EP 08
10:30 AM.
แสงสว่างจากระเบียงห้องที่สาดส่องเข้ามาเพียงรำไร ส่งผลให้เปลือกตาคู่สวยเปิดขึ้นท่ามกลางความเมื่อยล้าของร่างกายและความเจ็บปวดตรงดอกกุหลาบบวมชํ้า
เธอกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่พบร่างของพระรามแล้ว พิมเสนค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่ ส่องดูสภาพบอบชํ้าร่างกายตัวเอง บนเตียงนอนมีคราบเลือดกระเด็นอย่างน่าเกลียด..
"...ขอโทษนะเดียร์ ฉันขอโทษ" ใบหน้าหวานก้มลงเธอพึมพำออกมาเสียงสั่นเครือ ขอบตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้
Line! เสียงแอปพลิเคชันชื่อดังแจ้งเตือนขึ้น พิมเสนยกหลังมือลูบหน้าตัวเองลวกๆแล้วเดินพยุงร่างกายตัวเองไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ
'PRA RAM' ส่งคลิปวิดิโอ
'PRA RAM' เอามาฝาก เผื่อเธอคิดถึงฉัน :)
ปลายนิ้วขาวสะอาดกดออกจากหน้าไลน์ เธอกดปิดเครื่องแล้วทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียง ศีรษะหนักอึ้งแทบจะทรงตัวไม่ได้ แต่ยังไงก็ไม่มีเวลาให้พัก พิมเสนตัดสินใจไปทำธุระส่วนตัวในห้องนํ้าและสวมชุดเดิมออกมาจากม่านรูด เธอมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมมากินป้องกันไว้ก่อนจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
@มหาลัย คณะวิศวกรรมศาสตร์
"ยิ้มไรของมึงว่ะ ดูขนลุกชิบหาย" เวหาที่ยืนพ้นควันบุหรี่ไฟฟ้าลอยคละคลุ้งไปทั่วหลังตึกมุมประจำเอ่ยถามพระราม ที่ยืนจ้องโทรศัพท์พร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย มืออีกข้างยังคงถือที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเอาไว้
"เปล่า ไปเถอะ"
"เดี๋ยวดิ ขอสูบให้หายอยากแป๊บ" พระรามปรายตามองเวหาแวบเดียว ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ที่กางเกงยีนเหมือนเดิม
"อืม"
"แล้วนี้มึงจัดการคนที่ปล่อยคลิปมึงรึยังว่ะ"
"คิดว่ากูจะปล่อยหรอ"
"ถามจริง มึงไปทำไร่ให้เขา เขาถึงได้เล่นงานมึงแบบนี้"
"ต่อให้เล่นหนักกว่านี้ กูก็ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว" ชายหนุ่มตอบไม่ใส่ใจนัก แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวไม่มีปัญญาทำอะไรเขาได้หรอก
"คงไม่กล้าเล่นหนักกว่านี้แล้วมั้ง ถ้ารู้ว่ามึงเป็นใคร" พูดจบเวหาก็เก็บบุหรี่เอาไว้ จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วตบไหล่พระรามเบาๆให้เป็นเชิงตามมาแล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากหลังตึก ไปยังห้องเรียนที่กำลังทำการสอนอยู่
"ไปไหนมาว่ะ" ยูริที่กำลังนั้งคํ้าคางด้วยท่าทางเบื่อๆถามขึ้น
"รู้ๆกันอยู่" คินตอบแทน
"พวกเหี้ย"
"มึงคนดีตายแหละ ยัยทอมหัวโปก" เวหาพูดแซวเธอพลางจับปากกาขึ้นมาหมุนเล่น
"ไม่แซ่ซักเรื่องก็ดี"
"นั้นปากผู้หญิงหรอว่ะ"
"ไม่เชื่อมึงก็ลองจูบดูดิ" ยูริตอบด้วยท่าทางกวนประสาท ลิ้นบางดันกระพุ้งแก้มท้าทาย ซึ้งเป็นเรื่องปกติของทั้งสองคนนี้ที่กัดกันเป็นงานประจำ
"เฮ้อ" เคถอนหายใจพลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ลำพังเรียนก็เหนื่อยจะแย่ เจอเพื่อนกัดกันยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ กัดกันธรรมดายังพอรับได้ แต่พวกนี้มันกัดกันแต่ละทีนั้นชวนขนลุกไปตามๆกันอย่างเช่นเมื่อกี้..มันมีที่ไหนบอกกันให้ลองจูบปาก?
"เป็นเหี้ยไร" เจ้าของเสียงหวานขัดกับท่าทางพูด เรียวคิ้วขมวดยุ้ง
"เป็นคนหล่อ"
"มึงชมกูหรอ? " คินฉีกยิ้มกว้างเมื่อฝาแฝดตัวเองบอกว่าเป็นคนหล่อ ซึ้งนั้นก็หมายถึงเขาด้วย
"เปล่า กูชมตัวเอง"
"แต่เราหน้าตาเหมือนกัน"
"แล้วไง กูหล่อกว่ามึง"
"ได้ไง กูต้องหล่อกว่ามึงสิ"
"มึงจะเอาไง? /มึงจะเอาไง? " สองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพียง นั้นทำให้ยูริที่เริ่มรำคานหันมาสนใจบนจอแทน ส่วนพระรามเองก็ไม่ได้สนใจอะไรชายหนุ่มนั้งเล่นโทรศัพท์ส่องอินตราแกรมของใครบางคน
"ไอ้คิน! /ไอ้เค! " และนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"กู หล่อ กว่า มึง! "
"กู ต่าง หาก! "
ปึก!
ตุ้บ!!!
"เชี้ย...ไอ้เหี้ยราม! " ร่างของทั้งสองเซล้มตกเก้าอี้ทับกันเมื่อเจอฝ่าท้าวอรหันต์ของพระรามที่ถีบเข้าให้เต็มๆอย่างนึกรำคาน สร้างเสียงหัวเราะของนักศึกษาทั่วห้อง รวมถึงอาจารย์ที่สะดุ้งตกใจอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก..
"โทษครับจารย์ ตีนมันลั่นไปเอง" พระรามเรียกสติอาจารย์กลับมา หญิงวัยกลางคนสวมแว่นตามีสายระโยงระยาง บวกกับแต่งแต้มหน้าจัดจ้านได้สติกลับมา หล่อนจับขาแว่นขึ้นจากจมูกแบนราบ
"อะ แฮ่ม เบาๆค่ะนักศึกษา" ร่างกลมป้อมหันกลับไปสนใจเนื้อหาที่กำลังสอนต่อ
ยูริและเวหาที่กำลังนํ้งกลั้นขำสุดฤทธิ์ยกนิ้วให้พระรามอย่างชอบใจ ท่ามกลางความไม่พอใจของสองแฝด
"มึงเจอกูแน่ให้เพื่อนเหี้ย! " คินพูด แล้วลุกขึ้นมานั้งบนเก้าอี้เหมือนเดิมรวมถึงเค และทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติจนจบคลาสเรียนพักเที่ยง
"เอาล่ะค่ะ วันนี้อาจารย์ก็จบการสอนเพียงเท่านี้ อย่าลืมทำงานมาส่งด้วยนะคะ โดยเฉพาะนายกฤติเดชที่ติดเอฟวิชาของอาจารย์ ก่อนที่เธอจะเรียนไม่จบกรุณารีบนำงานมาส่งด้วย"
"...." พระรามถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ยํ้าอะไรขนาดนั้น?
"ได้ยินที่พูดไหม"
"ได้ยินครับ ผมไม่ได้หูตึงแต่ถ้าอาจารย์ยํ้าบ่อยเกินไปหูอาจารย์อาจจะตึงเพราะเจอลูกปืนผมก็ได้นะครับ.."
"...." หล่อนสะดุ้งตกใจ ตัวสั่นเทามือเหี่ยวย่นรีบเก็บของเข้ากระเป๋ามองพระรามอย่างหวาดระแวง
"ผมแค่ล้อเล่น :) " ชายหนุ่มทิ้งท้ายไว้พร้อมรอยยิ้มยั่วบาทาแต่ใครๆเขาก็รู้ว่าเขาไม่เคยพูดเล่น..ก่อนที่ร่างหนาจะเดินรั้งท้ายกลุ่มเพื่อนๆออกจากห้องไป
"วันนี้กินข้าวคณะไหนดีว่ะ" คินถามพร้อมกับกวาดแขนโอบรอบลำคอหนา
"แพทย์" ชายหนุ่มตอบ ส่งผลให้ทุกสายตาของเพื่อนในกลุ่มหันมามองเป็นตาเดียว
"ไหนบอกไม่ชอบเด็กแพทย์ ทำไมวันนี้มาแปลก" ยูริกอดอกถาม
"เปล่า แค่อยากลอง"
"มึงแน่ใจ? " เคถาม
"เออ"
"งั้นก็รอไร หิวไส้จะขาดแล้วโว้ยยย"
"หิวข้าวหรือหิวหอยครับ"
"ส้นตีน" คินสบถใส่หน้าแฝดพี่ แล้วทั้งหมดก็เดินไปยังคณะแพทย์ที่อยู่ไม่ไกลนัก
อีกด้าน...
หมับ!
"พ..พิม ไหวมั้ย" รุ่นพี่หมอจบใหม่ที่มาช่วยอาจารย์สอนในคลาสนี้อย่าง 'คิรัน' เจ้าของหน้าตาหล่อเหลา ความสูงร้อยแปดสิบอัป ผิวขาวสะอาด เครื่องหน้าหล่อทุกสัดส่วน เอ่ยถามเธอ
เมื่อจู่ๆพิมเสนที่กำลังจะเดินไปพักเที่ยงเป็นคนสุดท้ายเกิดร่างกายอ่อนเพลียเกือบเซล้ม คิรันจึงเข้ามารับได้ทันเวลาพอดี มือหนาจับที่เอวขอด ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นร้อน
"ว..ไหวค่ะ ขอบคุณนะคะ" พิมเสนตอบ เธอพยายามพยุงร่างตัวเองยืนทรงตัว
"ไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม เผื่อเป็นอะไรมันอันตรายแล้วนะแบบนี้"
"พิมไหวจริงๆค่ะ"
"อย่าดื้อสิครับ" คิรันย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน มือหนาอังหน้าผากมนก็แทบจะชักมือกลับไม่ทันเมื่อความร้อนดั่งละอองไฟสัมผัสกับหลังมือ
"พิมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะ"
"แต่เท่าที่พี่ดูเรามีอาการไข้ขึ้นสูงนะ เดินก็แทบจะทรงตัวไม่ไหว ไปทำอะไรมา หื้ม? "
"พ..พิม ตากแดดนานเกินไปมั้งค่ะ แล้วก็เมื่อเช้าลื่นห้องนํ้าด้วย ส..สงสัยขาจะพลิก" พิมเสนก้มหน้าหลบสายตาอบอุ่นของคิรัน เสียงสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัดเจน
"ถ้างั้นเดี๋ยวพี่พาเราไปฉีดยาที่โรงบาลดีกว่า เข็มเดียวหายแน่นอน" คิรันฉีกยิ้มออกมา แต่ทว่ากลับรู้สึกขนลุกไปตามๆกัน
"...คือว่า"
"เอาเป็นว่าตกลงนะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยสรุปเอาเอง พิมเสนไม่มีทางเลือกเธอยอมไปตรวจดูอาการตามที่คิรันบอก
"เดินไหวมั้ย"
"ไหวค่ะ"
"พี่พยุงดีกว่า ถ้าเจ็บอยู่เดินออกแรงมากๆมันไม่ดี" คิรันไม่รอช้ารีบเข้าไปโอบไหล่เธออย่างถือวิสาสะ แล้วพยุงเธอออกมาจากตึก เป็นเป้าสายตาของใครต่อหลายคน เพราะชายหนุ่มก็เคยมีชื่อเสียงในมหาลัยมาก่อน แล้วทั้งสองคนจึงเดินมาถึงรถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่ คิรันจัดการคาดเข็มขัดให้เธอเสร็จสับ ร่างหนาเดินอ้อมไปยังฝั้งคนขับแล้วเคลื่อนรถออกตัวมุ้งไปยังโรงพยาบาล
21 : 30 AM.
"พี่คินคะ พิมพ์มีเรื่องอยากขอร้องให้พี่คินช่วย" หลังจากที่จอดอยู่หน้าหอมาได้สักพักพิมเสนจึงตัดสินใจพูดในสิ่งที่เธออัดอั้นใจออกไป
"ช่วยอะไรครับ" คิรันที่กำลังสารวลอยู่กับการเช็คยาในถุง หันกลับมามองเสี้ยวหน้าหวาน
"คือ..พี่คินช่วยแฮ็คไอจีของใครสักคนให้พิมหน่อยได้ไหมคะ พิมจำเป็นจริงๆ"
"แต่ทำแบบนี้มันผิดนะครับ"
"นะคะพี่คิน พิมไม่รู้ว่าจะให้ใครช่วยแล้ว"
"งั้นพิมก็ช่วยบอกเหตุผลพี่มาหน่อย ว่าไอ้สิ่งที่จำเป็นมันคืออะไร? "
"พิมต้องการหลักฐานอะไรบางอย่างเพื่อยืนยันว่าพิมไม่ได้เป็นคนผิด.." คิรันชักสีหน้างุนงงก่อนจะพยักหน้าเบาๆเหมือนนึกออกว่ามันเรื่องอะไร
"เรื่องคลิปหลุดที่กำเป็นกระแสตอนนี้ใช่ไหม"
"ใช่ค่ะ"
"แล้วพิมก็ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมัน พี่หมายถึง พระรามหน่ะ ทำไมนายนั้นต้องสงสัยพิมด้วย" คิรันแสยะยิ้มมุมปากพลางนึกอะไรดีๆออก
"มีเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้นิดหน่อยค่ะ"
"ทางที่ดีอย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า"
"พิมพ์ก็ไม่เคยคิดจะยุ่ง แล้วก็อยากจบเรื่องนี้เร็วๆด้วย"
"พี่จะช่วยเราเอง แล้วคนที่พี่ต้องเจาะข้อมูลคือใคร? " คำพูดของคิรันส่งผลให้พิมเสนหันไปมองคนข้างกายด้วยความดีใจ คิรันนอกจากฉลาดเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปแล้ว ยังเคยแข่งขันด้านคอมพิวเตอร์ในระดับนานาชาติตอนยังเรียนอยู่อีกด้วย
"เดี๋ยวพิมพ์ส่งไปให้ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะพี่คิน"
"พี่ว่างทำให้เราแค่วันนี้นะพิมพ์ พรุ่งนี้เข้าเวรจนไม่มีเวลาว่างเลย" คิรันพูดตัดบทเมื่อเห็นท่าทีของร่างเล็กที่กำลังจะลงจากรถไป
"อ้าว พี่คินสะดวกทำที่ไหนละคะ"
"ห้องพิมได้ป้าว.." พิมเสนชะงัก เธออํ้าอึ้งพูดอะไรไม่ออก
"พอดีพี่ได้ยินอาจารย์บอกว่าเพื่อนพิมเขากลับไปเยี่ยมบ้านหน่ะ แต่ถ้าพิมไม่ไว้ใจพี่ก็ไม่เป็นไรนะ พี่แค่ต้องการสถานที่ที่มันเป็นส่วนตัวเพราะเรื่องที่เราจะทำมันก็ไม่ค่อยจะถูกต้องเอาซักเท่าไหร่"
"ถ้าอย่างงั้นก็ ทำห้องพิมก็ได้ค่ะ..."
"คิดมากอะไรอ่ะเรา ถ้าพี่คิดจะทำพี่ทำไปนานแล้ว" คิรันกลั้วขำออกมา มือหนายีผมเธอเล่น
"ค่ะ.."
"งั้นเราก็ไปกันเถอะ จะได้รีบทำรีบเสร็จ" ร่างหนายัดกายออกจากรถ พิมเสนจึงเปิดประตูออกมาจากรถติดๆทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปยังห้องของพิมเสนทันที
เอี๊อด...
"ห้องพิมพ์รกหน่อยนะคะ เล็กด้วย" พิมเสนเดินนำเข้ามาในห้อง มือบางเอื้อมไปเปิดไฟ
"ไม่เป็นไรพี่เป็นคนง่ายๆ"
"โน๊ตบุ๊คอยู่ตรงนั้นนะคะ เดี๋ยวพิมลงไปซื้ออะไรมาให้กินเป็นการตอบแทน" พิมเสนชี้ไปยังหน้าจอคอม แล้วเดินไปชาร์จแบตโทรศัพท์ที่แบตหมดจนเครื่องดับเอาไว้ เธอกดเปิดเครื่องแล้วหยัดกายลุกขึ้น
"ครับ" คิรันขานรับพร้อมรอยยิ้ม ที่จริงเขาก็เคยมาห้องเธอบ้าง แต่มาทำธุระแค่แป๊บเดียว ไม่ได้มาสองต่อสอง
"พิมฝากห้องแป๊บนึงนะคะ" คิรันชูนิ้วโอเคแล้วหันไปสนใจจอ ที่พิมเสนยอมปล่อยให้ชายหนุ่มอยู่ในห้องตามลำพังก็เพราะห้องเธอมันไม่ได้มีของสำคัญหรือความลับอะไร อีกอย่างคิรันก็ไม่ใช่คนอันตรายอะไร
เมื่อลับร่างพิมเสนไปได้สักพักคิรันก็ทำไปเรื่อยๆแต่เมื่อถึงขั้นตอนการเจาะข้อมูลเขากลับยังไม่ได้ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นเลย เป็นจังหวะเดียวกันกับโทรศัพท์พิมเสนสั่นเครือเป็นรอบที่สิบ..
ครืด~ ครืด~
คิรันตัดสินใจลุกขึ้นไปดูแต่หน้าจอกลับไม่ปรากฏชื่อ เขาจึงกดรับสายแทนเผื่อใครมีเรื่องฉุกเฉินหรือเร่งด่วนอะไร..
"ฮัลโหลครับ"
(....) พระรามนิ่งเงียบ เมื่อได้ยินเสียงปลายสายที่ไม่ใช่เสียงพิมเสน เรียวคิ้วขมวดยุ่งพันกัน มือหนาบีบโทรศัพท์แน่น เขากำลังโกรธและคิดว่า..
พิมเสนพาผู้ชายเข้าห้อง?
.
.
.
รางร้ายแล้วพิม หนีไป! 55555555555555
Next..
"ที่ไม่รับโทรศัพท์มานอนกกผู้ชาย!? "