Stay Hug ที่พบรัก 25

1180 Words
Stay Hug ที่พบรัก 25 “อ้าว นั่นไงคะคุณอิงออกมาพอดี” “ขอบคุณครับ” เสียงพูดคุยกันดังขึ้นที่บริเวณหน้าล็อบบี หันไปมองก็พบว่าเป็นพี่แทนคุณที่ยืนคุยอยู่กับพี่แก้ว ส่วนฉันยังยกโทรศัพท์แนบหูคุยกับพี่ชายตัวเองอยู่ (เป็นผู้หญิงสองคนแล้วก็ผู้ชายหนึ่งคน วันศุกร์ให้เข้มเข้ามารับที่โรงแรมสาขาใหญ่นะ) พี่อชิบอก “ได้ค่ะ แล้วสัญญาให้ทำกับทางนี้ใช่ไหมคะ” (ใช่ ฐานข้อมูลจะเป็นพนักงานที่ทางเด็กดูแล) “โอเคค่ะ จะได้เตรียมเอกสารไว้ แล้วก็ตรงสวนทางเข้าไร่หนูจะปรับพื้นที่แล้วลงดอกไม้ใหม่เลยนะ” เรื่องนี้เสนอพ่อกับแม่ไปแล้ว และทุกคนก็เห็นด้วยดังนั้นต้องเตรียมการเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ (ได้เลย เดี๋ยวว่างแล้วพี่จะขึ้นไปหา) “รับทราบค่ะ แค่นี้ก่อนนะ” (ครับ ดูแลตัวเองด้วย) กว่าที่เราสองพี่น้องจะวางสายจากกันก็สักพักใหญ่ ขนาดเดินไปรับกล่องหมูกรอบที่ฝากพ่อครัวอุ่นให้และเดินกลับออกมาก็ยังคุยโทรศัพท์อยู่ ทั้งยังมีคนที่ยืนรออยู่ไม่ไกล “มานานหรือยังคะ?” เอ่ยถามคนตรงหน้าพร้อมทั้งส่งยิ้มให้บาง ๆ “สักพักแล้ว โทร. หาไม่ติดเลยมาถามกับพนักงาน” “อ๋อ เราคุยกับพี่อชิอยู่ค่ะ แล้วนี่กินข้าวหรือยังคะ?” เอ่ยถามอย่างไม่คิดอะไรมากและในมือตัวเองยังถือหมูกรอบไว้อยู่ดังเดิม กลิ่นหอมมากอยากนั่งกินแล้วอะ “ยัง พี่กับน้อง ๆ อยากกินหมูกระทะเลยจองที่นี่ไว้น่ะ ไปนั่งกินด้วยกันไหม?” เขาเอ่ยชวนอย่างใจดี แต่เป็นฉันเองที่ไม่สบายใจ และไม่กล้าไปนั่งกินมื้อเย็นกับพี่น้องของเขา “เกรงใจค่ะ อีกอย่างเรายังไม่ได้สนิทกับพี่ ๆ ทุกคนขนาดนั้นอะ” “รู้จักกับเทียนอยู่นี่ พวกนั้นก็บอกให้มาชวนเพราะอยากกินข้าวด้วย” พี่แทนคุณยังรบเร้า แต่เขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงข่มขู่หรือบังคับแต่อย่างใด แววตาที่ใช้จ้องมองฉันอยู่นั้นทำให้รู้สึกเหมือนเขากำลังขอร้องกันเสียมากกว่า เราต่างมองตากันสักพัก และท้ายที่สุดฉันก็ยอมพยักหน้าและตอบตกลงไปนั่งกินมื้อเย็นพร้อมกับคนตรงหน้าและพี่น้องของเขาจนได้ “ก็ได้ค่ะ” “ขอบคุณครับ ไปกัน ส่งจานมาเดี๋ยวถือให้” แค่เพราะคำว่าครับของเขา ทำให้ฉันถึงกับหัวใจเต้นแรงตึ้กตั้ก ปกติเขาไม่ใช่คนพูดเพราะอันนี้ฉันรู้ดี ติดจะห้วน ๆ ด้วยซ้ำตามประสาเจ้าของไร่ที่ต้องสั่งงานลูกน้อง แล้ววันนี้เหมือนเขาจะใช้น้ำเสียงอีกหนึ่งโทนเสียงเพื่อคุยกับฉัน เลยรู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย “มาแล้ว ๆ นั่งเลยครับ” พี่แทนไทรีบบอก เมื่อเห็นว่าเราสองคนเดินไปใกล้โต๊ะ ไม่รู้ว่าพวกเขาจองโต๊ะทันได้อย่างไร ยิ่งมีฝนโปรยปรายแบบนี้แล้วด้วย ปกติจะจองยากมากเลยนะ “พวกพี่สั่งอาหารไปเยอะมากเลย แต่ขอรีวิวหน่อยว่าโต๊ะจองยากมาก” ท้ายประโยคพี่เทียนฟ้าป้องปากกระซิบบอกฉัน เมื่อได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะเบา ๆ ที่จริงที่นี่ไม่มีบริการให้ลูกค้าข้างนอกหรอก