็ต้องเดินทางไปสิงคโปร์ และก็ไปอีกหลายประเทศในแถบอาเซียน ไปสำรวจพื้นที่และวางแผนขยายตลาดของบริษัทน่ะ เห็นคุณภพบอกว่าต้องไปเกือบสองปีแน่ะ”
สิ่งที่ได้ยินจากปากของจารวีทำให้ทอฝันนั่งอึ้ง เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมเขาไม่บอกเธอ เขาจะไปสิงคโปร์และไปอีกหลายประเทศ ไปตั้งเกือบสองปี และกำลังจะไปสัปดาห์หน้าด้วย ซึ่งก็เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน แต่จนป่านนี้เขาก็ยังไม่บอกเธอสักคำ เธอไม่ว่าอะไรเลย หากเขาจะไป เธอเข้าใจว่านี่คืองาน คืออนาคตของเขา แต่อย่างน้อยเขาควรบอกเธอให้ได้รู้บ้าง เธอซึ่งอยู่ในฐานะคนรักกันควรต้องรู้เรื่องนี้จากปากเขา ไม่ใช่รู้จากปากคนอื่น
...นี่เธอยังเป็นคนสำคัญของเขาอยู่หรือเปล่า
ป่านนี้เพื่อน ๆ คงกลับถึงบ้านกันแล้ว แต่ทอฝันยังคงอยู่บนถนนที่รถราหนาแน่นทั้งที่ตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว อาจเป็นเพราะสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสายจึงทำให้รถยังติดอยู่ ทอฝันขับรถมาเรื่อย ๆ จนใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
อีกประมาณร้อยเมตรก็จะถึงคอนโดมิเนียมของจิรายุ แต่รถข้างหน้าติดเป็นแถวยาวไม่ขยับสักที ฝนก็ยังคงลงเม็ดเป็นละอองเบาบางอย่างต่อเนื่อง
“กลับมาหรือยังนะ”
ทอฝันไม่มั่นใจเลยว่า เจ้าของห้องกลับมาหรือยัง กระนั้นในตอนที่ขับรถออกมาจากร้านอาหาร เธอก็เลือกที่จะเลี้ยวรถมุ่งหน้ามาบนเส้นทางที่จะมายังคอนโดของเขา
ทอฝันมองไปนอกรถ แล้วถอนหายใจ
“รถติดจังเลย” หญิงสาวบ่นแล้ววางสองมือทับกันไว้ด้านบนของพวงมาลัยรถ เกยคางบนหลังมือ เหลือบตาขึ้นมองตึกสูงที่อยู่ไม่ไกล
การมาโดยไม่บอกเจ้าของห้องก่อนทำให้เธอไม่มั่นใจเลยว่า เขาจะอยู่ห้องไหม หรือจะไม่พอใจหรือเปล่าที่เธอมาหาโดยไม่บอกล่วงหน้า
“โทรหาดีไหมนะ” ทอฝันรำพึงเบา ๆ กับตัวเอง เธอถอนหายใจบางเบา ขยับนั่งตัวตรง มองไปยังเบื้องหน้า รถราก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับสักนิด เธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขา
ทอฝันรอสายครู่หนึ่ง เจ้าของเบอร์ที่เธอโทรหาก็รับสาย
“จิ...กลับห้องหรือยัง”
เพราะกลัวว่าเขาจะยุ่ง กลัวว่าจะรบกวนเขา น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปจึงเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ
“เพิ่งกลับมาถึงครับ ฝันมีอะไรหรือเปล่า”
คำถามของเขาทำให้ทอฝันนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจไม่ถูกว่า จะถามเขาเรื่องที่เขาจะไปทำงานต่างประเทศ หรือจะบอกเขาว่าเธอกำลังจะไปหาเขาที่ห้องดี
“ทำไมเงียบล่ะครับ ถ้าไม่มีอะไร ผมขอวางสายนะ ผมเพลียมากเลย อยากพักผ่อน”
“เอ่อ..เห็นจาบอกว่า จิจะไปสิงคโปร์” ทอฝันคิดว่าการถามเขาแบบนี้ มันน่าจะดีกว่าถามตรง ๆ เพราะเขาจะได้ไม่รู้สึกว่าเธอวุ่นวายชีวิตเขาไปเสียทุกเรื่อง
“ใช่ครับ ผมจะเดินทางสัปดาห์หน้า”
จิรายุตอบสั้น ๆ โดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม ในขณะที่คนถามรอฟังเหตุผล รอให้เขาบอกว่าเพราะอะไรเขาถึงไม่ได้บอกเธอ หากเขาบอกว่าลืม หรือบอกว่ากำลังจะบอกเธออยู่พอดี หรือไม่ว่าเขาจะหยิบยกเหตุผลใดมาอ้าง เธอก็พร้อมจะเข้าใจ และจะไม่ว่าอะไรสักคำ แต่เขากลับเงียบ ไม่พูดอะไรต่อ
คนรอกลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ตรงลำคอลงไป สูดลมหายใจลึก แล้วเอ่ยถามเสียงเบาหวิว
“เอ่อ...ก่อนจิเดินทาง เราดินเนอร์กันสักมื้อดีไหม”
“อือ...เป็นวันมะรืนแล้วกันนะ แล้วเจอกันที่ห้องผมนะครับ ตอนนี้ผมเหนื่อยมาก ขอตัวนอนก่อนนะครับที่รัก”
“อือ...หลับฝันดีนะคะ ฝันรักจินะ”
“ครับ”
จิรายุวางสายไปแล้ว เป็นจังหวะพอดีกับรถข้างหน้าเริ่มขยับ ทอฝันจึงวางโทรศัพท์ลงบนตัก และขับรถตามคันหน้าไปเรื่อย ๆ กระทั่งขับมาจนใกล้จะถึงทางเข้าคอนโดมิเนียมของเขา ทอฝันลังเลใจว่า ในเมื่อมาถึงแล้ว เธอควรจะเลี้ยวรถเข้าไปดีไหม แต่สุดท้ายแล้ว ทอฝันก็เลือกที่จะขับเลยไป เธอไม่อยากรบกวนเขา เธออยากให้เขาพักผ่อนเยอะ ๆ เธอจะรอวันมะรืน เอาไว้เจอหน้ากัน แล้วค่อยพูดคุยเรื่องราวมันค้างคาอยู่ในใจดีกว่า
วันต่อมา ทอฝันไปดูแลร้านช่วงเช้า พอตกบ่าย เธอออกมาจากร้าน เพื่อจะไปเลือกซื้อชุดใหม่ เธอจะใส่ไปพบคนรักในวันพรุ่งนี้ เธออยากดูดีในสายตาเขา อยากให้การพบกันก่อนที่เขากับเธอจะต้องห่างกันไกลเป็นการพบเจอที่น่าประทับใจ
ทอฝันเตรียมของขวัญไว้ให้เขาด้วย เธอซื้อแหวนทองคำขาวสำหรับตัวเองและเขา ช่างโชคดีที่ในร้านมีแหวนคู่สองวงนี้ มันเป็นขนาดที่พอดีสำหรับเธอและเขา ไม่อย่างนั้นต้องสั่งทำและต้องรออีกหลายวัน ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่ทันก่อนวันที่เขาจะเดินทาง