"สงสารแต่แม่ปลาบู่ อาศัยอยู่ ในฝั่งคงคา~ "
"ฉันให้เธอมาให้อาหารปลาคราฟ ไม่ใช่ปลาบู่" คนตัวสูงที่ยืนค้ำหัวฉันอยู่เอ่ยบอกด้วยสีหน้าหงุดหงิด เมื่อเขาเห็นว่าฉันกำลังโปรยอาหารปลาแล้วร้องเพลงกล่อมมันก็แค่นั้น ทำเป็นไม่พออกพอใจไปได้
"ฉันให้อาหารเสร็จแล้วกลับบ้านได้ยัง"
"ยัง"
"ต้องให้ฉันทำอะไรอีกเนี่ย" ฉันยู่หน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์ เล่นลากคนอื่นมาตามใจชอบตอนนี้ยังจะไม่ให้กลับบ้านอีกเหรอ
จะเลวเกินคนไปแล้วนะเว้ย!
"อีกอย่างเลิกแทนตัวเองว่าฉัน แล้วเรียกฉันว่าเฮียราม"
"อ๋อ~ เหี้ยราม"
"เฮีย... ลิ้นมีปัญหาหรือหูไม่ดีทำให้เธอเรียกผิดอีกทีฉันจะได้จัดการที่ต้นตอ" คนตรงหน้าชี้หน้าขู่ไม่พอยังใช้มือหักกิ่งไม้เป็นสองท่อนข่มกันอีกต่างหาก
"เฮียรามแค่นี้ก็ขู่กันเหรอ ฉันอุ้ย! หนูออกจะเป็นเด็กดี" ฉันแสร้งตีหน้าใสซื่อถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้เชื่อเลยก็ตาม
"น้อยไปต่างหาก"
"ไอ้รามทำไมวันนี้มึง..." เสียงทุ้มเข้มที่ดังขึ้นทำให้เราสองคนละสายตาหันไปมองยังต้นตอของเสียง
ผู้ชายร่างสูงเดินเข้ามาใหม่กำลังพูดขึ้นแต่กลับย่นคิ้วมองมาที่ฉันแล้วหันไปกระซิบกับเฮียรามแทน ทั้งๆที่ฉันก็ยืนหัวโด่แถมได้ยินทุกคำพูดของเขาอีกต่างหาก
"มึงไปเอาลูกใครมา คงไม่ได้เก็บได้จากถังขยะใช่ไหมวะ" นี่คิดว่าคนจะเจอได้ตามถังขยะหรือไง
"ไม่ใช่ ได้มาเพราะดวงซวยต่างหาก"
"กูบอกมึงแล้วว่าให้เข้าวัดทำบุญบ่อยๆ"
"จะไปไหน?" เฮียรามเอ่ยถามทันทีที่ฉันพยายามจะกระดึบหนีออกจากพวกเขาทั้งสอง
"ไม่ได้ไปไหน พอดีแม่สอนไว้ว่าไม่ให้เข้ามาแทรกตอนคนแก่เขาคุยกัน" ฉันฉีกยิ้มบอกแต่ใจจริงอยากจะกระโดดตีหลังกาออกไปจากที่นี่ซะตอนนี้เลยต่างหาก
"งั้นเหรอ?" เฮียรามหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อใจ ก็แน่ละถ้าเขาไม่โง่ก็คงจะดูออก
"แน่นอน"
"งั้นก็ไปรอในบ้าน" เอ้า! โง่จริงวุ้ย
ฉันนั่งรอนอนรออยู่มาเกือบสามแสนล้านภพสามแสนล้านชาติ ในที่สุดเฮียรามและใครอีกคนก็เดินเข้ามานั่ง
"เฮียชื่อเฮียบีเอ็มนะ เรียกเฮียเอ็มก็พอแล้วเราล่ะ" คนที่เดินมากับเฮียรามยิ้มบอกแนะนำตัวตรงหน้าฉันอย่างเป็นมิตร
"หนูชื่อถ้วยฟูค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"ถ้วยฟู? มีพี่น้องชื่อขนมเข่งบ้างไหม" เฮียเอ็มพูดติดตลกเอ่ยแซวชื่อฉัน นี่กะเล่นมุกใช่ไหม ฮ่าๆ ฮาตายเลย
"ไม่มีหรอกค่ะ มีแต่พ่อชื่อบัวลอย"
"จริงดิ"
"เอ้า จะโกหกทำไมคนเรานี่ก็แปลก"
"จะกลับเลยไหม" เฮียรามที่นั่งเงียบอยู่ก็พูดขึ้นทำให้ฉันหันไปฉีกยิ้มหน้าบานอย่างอารมณ์ดี ทว่าคำตอบของเขาทำเอาฉันต้องหุบยิ้มลงอย่างไว
"ลาก่อน"
"ไม่ได้หมายถึงเธอ มึงจะกลับเลยไหมไอ้เอ็ม"
"นี่มึงไล่กู?" เฮียเอ็มหันไปชี้นิ้วเข้าหาตัวเองมองเฮียรามด้วยสายตาสั่นระริก
"เออ"
"ใช่สิ กูมันไม่สำคัญแล้วนี่ แม้แต่น้องสาวกูก็ยังเมิน" คนตัวโตแต่ใจเท่ามดเบะปากเอ่ยเสียงเครือ อย่างน้อยอกน้อยใจ
"ไปกันใหญ่" เฮียรามถอนหายใจทิ้งแล้วส่ายหน้าราวกับเขาเหนื่อยหน่ายใจกับคนข้างๆเต็มทน
"ทำไมวะ ทำไมกูไม่ได้รับความรักความห่วงใยจากใครเลยวะมีแต่เงินแต่แม่งไม่มีประโยชน์อะไรเลย" เฮียเอ็มเริ่มโวยวาย แต่แทนที่เฮียรามจะปลอบกลับเอาแต่นั่งท้างคางเสมองไปทางอื่นแทน ไม่ได้สนใจใยดีอีกคนเลยสักนิดจนฉันที่เป็นคนดีแม่พระแสนอ่อนโยนก็อดไม่ได้ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยปลอบ
"หนูปลอบให้เอาไหม ลูบหัว1,000 กอดปลอบ2,000 "
"เอาไป5,000 แล้วบอกเฮียทีว่าเฮียทำผิดอะไร ทำไมใครๆ ก็ใจร้ายกับเฮียจัง" เฮียเอ็มควักแบงค์พันห้าใบยื่นมาให้ฉันแล้วเอ่ยถามหน้าตาจริงจังสุดๆ
นี่ถ้าฉันไม่รู้ว่าเขารู้จักกับเฮียรามมา ฉันคงคิดว่าเขาคงหลุดจากศรีธัญญามาแน่ๆ
"ไม่เลย เฮียเอ็มไม่ได้ผิดสักนิดเดียว คนที่ดูแม้แต่หางตาก็รู้ว่าเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จะไม่มีคนรักได้ไง"
"ใช่ไหม เฮียก็ว่างั้น"
"มึงเชื่อเด็กนี่เหรอไอ้เอ็ม" เฮียรามปรายตามาตำหนิฉันที่พูดเข้าข้างเฮียเอ็ม ส่วนฉันก็แค่กรอกตามองบนไม่ได้สนใจสายตาที่แทบจะแทงทะลุอกของเขา
"กูเชื่อ กูว่าน้องมันไม่ได้โกหก"
"ใช่หนูถือศีลข้อ1 ไม่พูดปดโกหกแน่นอน" ฉันชูสองนิ้วเพื่อเป็นการยืนยัน
"ศีลข้อ5 ต่างหากล่ะยัยโง่ โง่แล้วยังอวดฉลาด"
"อ้าวเหรอ?" ฉันลอยหน้าลอบตาตอบโนสนโแคร์ ถามว่าอายไหม.. ก็ไม่ ตัวแม่จะแคร์เพื่อ ไม่แคร์อยู่แล้วจ้า
"ไม่เป็นไรคนเราผิดพลาดกันได้เฮียไม่ถือ" เฮียเอ็มพูดปลอบฉันที่หน้าแตกต่อหน้าเขา แม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิดเลยก็ตามคนอย่างฉันมันหน้าด้านหน้าทนอยู่แล้ว
"เฮียเอ็มนี่เป็นคนดีจัง เฮียแต่งงานกับหนูไหม หนูมีครบทุกอย่างพร้อมหนี้สินรับรองชีวิตเฮียเอ็มจะมีแต่ความบันเทิง ตามด้วยโรคประสาทเป็นของแถม"
"....."
"ตัดสินใจตอนนี้แถมฟรีปลากระป๋องสามแม่ครัว1แพค"
ลดแลกแจกแถมกันไปเลยสิคะ