เพราะแบบนี้เลยสงสัยว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาจองโต๊ะได้ ทั้งที่มีจำนวนโต๊ะค่อนข้างจำกัด แต่เอาไว้ค่อยถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉันก็แล้วกัน “สั่งไปนานหรือยังคะ?” ฉันเปลี่ยนเป็นเอ่ยถามถึงอาหารกับพี่ ๆ แทน ส่วนคนที่เพิ่งนั่งลงข้าง ๆ จัดเตรียมหมูกรอบมาวางตรงหน้าให้ฉันกินเล่นรอ “อร่อยไหม?” คนข้างกายเอ่ยถามเสียงเบา ส่วนพี่น้องของเขากำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ “ค่ะ อร่อยมากเลย” ฉันยืนยันด้วยรอยยิ้มอย่างขอบคุณอีกฝ่าย “ขออนุญาตตั้งเตาครับ” เสียงพี่ปาเจดังขึ้นเบา ๆ ฉันถึงได้ขยับตัวให้เขาตั้งเตา ที่นี่ฉันเลือกใช้เป็นเตาถ่านไม่ใช่แก๊สกระป๋อง เพราะหลงรักกลิ่นหอม ๆ เวลาย่างเนื้อน่ะ คล้อยหลังพี่ปาเจ พี่จริงใจก็เดินถือชุดหมูกระทะมาส่งให้พร้อมกับจาน ช้อน และแก้วครบจำนวนคน “สั่งเครื่องดื่มเพิ่มไหม? เฮียจะดื่มหรือเปล่า” พี่แทนคุณเอ่ยถามพี่ชายคนโตของเจ้าตัวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เดี่ยว ที่จริงทุกคนแยกกันนั่งคนละมุม มีแค่ฉันที่นั่งฝั่งเดียวกับเพื่อนพี่ชาย “เอา ๆ เด็ก ๆ จะดื่มไหม?” “ดื่มครับ” พี่ทิศเหนือตอบ พี่แทนคุณจึงเรียกพี่ลินดาไว้ ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มที่พี่น้องของเขาอยากดื่ม ส่วนฉันน้ำเปล่าก็พอแล้ว วันนี้ท้องว่างยังไม่อยากดื่มเท่าไหร่ “แพ้อะไรไหม พวกเฮียจะได้ไม่เอาใส่กระทะ” พี่แทนไทเอ่ยถามฉันอย่างใจดี “ไม่แพ้ค่ะ กินได้ทุกอย่างเลย” ฉันตอบและคีบหมูกรอบใส่จานพี่แทนคุณที่เริ่มย่างของกินมาเติมในจานให้ฉันอยู่เรื่อย ๆ จนเกือบพูน ฉันไม่ค่อยได้คุยอะไรมากนักกับพี่ ๆ แต่ทุกคนยังเทกแคร์ฉันอย่างดี คอยคีบคอยตักอาหารมาใส่จานให้ รวมถึงคนข้าง ๆ ที่ขยันตักอาหารมาให้เหลือเกิน “พอก่อน เรากินไม่ทัน” รีบเตือนคนข้าง ๆ ที่เพิ่งคีบเบคอนย่างมาใส่จานให้ “กลัวไม่อิ่ม” เขาตอบเสียงเบาทั้งยังมองฉันนิ่ง ๆ “อิ่มแล้ว กินหมูกรอบไปเยอะมากค่ะ” “...อีกสักหน่อยไหม?” เขาถามเพราะยังไม่ยอมหยุดคีบของกินใส่จานฉัน ส่วนพี่น้องของเขาก็ทำเพียงแอบมองและยิ้มขำกันอย่างมีเลศนัย “กินบ้างเถอะค่ะ อย่ามัวแต่ดูแลเรา” ฉันคีบของกินใส่จานเขาบ้างเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งยังบอกให้เขากินของที่ฉันคีบให้ ทีแรกอีกฝ่ายยังไม่ยอมกิน ฉันเลยดื้อดึงใช้วิธีคีบแล้วยกขึ้นจ่อที่ริมฝีปาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขายอมอ้าปากรับและกินเองบ้าง “แหม เฮียบอกไม่ยอมกินนะ ต้องรอน้องดุก่อนใช่ไหม?” พี่แทนไทแกล้งแซวน้องชายคนโตของบ้าน “อะไรครับ ไม่ใช่สักหน่อย” คนโดนแซวเอ่ยปฏิเสธเสียงแผ่ว แต่มือยังคีบของกินมาใส่จานให้ฉันไม่ขาด ฉันเองก็มีแอบคีบจากจานตัวเองไปใส่จานอีกฝ่ายเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน ก็กินไม่ทันอะ คีบกลับไปแล้วบังคับให้เขากินง่ายกว่ากินเองอีกนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD